เฟอร์นานโด ตอร์เรส สวมบทฮีโร่ให้ ลิเวอร์พูล ด้วยการเหมาคนเดียว 2 ลูกจิกชัยเหนือ เชลซี ที่เสีย แฟรงค์ แลมพาร์ด ซึ่งโดนใบแดงในครึ่งหลังไป 2-0 พร้อมทั้งไล่จี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหลือ 2 คะแนน
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
ลิเวอร์พูล 2 – 0 เชลซี
ศึกซูเปอร์ซันเดย์ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เฝ้าบ้านรับการมาเยือนของ เชลซี นัดนี้เจ้าถิ่นให้ เดิร์ก เคาท์ กลับไปยืนริมเส้นฝั่งขวา พร้อมทั้งวาง สตีเวน เจอร์ราร์ด เป็นตัวสนับสนุนของ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ในแนวรุก ส่วนอาคันตุกะจากลอนดอนส่ง อเล็กซ์ ลงยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ จอห์น เทอร์รี โดย นิโกลาส์ อเนลกา เป็นหน้าเป้า
เปิดฉากมาได้ 4 นาที เกมส่อเค้าว่าจะปะทุเดือดตั้งแต่ต้น เมื่อ เจอร์ราร์ด ไปเตะบอลอัด โฮเซ โบซิงวา ในจังหวะติดพัน ก่อนที่ โบซิงวา จะลุกขึ้นมาสาดฟรีคิกให้ จอห์น เทอร์รี เติมเข้ามาโขกในเขตโทษเข้ามือ โฮเซ เรนา จากนั้นนาทีที่ 11 ชาบี อลอนโซ มีจังหวะตั้งป้อมซัดเต็มข้อนอกเขตโทษถูก ปีเตอร์ เช็ก พุ่งปัดด้วยมือเดียวข้ามคาน
ทั้งสองฝ่ายยังคงช่วงชิงจังหวะในแดนกลาง นาทีที่ 19 ฮาเวียร์ มาสเชราโน ลองกระทุ้งจากระยะ 30 กว่าหลาบ้าง แต่ เช็ก ยังล้มตัวเซฟก่อนตามมาคว้าบอลเอาไว้ได้ ข้ามมายังนาทีที่ 31 เจมี คาร์ราเกอร์ ดันสูงขึ้นมาเติมเกมทางขวาก่อนผ่านเข้ากลางให้ ตอร์เรส จับหนึ่งทีแล้วกระทุ้งเต็มข้อ แต่ อเล็กซ์ ล้มตัวบล็อกเอาไว้ได้
ถัดมา 2 นาที แฟรงค์ แลมพาร์ด เปิดลูกเตะมุมให้ เทอร์รี ขึ้นโขกที่เสาสองหลุดกรอบออกไปไกล นาทีที่ 38 คาร์ราเกอร์ เกือบทำพลาดเมื่อไปปล่อยบอลตกหน้าเขตโทษโดยไม่ยอมเข้าหาจนเกือบถูกฉกไปยิง ก่อนที่ อเนลกา จะหวดไปติดบล็อกของ มาร์ติน สเคอร์เทล
หงส์แดงน่าขยับสกอร์บอร์ดได้ก่อนในนาทีที่ 42 โดย อัลเบิร์ต ริเอรา พาบอลเข้ามาซัดด้วยซ้ายถูก เช็ก ล้มตัวปัดไปกระดอนขาของ แอชลีย์ โคล เกือบเข้าประตู ทว่าออกข้างเสาเพียงนิดเดียว จากนั้นช่วงทดเวลาเจ็บครึ่งแรก เจอร์ราร์ด จ่ายให้ ริเอรา มีโอกาสซัดด้วยขวา แต่ปีกสแปนิชกลับชิ่งคืนมาจนเสียโอกาส จบครึ่งแรกจึงเสมอกัน 0-0
กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 51 อเล็กซ์ โหม่งสกัดผิดพลาดจนเกือบยื่นหอกให้ศัตรู แต่ เดิร์ก เคาท์ หวดด้วยขวาหลุดเสาสอง 2 นาทีให้หลัง เจอร์ราร์ด โหม่งตั้งให้ ตอร์เรส กระทุ้งเน้นๆ ทว่าก็ยังติดบล็อกของ อเล็กซ์ อีกครั้ง จากนั้น อัลบาโร อาร์เบลัว เติมขึ้นมาทางขวาก่อนได้ซัดที่เสาแรก แต่ก็ถูก เช็ก ดักเอาไว้ได้
เกมผ่านมาครบหนึ่งชั่วโมงก็มีจังหวะกังขาเกิดขึ้น เมื่อ แลมพาร์ด ประสานแข้งกับ อลอนโซ กลางสนาม ซึ่งผู้ตัดสิน ไมค์ ไรลีย์ เลือกชูใบแดงให้ แลมพาร์ด ที่สไลด์เปิดปุ่มเข้ามา แม้ว่า อลอนโซ จะเป็นฝ่ายหวดเข้าไปที่หน้าแข้งของมิดฟิลด์สิงห์บลูส์ก็ตาม
หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ก็โหมบุกอย่างหนัก นาทีที่ 68 อลอนโซ ได้กดเต็มข้อหน้าเขตโทษถูก อเล็กซ์ ล้มตัวขวาง บอลแฉลบจนย้อยข้ามหัว เช็ก ไปตกใส่คาน ลูกยังไม่พ้นอันตราย แต่ เช็ก ยังหันหลังกลับไปตบบอลข้ามคานได้ทัน 4 นาทีต่อมา ตอร์เรส มีจังหวะซัดในเขตโทษ ทว่า จอห์น โอบี มิเกล ยังช่วยเคลียร์พ้นอันตรายได้อีก
