นิโกลาส์ อเนลกา ดาวยิงชาวฝรั่งเศส ซัดแฮตทริกช่วยให้ “สิงห์บลูส์” เชลซี พลิกกลับมาเอาชนะ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด 3-1 ที่สนามวิคาแรจ โรด ในการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอคัพ รอบ 5 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5
วัตฟอร์ด 1-3 เชลซี
เจ้าถิ่น วัตฟอร์ด หมดสิทธิ์ใช้งาน แจ็ก คอร์ก มิดฟิลด์ที่ยืมตัวมาจากทีมคู่แข่ง จึงต้องส่ง ลี วิลเลียมสัน ลงสนามมาแทน ขณะที่ เชลซี เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้จัดการทีมหลังจากปลด หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี ออกจากตำแหน่งพร้อมกับดึง กุด ฮิดดิงส์ เข้ามาทำหน้าที่แทน แต่เกมนี้ยังคงให้ เรย์ วิลกิน คุมทีมชั่วคราวก่อน ด้านตัวผู้เล่นนั้นมีปัญหาที่ตำแหน่งกองหลังเพราะหมดโอกาสใช้งาน จอห์น เทอร์รี เนื่องจากติดโทษแบน และ ริคาร์โด คาร์วัลโญ เนื่องจากอาการบาดเจ็บ
เริ่มเกมมาเพียงนาทีเดียว เชลซี ก็มีลุ้นก่อนเมื่อ ดร็อกบา ปั๊มแย่งบอลมาได้ก่อนจะพยายามเปิดเข้ากลางมาหน้าประตูคู่แข่ง แต่ กาลู เข้าถึงบอลไม่ทันพลาดเพียงนิดเดียว จากนั้นนาทีที่ 8 นายทวารเจ้าถิ่นต้องออกแรงเซฟเมื่อ แลมพาร์ด เล่นบอลกับ ดร็อกบา ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็นดาวยิงชาวไอเวอรี โคสต์ ยิงแต่ถูกปัดข้ามคานออกไป
เชลซี แม้จะครองบอลเหนือกว่าแต่จังหวะสุดท้ายยังขาดความเด็ดขาดต้องรอถึงนาทีที่ 35 จึงมีลุ้นอีกครั้งเมื่อ อเนลกา และ ดร็อกบา ประสานงานกัน ก่อนที่จังหวะสุดท้ายดาวยิงชาวฝรั่งเศสจะยิงเล่นทางไปเสาไกล แต่บอลไม่เป็นใจดันชนเสาและถูกเจ้าถิ่นเคลียร์ทิ้งไว้ได้ ด้าน วัตฟอร์ด มีโอกาสได้ลุ้นเล็กน้อยก่อนหมดครึ่งแรกเมื่อ ราเซียก ได้โหม่งหน้าประตูแต่ ปีเตอร์ เช็ก โชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันได้เช่นกันทำให้จบ 45 นาทีแรกเสมอกันอยู่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง เชลซี ยังคงครองเกมเหนือกว่าและมีโอกาสส่องลุ้นทำประตูก่อนหลังผ่านมา 4 นาที เมื่อ แลมพาร์ด วางบอลยาวมาให้ ดร็อกบา หลุดเข้าไปยิง แต่นายทวารเจ้าถิ่นยังเซฟอีกเหมือนเดิม นาทีต่อมาเป็นโอกาสของมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษบ้างที่ได้ซัดไกลจากระยะ 25 หลา แต่เหินข้ามคานออกไปอีกครั้ง
เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง บัลลัก พลาดโอกาสอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อตามเข้าซ้ำลูกยิงของ ดร็อกบา หน้าปากประตูแต่กลับซัดเหินข้ามคานออกไป แต่แล้วเมื่อมาถึงนาทีที่ 69 แฟนบอลทั้งสนามก็เฮกันลั่นหลังจาก วัตฟอร์ด ทำประตูขึ้นนำอย่างพลิกความคาดหมาย เมื่อ ทามาส พริสกิน ตัวสำรองที่เพิ่งถูกเปลี่ยนลงสนามมาเพียงสองนาทีก็หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก ให้เจ้าถิ่นนำ 1-0
