“สิงห์บลูส์” เชลซี อาศัยประตูชัยของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ช่วงท้ายเกมช่วยให้พลิกกลับมาเอาชนะ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล 2-1 เข้าไปยืนรอชิงชนะเลิศศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ
ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ
อาร์เซนอล 1-2 เชลซี
อาร์แซน เวนเกอร์ หวังลูกทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล คงความมั่นใจเอาไว้จากการไม่แพ้ใครในลีกมา 18 นัดติดต่อกัน แต่เกมตัดเชือกเอฟเอ คัพ กุนซือชาวฝรั่งเศสต้องปวดหัวจากแนวรับที่เจ็บระนาว ยังดีที่ คีแรน กิบบ์ส ดาวรุ่งฟิตยืนแบ็กซ้ายได้ ส่วนแนวรุกพัก อังเดร อาร์ชาวิน ไว้ขอบสนามก่อน ด้าน กุส ฮิดดิงก์ ผู้จัดการทีม “สิงห์บลูส์” เชลซี กลับมาใช้งาน จอห์น เทอร์รี ค้ำหลังเหมือนเดิม แดนหน้าเติม นิโกลาส์ อเนลกา ล่าตาข่ายร่วมกับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา
เริ่มเกม อาร์เซนอล ครองบอลได้ไม่เป็นรอง ทว่าผ่านไปสามนาที เชลซี ได้ส้มหล่นเมื่อ ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี ผู้รักษาประตูดาวรุ่งทีมชาติโปแลนด์ ออกลูกเหวอออกมาจากกรอบโทษพยายามโหม่งเคลียร์บอลที่ถูกสาดมาแต่โดน ดิดิเยร์ ดร็อกบา กระโดดโขกตัดหน้าบอลกำลังจะเข้าประตู อย่างไรก็ตาม คีแรน กิบบ์ส วิ่งไปเคลียร์บอลจากเส้นประตูได้หวุดหวิด ผ่าน 15 นาทีแรก เกมดำเนินไปอย่างสูสี
ทว่าอีกสามนาทีถัดมาสาวก “กันเนอร์ส” ได้เฮกันถ้วนหน้าเมื่อทีมรักขึ้นนำ 1-0 กิบบ์ส เติมขึ้นมารับบอลจาก เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ก่อนเปิดจากสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายให้ ธีโว วัลคอตต์ แปทันทีบอลดูเหมือนจะแฉลบ แอชลีย์ โคล เล็กน้อยทำให้ ปีเตอร์ เช็ก เสียจังหวะปล่อยลูกหนังเข้าไปกองก้นตาข่าย พอเสียประตูไป “สิงห์บลูส์” ดาหน้าบุกขึ้นมา ฟลอรองต์ มาลูดา กึ่งยิงกึ่งผ่านบอลลอดแขน ฟาเบียนสกี แต่ก็หลุดเสาไกลไปด้วย
นาทีที่ 25 เชลซี ดันเกมอีกครั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด บี้บอลแดนกลางมาได้ก่อนไหลให้ ดร็อกบา แปบอลเร็วจากนอกกรอบเชิดคานออกไป อย่างไรก็ตาม อีกแปดนาทีถัดมา “สิงห์บลูส์” ตามเจ๊า 1-1 จนได้ แลมพาร์ด ตักบอลให้ มาลูดา หลุดเข้ากรอบโทษก่อนหักหลบ เอ็มมานูเอล เอบูเอ ยิงด้วยขวาส่งลูกหนังผ่านมือ ฟาเบียนสกี เข้าไปอย่างสวยงาม พอได้ประตูกลายเป็น เชลซี เล่นอย่างได้ใจ นิโกลาส์ อเนลกา ฉกบอลจาก อาบู ดิยาบี ในกรอบโทษก่อนตะบันบอลพุ่งกระแทกเสาเต็มๆ จบ 45 นาทีแรก ยังไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง เชลซี พยายามครองบอลให้แน่นอน ขณะที่ อาร์เซนอล อาศัยจังหวะฉาบฉวยทำเกมขึ้นไป นาทีที่ 52 “สิงห์บลูส์” ได้ลุ้นเมื่อ แลมพาร์ด ฉกบอลจากแนวรับคู่แข่งได้อีกครั้ง ก่อนจ่ายให้ อเนลกา ตบเร็วเข้าในทันที ดร็อกบา กำลังจะง้างยิงแต่ก็โดน โคโล ตูเร ตามเข้ามาบล็อกได้ทัน ห้านาทีถัดมาโอกาสเป็นของ “ปืนใหญ่” บ้าง ดิยาบี สบโอกาสแทงออกขวาให้ วัลคอตต์ หลุดเข้าไปเปิดบอลแบบได้เสียไปหน้าประตูแต่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ดันแหย่เท้าจิ้มไม่ถึง
ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็มเกมแลกหมัดกันอย่างสนุก วัลคอตต์ ใช้ความว่องไวกระชากหลุดไปทางขวาเปิดเข้ากลาง ดิยาบี พุ่งโหม่งไม่ถึงเลยไปถึง ฟาน เพอร์ซี ได้อัดด้วยซ้ายแต่บอลก็เหินข้ามคานไปอีก จังหวะถัดมาโอกาสเป็นของ เชลซี บ้างเมื่อ ดร็อกบา ผ่านบอลให้ แลมพ์ ยิงเร็วบอลหลุดกรอบนิดเดียว เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย อาร์แซน เวนเกอร์ ปล่อยทีเด็ดส่ง อังเดร อาร์ชาวิน เติมความวูบวาบเกมรุกพร้อมกับถอด ฟาน เพอร์ซี ออกมา
ท้ายเกมทั้งสองฝ่ายปรับทัพอีก กุส ฮิดดิงก์ ให้ทาง ซาโลมอน กาลู มาเล่นแทน อเนลกา ขณะที่ อาร์เซนอล ปล่อย นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ล่าตาข่ายแทน อเดบายอร์ แต่ก่อนหมดเวลาแค่ 6 นาที “สิงห์บลูส์” มาได้ประตูสำคัญเริ่มจาก แลมพาร์ด ตวัดบอลจากกลางสนามให้ ดร็อกบา หนี มิคาเอล ซิลแวสตร์ เข้าไปแตะหลบ ฟาเบียนสกี และก็แปด้วยซ้ายส่งบอลเข้าสู่ตาข่ายโล่งๆ หมดเวลาการแข่งขัน เชลซี รักษาสกอร์เบียดชนะไป 2-1 เข้าไปยืนรอชิงชนะเลิศกับผู้ชนะระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ เอฟเวอร์ตัน ต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี , เอ็มมานูเอล เอบูเอ , โคโล ตูเร , มิคาเอล ซิลแวสตร์ , คีแรน กิบบ์ส , อาบู ดิยาบี , ธีโอ วัลคอตต์ , เชส ฟาเบรกาส , เดนิลสัน , โรบิน ฟาน เพอร์ซี , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , จอห์น เทอร์รี , อเล็กซ์ , แอชลีย์ โคล , มิคาเอล เอสเซียง , มิชาเอล บัลลัค , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ฟลอรองต์ มาลูดา , ดิดิเยร์ ดร็อกบา , นิโกลาส์ อเนลกา
ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ
อาร์เซนอล 1-2 เชลซี
อาร์แซน เวนเกอร์ หวังลูกทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล คงความมั่นใจเอาไว้จากการไม่แพ้ใครในลีกมา 18 นัดติดต่อกัน แต่เกมตัดเชือกเอฟเอ คัพ กุนซือชาวฝรั่งเศสต้องปวดหัวจากแนวรับที่เจ็บระนาว ยังดีที่ คีแรน กิบบ์ส ดาวรุ่งฟิตยืนแบ็กซ้ายได้ ส่วนแนวรุกพัก อังเดร อาร์ชาวิน ไว้ขอบสนามก่อน ด้าน กุส ฮิดดิงก์ ผู้จัดการทีม “สิงห์บลูส์” เชลซี กลับมาใช้งาน จอห์น เทอร์รี ค้ำหลังเหมือนเดิม แดนหน้าเติม นิโกลาส์ อเนลกา ล่าตาข่ายร่วมกับ ดิดิเยร์ ดร็อกบา
เริ่มเกม อาร์เซนอล ครองบอลได้ไม่เป็นรอง ทว่าผ่านไปสามนาที เชลซี ได้ส้มหล่นเมื่อ ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี ผู้รักษาประตูดาวรุ่งทีมชาติโปแลนด์ ออกลูกเหวอออกมาจากกรอบโทษพยายามโหม่งเคลียร์บอลที่ถูกสาดมาแต่โดน ดิดิเยร์ ดร็อกบา กระโดดโขกตัดหน้าบอลกำลังจะเข้าประตู อย่างไรก็ตาม คีแรน กิบบ์ส วิ่งไปเคลียร์บอลจากเส้นประตูได้หวุดหวิด ผ่าน 15 นาทีแรก เกมดำเนินไปอย่างสูสี
ทว่าอีกสามนาทีถัดมาสาวก “กันเนอร์ส” ได้เฮกันถ้วนหน้าเมื่อทีมรักขึ้นนำ 1-0 กิบบ์ส เติมขึ้นมารับบอลจาก เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ก่อนเปิดจากสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายให้ ธีโว วัลคอตต์ แปทันทีบอลดูเหมือนจะแฉลบ แอชลีย์ โคล เล็กน้อยทำให้ ปีเตอร์ เช็ก เสียจังหวะปล่อยลูกหนังเข้าไปกองก้นตาข่าย พอเสียประตูไป “สิงห์บลูส์” ดาหน้าบุกขึ้นมา ฟลอรองต์ มาลูดา กึ่งยิงกึ่งผ่านบอลลอดแขน ฟาเบียนสกี แต่ก็หลุดเสาไกลไปด้วย