เชลซี ที่นานๆ ครั้งจะมีโอกาสเข้าทำได้ลุ้นบ้างในนาทีที่ 75 แต่ ซาโลมง กาลู ซัดเบาไปเข้ามือ โฮเซ เรนา จากนั้น 5 นาที ยอสซี เบนายูน ที่ลงมาแทน ริเอรา สับไกนอกเขตโทษ แต่ เช็ก บินปัดออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่ เบนายูน จะได้วอลเลย์อีกครั้งในนาทีที่ 83 ทว่า ลูกลอยไปตกบนหลังคา
กระทั่งนาทีที่ 89 หงส์แดง ก็มาได้ประตูนำ 1-0 เมื่อ ฟาบิโอ ออเรลิโอ เปิดบอลจากด้านซ้ายให้ ตอร์เรส โฉบตัดหน้า อเล็กซ์ โขกผ่านมือ เช็ก ตุงตาข่าย ก่อนจะเกือบได้อีกลูกจากการยิงใบไม้ร่วงของ เจอร์ราร์ด แต่ เช็ก ยังปัดข้ามคานได้ทัน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 เจ้าบ้านมายิงฝังอีกลูกจากจังหวะที่ แอชลีย์ โคล ดูดบอลลงไม่ดีถูก เบนายูน ฉกไปได้ ก่อนที่ลูกจะทะลักไปเข้าทาง ตอร์เรส แปจ่อๆ ไม่เหลือ จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 51 คะแนน ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 2 ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหลือ 2 แต้ม ส่วน เชลซี มี 48 คะแนนเท่าเดิมหล่นลงมารั้งอันดับ 3
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, เดิร์ก เคาท์, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ชาบี อลอนโซ, อัลเบิร์ต ริเอรา, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เฟอร์นานโด ตอร์เรส
เชลซี – ปีเตอร์ เช็ก, โฮเซ โบซิงวา, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, จอห์น โอบี มิเกล, มิชาเอล บัลลัค, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ซาโลมง กาลู, นิโกลาส์ อเนลกา, ฟลอร็องต์ มาลูดา
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
ลิเวอร์พูล 2 – 0 เชลซี
ศึกซูเปอร์ซันเดย์ที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เฝ้าบ้านรับการมาเยือนของ เชลซี นัดนี้เจ้าถิ่นให้ เดิร์ก เคาท์ กลับไปยืนริมเส้นฝั่งขวา พร้อมทั้งวาง สตีเวน เจอร์ราร์ด เป็นตัวสนับสนุนของ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ในแนวรุก ส่วนอาคันตุกะจากลอนดอนส่ง อเล็กซ์ ลงยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ จอห์น เทอร์รี โดย นิโกลาส์ อเนลกา เป็นหน้าเป้า
เปิดฉากมาได้ 4 นาที เกมส่อเค้าว่าจะปะทุเดือดตั้งแต่ต้น เมื่อ เจอร์ราร์ด ไปเตะบอลอัด โฮเซ โบซิงวา ในจังหวะติดพัน ก่อนที่ โบซิงวา จะลุกขึ้นมาสาดฟรีคิกให้ จอห์น เทอร์รี เติมเข้ามาโขกในเขตโทษเข้ามือ โฮเซ เรนา จากนั้นนาทีที่ 11 ชาบี อลอนโซ มีจังหวะตั้งป้อมซัดเต็มข้อนอกเขตโทษถูก ปีเตอร์ เช็ก พุ่งปัดด้วยมือเดียวข้ามคาน
ทั้งสองฝ่ายยังคงช่วงชิงจังหวะในแดนกลาง นาทีที่ 19 ฮาเวียร์ มาสเชราโน ลองกระทุ้งจากระยะ 30 กว่าหลาบ้าง แต่ เช็ก ยังล้มตัวเซฟก่อนตามมาคว้าบอลเอาไว้ได้ ข้ามมายังนาทีที่ 31 เจมี คาร์ราเกอร์ ดันสูงขึ้นมาเติมเกมทางขวาก่อนผ่านเข้ากลางให้ ตอร์เรส จับหนึ่งทีแล้วกระทุ้งเต็มข้อ แต่ อเล็กซ์ ล้มตัวบล็อกเอาไว้ได้
