เชลซี เจอกับความกดดันเล็กน้อยหลังจากถูกนำก่อนแต่สุดท้ายก็พลิกกลับมาเอาชนะ เซาธ์เอนด์ ทีมจากลีกวันไป 4-1 ขณะที่ ฮัลล์ ซิตี บุกไปเฉือนเอาชนะ นิวคาสเซิล 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปในการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสาม นัดรีเพลย์ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสาม นัดแข่งใหม่
เซาธ์เอนด์ 1-4 เชลซี
เซาธ์เอนด์ ของกุนซือ สตีฟ วิลสัน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมากในนัดก่อน โดยเกมนี้จะพลาดการใช้งาน ฟรานซิส ลอเรนต์ ที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างการฝึกซ้อม รวมถึง อลัน แม็คคอร์แม็ค ที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบห้าใบ ขณะที่ เชลซี ของกุนซือ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี หมดสิทธิ์ใช้งาน ฟลอรองต์ มาลูดา และ มิเชล เอสเซียง เนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่ปัญหาสำคัญของทีมตอนนี้คือสภาพจิตใจที่กำลังย่ำแย่หลังจากพ่ายให้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างหมดรูปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เริ่มเกมครึ่งแรก เชลซี ครองเกมได้เหนือกว่าเจ้าถิ่นมีหลายจังหวะที่เกือบทำประตูขึ้นนำได้ แต่แล้วเมื่อมาถึงนาทีที่ 15 อเล็กซ์ ทำเสียเตะมุมอย่างง่ายๆ เมื่อส่งคืนหลังไม่ดีบอลออกไป จากลูกเตะมุมนั้นเอง ทำให้ เซาธ์เอนด์ ทำประตูขึ้นนำอย่างพลิกความคาดหมายอีกครั้งจากการโหม่งของ บาร์เรตต์ กัปตันทีมให้เจ้าบ้านนำก่อน 1-0
เกมมาถึงนาทีที่ 21 โบซิงวา เติมเกมรุกขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนจะเปิดบอลเข้ากลางและเป็น อเนลกา ได้โดดโหม่งโล่งๆ คนเดียวแต่เสยข้ามคานออกไป อีกสามนาทีต่อมา มิลเลนฮอล นายทวารเจ้าถิ่นได้เซฟลูกยิงแบบเต็มของ แลมพาร์ด ช่วยให้ทีมไม่ถูกตีเสมออีกครั้ง
สิงห์บลูส์ จะยิงอย่างไรก็ไม่เข้า มาถึงนาทีที่ 39 คราวนี้เป็นทีของ เซาธ์เอนด์ บ้างเมื่อ ซานโกฟา ทำเกมขึ้นมาทางด้านขวาก่อนจะเปิดบอลเข้ากลางมาให้ ราเวล ได้โหม่งเต็มศีรษะ แต่ เช็ก ก็ไม่พลาดเช่นกันพุ่งตัวเซฟไว้ได้ อย่างไรก็ตามช่วงก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียว บัลลัค ก็มาวอลเลย์บอลเสียบสามเหลี่ยมให้ทีมจากพรีเมียร์ ลีก ตามตีเสมอ 1-1 และจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลังจากการตีเสมอได้สำเร็จ ทำให้ เชลซี มีกำลังใจเปิดเกมรุกอย่างหนักหน่วงจนในที่สุดมาทำประตูพลิกขึ้นนำจนได้เมื่อเกมมาถึงหนึ่งชั่วโมงแรก โจ โคล เปิดบอลเข้ามาให้ กาลู ซัดไม่พลาดทีมเยือนขยับสกอร์ 2-1
ลูกทีมของบิ๊กฟิลยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ และมาทำประตูหนีห่างออกไปจนได้ในนาทีที่ 78 จากจังหวะที่ แลมพาร์ด ทะลวงแผงหลังเจ้าบ้านก่อนจ่ายบอลให้ กาลู ทางด้านข้างตวัดต่อไปให้ อเนลกา วิ่งหลุดเข้าไปยิงผ่านมือ มิลเลนฮอล ให้ เชลซีหนีห่าง 3-1
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แลมพาร์ด ก็มาบวกสกอร์ของตัวเองเมื่อได้ยิงจ่อหน้าประตูจากการเปิดของ กาลู อีกทำให้สุดท้ายจบ 90 นาที เชลซี แก้ตัวได้สำเร็จบุกมาเอาชนะไป 4-1 พร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบ 4 พบกับ อิปสวิช ทาวน์ ต่อไป
ขณะที่ผลการแข่งขันคู่อื่น นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ถูก ฮัลล์ ซิตี คู่แข่งระดับเดียวกันบุกมาเอาชนะ 1-0 ถึงสนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ก ขณะที่ คริสตัล พาเลซ เปิดบ้านเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี ไป 2-1
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เซาธ์เอนด์ : สตีฟ มิลเลนฮอล, อดัม บาร์เรตต์, ปีเตอร์ คลาร์ก, โอไซ ซานโกฟา ,จอห์นนี เฮิร์ด ,แอนโธนี แกรนต์, แฟรงค์ มูอัสซา, ยีน คริสตอฟ, จูเนียร์ สตานิสลาส, อเล็กซ์ เรเวล, ลี บาร์นาร์ด