หลังเสียประตูทีมจากศึกพรีเมียร์ชิปพยายามทำเกมรุกเข้าใส่ทันทีจนในที่สุดก็มาทำประตูตีเสมอได้ในนาทีที่ 75 เมื่อ อเนลกา ตีลังกายิงเข้าไปให้ เชลซี ขยับสกอร์เป็น 1-1 แต่อีกเพียงไม่ถึงสองนาทีดาวยิงชาวฝรั่งเศสก็มาทำประตูที่สองของตัวเองพร้อมกับให้ต้นสังกัดพลิกนำ 2-1 และคุมสถานการณ์ของเกมต่อจากนั้นได้
ช่วงท้ายเกม "แตนอาละวาด" มีโอกาสยิงประตูตีเสมอเช่นกันจากจังหวะการซัดของ แม็คอานัฟฟ์ แต่ถูก ปีเตอร์ เช็ก ป้องกันไว้ได้และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บก็เป็น เชลซี มาทำประตูย้ำชัยชนะ 3-1 เมื่อ กาลู จ่ายบอลให้ อเนลกา ซัดเป็นประตูแฮตทริกเข้าไปพร้อมกับจบเวลาไปด้วยสกอร์นี้
ด้านผลการแข่งขันคู่อื่น คริสโตเฟอร์ แซมบา กองหลังจอมแกร่งมาทำประตูตีเสมอในนาทีสุดท้ายช่วยให้ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เปิดสนามอีวูด ปาร์กเสมอกับ โคเวนทรี 2-2 ต้องไปแข่งนัดรีเพลย์กันใหม่เช่นเดียวกับคู่ของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่เปิดถิ่นอัพตัน ปาร์กเสมอกับ มิดเดิลสโบรช์ 1-1 โดยทีมเยือนออกนำก่อนจากการยิงของ สจ็วต ดาวนิง นาทีที่ 22 ก่อนที่ เฮริตา อีลุนกา จะมาซัดตีเสมอให้เจ้าถิ่นก่อนหมดเวลา 7 นาที
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
วัตฟอร์ด : สกอตต์ โลช , กาวิน ฮอยต์, อาเดรียน มาริอัปปา ,เจย์ ดิเมริต, ลอยด์ ดอยลีย์, ทอมมี สมิธ, รอส เจนกินส์ ,ลี วิลเลียมสัน, โยบี แม็คอานัฟฟ์, เกอร์เซกอร์ซ ราเซียก, วิล ฮอสกินส์
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, ไมเคิล แมนเซียน, อเล็กซ์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แอชลีย์ โคล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล บัลลัก, จอห์น โอบี มิเกล, ซาโลมอน กาลู, นิโกลาส์ อเนลกา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 5
สวอนซี เสมอ ฟูแลม 1-1 [0-1 : แกร์รี มองค์ น.44], [1-1 : เจสัน สกอต์แลนด์ น.52]
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เสมอ ฮัลล์ ซิตี 1-1 [1-0 : เกร็ก ฮัลฟอร์ด น.7], [1-1 : กามิล ซายัตเต น.34]
เวสต์แฮม เสมอ มิดเดิลสโบรช์ 1-1 [0-1 : สจ็วต ดาวนิง น.22], [1-1 : เฮริตา อีลุนกา น.83]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ โคเวนทรี 2-2 [1-0 : โรเก ซานตา ครูส น.2], [1-1 : อารอน กุนนาร์สัน น.61], [1-2 : ไมเคิล ดอยล์ น.76], [2-2 : คริสโตเฟอร์ แซมบา น.90]