นาทีที่ 25 เชลซี ดันเกมอีกครั้ง แฟรงค์ แลมพาร์ด บี้บอลแดนกลางมาได้ก่อนไหลให้ ดร็อกบา แปบอลเร็วจากนอกกรอบเชิดคานออกไป อย่างไรก็ตาม อีกแปดนาทีถัดมา “สิงห์บลูส์” ตามเจ๊า 1-1 จนได้ แลมพาร์ด ตักบอลให้ มาลูดา หลุดเข้ากรอบโทษก่อนหักหลบ เอ็มมานูเอล เอบูเอ ยิงด้วยขวาส่งลูกหนังผ่านมือ ฟาเบียนสกี เข้าไปอย่างสวยงาม พอได้ประตูกลายเป็น เชลซี เล่นอย่างได้ใจ นิโกลาส์ อเนลกา ฉกบอลจาก อาบู ดิยาบี ในกรอบโทษก่อนตะบันบอลพุ่งกระแทกเสาเต็มๆ จบ 45 นาทีแรก ยังไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบเสียเปรียบ
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง เชลซี พยายามครองบอลให้แน่นอน ขณะที่ อาร์เซนอล อาศัยจังหวะฉาบฉวยทำเกมขึ้นไป นาทีที่ 52 “สิงห์บลูส์” ได้ลุ้นเมื่อ แลมพาร์ด ฉกบอลจากแนวรับคู่แข่งได้อีกครั้ง ก่อนจ่ายให้ อเนลกา ตบเร็วเข้าในทันที ดร็อกบา กำลังจะง้างยิงแต่ก็โดน โคโล ตูเร ตามเข้ามาบล็อกได้ทัน ห้านาทีถัดมาโอกาสเป็นของ “ปืนใหญ่” บ้าง ดิยาบี สบโอกาสแทงออกขวาให้ วัลคอตต์ หลุดเข้าไปเปิดบอลแบบได้เสียไปหน้าประตูแต่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ดันแหย่เท้าจิ้มไม่ถึง
ผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็มเกมแลกหมัดกันอย่างสนุก วัลคอตต์ ใช้ความว่องไวกระชากหลุดไปทางขวาเปิดเข้ากลาง ดิยาบี พุ่งโหม่งไม่ถึงเลยไปถึง ฟาน เพอร์ซี ได้อัดด้วยซ้ายแต่บอลก็เหินข้ามคานไปอีก จังหวะถัดมาโอกาสเป็นของ เชลซี บ้างเมื่อ ดร็อกบา ผ่านบอลให้ แลมพ์ ยิงเร็วบอลหลุดกรอบนิดเดียว เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย อาร์แซน เวนเกอร์ ปล่อยทีเด็ดส่ง อังเดร อาร์ชาวิน เติมความวูบวาบเกมรุกพร้อมกับถอด ฟาน เพอร์ซี ออกมา
ท้ายเกมทั้งสองฝ่ายปรับทัพอีก กุส ฮิดดิงก์ ให้ทาง ซาโลมอน กาลู มาเล่นแทน อเนลกา ขณะที่ อาร์เซนอล ปล่อย นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ล่าตาข่ายแทน อเดบายอร์ แต่ก่อนหมดเวลาแค่ 6 นาที “สิงห์บลูส์” มาได้ประตูสำคัญเริ่มจาก แลมพาร์ด ตวัดบอลจากกลางสนามให้ ดร็อกบา หนี มิคาเอล ซิลแวสตร์ เข้าไปแตะหลบ ฟาเบียนสกี และก็แปด้วยซ้ายส่งบอลเข้าสู่ตาข่ายโล่งๆ หมดเวลาการแข่งขัน เชลซี รักษาสกอร์เบียดชนะไป 2-1 เข้าไปยืนรอชิงชนะเลิศกับผู้ชนะระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ เอฟเวอร์ตัน ต่อไป
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล : ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี , เอ็มมานูเอล เอบูเอ , โคโล ตูเร , มิคาเอล ซิลแวสตร์ , คีแรน กิบบ์ส , อาบู ดิยาบี , ธีโอ วัลคอตต์ , เชส ฟาเบรกาส , เดนิลสัน , โรบิน ฟาน เพอร์ซี , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , จอห์น เทอร์รี , อเล็กซ์ , แอชลีย์ โคล , มิคาเอล เอสเซียง , มิชาเอล บัลลัค , แฟรงค์ แลมพาร์ด , ฟลอรองต์ มาลูดา , ดิดิเยร์ ดร็อกบา , นิโกลาส์ อเนลกา