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, แอชลีย์ โคล, จอห์น เทอร์รี, โบซิงวา, อเล็กซ์, โจ โคล, แฟรงค์ แลมพาร์ด ,มิชาเอล บัลลัค, จอห์น โอบี มิเกล ,นิโกลาส์ อเนลกา, ซาโลมอน กาลู
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสาม นัดแข่งใหม่
เซาธ์เอนด์ 1-4 เชลซี
เซาธ์เอนด์ ของกุนซือ สตีฟ วิลสัน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมากในนัดก่อน โดยเกมนี้จะพลาดการใช้งาน ฟรานซิส ลอเรนต์ ที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างการฝึกซ้อม รวมถึง อลัน แม็คคอร์แม็ค ที่ติดโทษแบนจากการสะสมใบเหลืองครบห้าใบ ขณะที่ เชลซี ของกุนซือ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี หมดสิทธิ์ใช้งาน ฟลอรองต์ มาลูดา และ มิเชล เอสเซียง เนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่ปัญหาสำคัญของทีมตอนนี้คือสภาพจิตใจที่กำลังย่ำแย่หลังจากพ่ายให้แก่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างหมดรูปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เริ่มเกมครึ่งแรก เชลซี ครองเกมได้เหนือกว่าเจ้าถิ่นมีหลายจังหวะที่เกือบทำประตูขึ้นนำได้ แต่แล้วเมื่อมาถึงนาทีที่ 15 อเล็กซ์ ทำเสียเตะมุมอย่างง่ายๆ เมื่อส่งคืนหลังไม่ดีบอลออกไป จากลูกเตะมุมนั้นเอง ทำให้ เซาธ์เอนด์ ทำประตูขึ้นนำอย่างพลิกความคาดหมายอีกครั้งจากการโหม่งของ บาร์เรตต์ กัปตันทีมให้เจ้าบ้านนำก่อน 1-0
เกมมาถึงนาทีที่ 21 โบซิงวา เติมเกมรุกขึ้นมาทางด้านขวา ก่อนจะเปิดบอลเข้ากลางและเป็น อเนลกา ได้โดดโหม่งโล่งๆ คนเดียวแต่เสยข้ามคานออกไป อีกสามนาทีต่อมา มิลเลนฮอล นายทวารเจ้าถิ่นได้เซฟลูกยิงแบบเต็มของ แลมพาร์ด ช่วยให้ทีมไม่ถูกตีเสมออีกครั้ง
สิงห์บลูส์ จะยิงอย่างไรก็ไม่เข้า มาถึงนาทีที่ 39 คราวนี้เป็นทีของ เซาธ์เอนด์ บ้างเมื่อ ซานโกฟา ทำเกมขึ้นมาทางด้านขวาก่อนจะเปิดบอลเข้ากลางมาให้ ราเวล ได้โหม่งเต็มศีรษะ แต่ เช็ก ก็ไม่พลาดเช่นกันพุ่งตัวเซฟไว้ได้ อย่างไรก็ตามช่วงก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียว บัลลัค ก็มาวอลเลย์บอลเสียบสามเหลี่ยมให้ทีมจากพรีเมียร์ ลีก ตามตีเสมอ 1-1 และจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลังจากการตีเสมอได้สำเร็จ ทำให้ เชลซี มีกำลังใจเปิดเกมรุกอย่างหนักหน่วงจนในที่สุดมาทำประตูพลิกขึ้นนำจนได้เมื่อเกมมาถึงหนึ่งชั่วโมงแรก โจ โคล เปิดบอลเข้ามาให้ กาลู ซัดไม่พลาดทีมเยือนขยับสกอร์ 2-1
ลูกทีมของบิ๊กฟิลยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ และมาทำประตูหนีห่างออกไปจนได้ในนาทีที่ 78 จากจังหวะที่ แลมพาร์ด ทะลวงแผงหลังเจ้าบ้านก่อนจ่ายบอลให้ กาลู ทางด้านข้างตวัดต่อไปให้ อเนลกา วิ่งหลุดเข้าไปยิงผ่านมือ มิลเลนฮอล ให้ เชลซีหนีห่าง 3-1
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แลมพาร์ด ก็มาบวกสกอร์ของตัวเองเมื่อได้ยิงจ่อหน้าประตูจากการเปิดของ กาลู อีกทำให้สุดท้ายจบ 90 นาที เชลซี แก้ตัวได้สำเร็จบุกมาเอาชนะไป 4-1 พร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบ 4 พบกับ อิปสวิช ทาวน์ ต่อไป
ขณะที่ผลการแข่งขันคู่อื่น นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ถูก ฮัลล์ ซิตี คู่แข่งระดับเดียวกันบุกมาเอาชนะ 1-0 ถึงสนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ก ขณะที่ คริสตัล พาเลซ เปิดบ้านเอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี ไป 2-1
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เซาธ์เอนด์ : สตีฟ มิลเลนฮอล, อดัม บาร์เรตต์, ปีเตอร์ คลาร์ก, โอไซ ซานโกฟา ,จอห์นนี เฮิร์ด ,แอนโธนี แกรนต์, แฟรงค์ มูอัสซา, ยีน คริสตอฟ, จูเนียร์ สตานิสลาส, อเล็กซ์ เรเวล, ลี บาร์นาร์ด
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, แอชลีย์ โคล, จอห์น เทอร์รี, โบซิงวา, อเล็กซ์, โจ โคล, แฟรงค์ แลมพาร์ด ,มิชาเอล บัลลัค, จอห์น โอบี มิเกล ,นิโกลาส์ อเนลกา, ซาโลมอน กาลู