วัตฟอร์ด แพ้ เชลซี 1-3 [1-0 : ทามาส พริสกิน น.69], [1-1 : นิโกลาส์ อเนลกา น.75], [1-2 : นิโกลาส์ อเนลกา น.77], [1-3 : นิโกลาส์ อเนลกา น.90]
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบ 5
วัตฟอร์ด 1-3 เชลซี
เจ้าถิ่น วัตฟอร์ด หมดสิทธิ์ใช้งาน แจ็ก คอร์ก มิดฟิลด์ที่ยืมตัวมาจากทีมคู่แข่ง จึงต้องส่ง ลี วิลเลียมสัน ลงสนามมาแทน ขณะที่ เชลซี เพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้จัดการทีมหลังจากปลด หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี ออกจากตำแหน่งพร้อมกับดึง กุด ฮิดดิงส์ เข้ามาทำหน้าที่แทน แต่เกมนี้ยังคงให้ เรย์ วิลกิน คุมทีมชั่วคราวก่อน ด้านตัวผู้เล่นนั้นมีปัญหาที่ตำแหน่งกองหลังเพราะหมดโอกาสใช้งาน จอห์น เทอร์รี เนื่องจากติดโทษแบน และ ริคาร์โด คาร์วัลโญ เนื่องจากอาการบาดเจ็บ
เริ่มเกมมาเพียงนาทีเดียว เชลซี ก็มีลุ้นก่อนเมื่อ ดร็อกบา ปั๊มแย่งบอลมาได้ก่อนจะพยายามเปิดเข้ากลางมาหน้าประตูคู่แข่ง แต่ กาลู เข้าถึงบอลไม่ทันพลาดเพียงนิดเดียว จากนั้นนาทีที่ 8 นายทวารเจ้าถิ่นต้องออกแรงเซฟเมื่อ แลมพาร์ด เล่นบอลกับ ดร็อกบา ก่อนที่จังหวะสุดท้ายจะเป็นดาวยิงชาวไอเวอรี โคสต์ ยิงแต่ถูกปัดข้ามคานออกไป
เชลซี แม้จะครองบอลเหนือกว่าแต่จังหวะสุดท้ายยังขาดความเด็ดขาดต้องรอถึงนาทีที่ 35 จึงมีลุ้นอีกครั้งเมื่อ อเนลกา และ ดร็อกบา ประสานงานกัน ก่อนที่จังหวะสุดท้ายดาวยิงชาวฝรั่งเศสจะยิงเล่นทางไปเสาไกล แต่บอลไม่เป็นใจดันชนเสาและถูกเจ้าถิ่นเคลียร์ทิ้งไว้ได้ ด้าน วัตฟอร์ด มีโอกาสได้ลุ้นเล็กน้อยก่อนหมดครึ่งแรกเมื่อ ราเซียก ได้โหม่งหน้าประตูแต่ ปีเตอร์ เช็ก โชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันได้เช่นกันทำให้จบ 45 นาทีแรกเสมอกันอยู่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง เชลซี ยังคงครองเกมเหนือกว่าและมีโอกาสส่องลุ้นทำประตูก่อนหลังผ่านมา 4 นาที เมื่อ แลมพาร์ด วางบอลยาวมาให้ ดร็อกบา หลุดเข้าไปยิง แต่นายทวารเจ้าถิ่นยังเซฟอีกเหมือนเดิม นาทีต่อมาเป็นโอกาสของมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษบ้างที่ได้ซัดไกลจากระยะ 25 หลา แต่เหินข้ามคานออกไปอีกครั้ง
เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง บัลลัก พลาดโอกาสอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อตามเข้าซ้ำลูกยิงของ ดร็อกบา หน้าปากประตูแต่กลับซัดเหินข้ามคานออกไป แต่แล้วเมื่อมาถึงนาทีที่ 69 แฟนบอลทั้งสนามก็เฮกันลั่นหลังจาก วัตฟอร์ด ทำประตูขึ้นนำอย่างพลิกความคาดหมาย เมื่อ ทามาส พริสกิน ตัวสำรองที่เพิ่งถูกเปลี่ยนลงสนามมาเพียงสองนาทีก็หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก ให้เจ้าถิ่นนำ 1-0
หลังเสียประตูทีมจากศึกพรีเมียร์ชิปพยายามทำเกมรุกเข้าใส่ทันทีจนในที่สุดก็มาทำประตูตีเสมอได้ในนาทีที่ 75 เมื่อ อเนลกา ตีลังกายิงเข้าไปให้ เชลซี ขยับสกอร์เป็น 1-1 แต่อีกเพียงไม่ถึงสองนาทีดาวยิงชาวฝรั่งเศสก็มาทำประตูที่สองของตัวเองพร้อมกับให้ต้นสังกัดพลิกนำ 2-1 และคุมสถานการณ์ของเกมต่อจากนั้นได้
ช่วงท้ายเกม "แตนอาละวาด" มีโอกาสยิงประตูตีเสมอเช่นกันจากจังหวะการซัดของ แม็คอานัฟฟ์ แต่ถูก ปีเตอร์ เช็ก ป้องกันไว้ได้และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บก็เป็น เชลซี มาทำประตูย้ำชัยชนะ 3-1 เมื่อ กาลู จ่ายบอลให้ อเนลกา ซัดเป็นประตูแฮตทริกเข้าไปพร้อมกับจบเวลาไปด้วยสกอร์นี้
ด้านผลการแข่งขันคู่อื่น คริสโตเฟอร์ แซมบา กองหลังจอมแกร่งมาทำประตูตีเสมอในนาทีสุดท้ายช่วยให้ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เปิดสนามอีวูด ปาร์กเสมอกับ โคเวนทรี 2-2 ต้องไปแข่งนัดรีเพลย์กันใหม่เช่นเดียวกับคู่ของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่เปิดถิ่นอัพตัน ปาร์กเสมอกับ มิดเดิลสโบรช์ 1-1 โดยทีมเยือนออกนำก่อนจากการยิงของ สจ็วต ดาวนิง นาทีที่ 22 ก่อนที่ เฮริตา อีลุนกา จะมาซัดตีเสมอให้เจ้าถิ่นก่อนหมดเวลา 7 นาที
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
วัตฟอร์ด : สกอตต์ โลช , กาวิน ฮอยต์, อาเดรียน มาริอัปปา ,เจย์ ดิเมริต, ลอยด์ ดอยลีย์, ทอมมี สมิธ, รอส เจนกินส์ ,ลี วิลเลียมสัน, โยบี แม็คอานัฟฟ์, เกอร์เซกอร์ซ ราเซียก, วิล ฮอสกินส์
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, ไมเคิล แมนเซียน, อเล็กซ์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แอชลีย์ โคล, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิชาเอล บัลลัก, จอห์น โอบี มิเกล, ซาโลมอน กาลู, นิโกลาส์ อเนลกา, ดิดิเยร์ ดร็อกบา
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 5
สวอนซี เสมอ ฟูแลม 1-1 [0-1 : แกร์รี มองค์ น.44], [1-1 : เจสัน สกอต์แลนด์ น.52]
เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เสมอ ฮัลล์ ซิตี 1-1 [1-0 : เกร็ก ฮัลฟอร์ด น.7], [1-1 : กามิล ซายัตเต น.34]
เวสต์แฮม เสมอ มิดเดิลสโบรช์ 1-1 [0-1 : สจ็วต ดาวนิง น.22], [1-1 : เฮริตา อีลุนกา น.83]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ โคเวนทรี 2-2 [1-0 : โรเก ซานตา ครูส น.2], [1-1 : อารอน กุนนาร์สัน น.61], [1-2 : ไมเคิล ดอยล์ น.76], [2-2 : คริสโตเฟอร์ แซมบา น.90]
วัตฟอร์ด แพ้ เชลซี 1-3 [1-0 : ทามาส พริสกิน น.69], [1-1 : นิโกลาส์ อเนลกา น.75], [1-2 : นิโกลาส์ อเนลกา น.77], [1-3 : นิโกลาส์ อเนลกา น.90]