ถัดมา 2 นาที แฟรงค์ แลมพาร์ด เปิดลูกเตะมุมให้ เทอร์รี ขึ้นโขกที่เสาสองหลุดกรอบออกไปไกล นาทีที่ 38 คาร์ราเกอร์ เกือบทำพลาดเมื่อไปปล่อยบอลตกหน้าเขตโทษโดยไม่ยอมเข้าหาจนเกือบถูกฉกไปยิง ก่อนที่ อเนลกา จะหวดไปติดบล็อกของ มาร์ติน สเคอร์เทล
หงส์แดงน่าขยับสกอร์บอร์ดได้ก่อนในนาทีที่ 42 โดย อัลเบิร์ต ริเอรา พาบอลเข้ามาซัดด้วยซ้ายถูก เช็ก ล้มตัวปัดไปกระดอนขาของ แอชลีย์ โคล เกือบเข้าประตู ทว่าออกข้างเสาเพียงนิดเดียว จากนั้นช่วงทดเวลาเจ็บครึ่งแรก เจอร์ราร์ด จ่ายให้ ริเอรา มีโอกาสซัดด้วยขวา แต่ปีกสแปนิชกลับชิ่งคืนมาจนเสียโอกาส จบครึ่งแรกจึงเสมอกัน 0-0
กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 51 อเล็กซ์ โหม่งสกัดผิดพลาดจนเกือบยื่นหอกให้ศัตรู แต่ เดิร์ก เคาท์ หวดด้วยขวาหลุดเสาสอง 2 นาทีให้หลัง เจอร์ราร์ด โหม่งตั้งให้ ตอร์เรส กระทุ้งเน้นๆ ทว่าก็ยังติดบล็อกของ อเล็กซ์ อีกครั้ง จากนั้น อัลบาโร อาร์เบลัว เติมขึ้นมาทางขวาก่อนได้ซัดที่เสาแรก แต่ก็ถูก เช็ก ดักเอาไว้ได้
เกมผ่านมาครบหนึ่งชั่วโมงก็มีจังหวะกังขาเกิดขึ้น เมื่อ แลมพาร์ด ประสานแข้งกับ อลอนโซ กลางสนาม ซึ่งผู้ตัดสิน ไมค์ ไรลีย์ เลือกชูใบแดงให้ แลมพาร์ด ที่สไลด์เปิดปุ่มเข้ามา แม้ว่า อลอนโซ จะเป็นฝ่ายหวดเข้าไปที่หน้าแข้งของมิดฟิลด์สิงห์บลูส์ก็ตาม
หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ก็โหมบุกอย่างหนัก นาทีที่ 68 อลอนโซ ได้กดเต็มข้อหน้าเขตโทษถูก อเล็กซ์ ล้มตัวขวาง บอลแฉลบจนย้อยข้ามหัว เช็ก ไปตกใส่คาน ลูกยังไม่พ้นอันตราย แต่ เช็ก ยังหันหลังกลับไปตบบอลข้ามคานได้ทัน 4 นาทีต่อมา ตอร์เรส มีจังหวะซัดในเขตโทษ ทว่า จอห์น โอบี มิเกล ยังช่วยเคลียร์พ้นอันตรายได้อีก
เชลซี ที่นานๆ ครั้งจะมีโอกาสเข้าทำได้ลุ้นบ้างในนาทีที่ 75 แต่ ซาโลมง กาลู ซัดเบาไปเข้ามือ โฮเซ เรนา จากนั้น 5 นาที ยอสซี เบนายูน ที่ลงมาแทน ริเอรา สับไกนอกเขตโทษ แต่ เช็ก บินปัดออกไปได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่ เบนายูน จะได้วอลเลย์อีกครั้งในนาทีที่ 83 ทว่า ลูกลอยไปตกบนหลังคา
กระทั่งนาทีที่ 89 หงส์แดง ก็มาได้ประตูนำ 1-0 เมื่อ ฟาบิโอ ออเรลิโอ เปิดบอลจากด้านซ้ายให้ ตอร์เรส โฉบตัดหน้า อเล็กซ์ โขกผ่านมือ เช็ก ตุงตาข่าย ก่อนจะเกือบได้อีกลูกจากการยิงใบไม้ร่วงของ เจอร์ราร์ด แต่ เช็ก ยังปัดข้ามคานได้ทัน
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 เจ้าบ้านมายิงฝังอีกลูกจากจังหวะที่ แอชลีย์ โคล ดูดบอลลงไม่ดีถูก เบนายูน ฉกไปได้ ก่อนที่ลูกจะทะลักไปเข้าทาง ตอร์เรส แปจ่อๆ ไม่เหลือ จบเกม ลิเวอร์พูล ชนะ 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 51 คะแนน ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 2 ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหลือ 2 แต้ม ส่วน เชลซี มี 48 คะแนนเท่าเดิมหล่นลงมารั้งอันดับ 3
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, เดิร์ก เคาท์, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ชาบี อลอนโซ, อัลเบิร์ต ริเอรา, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เฟอร์นานโด ตอร์เรส
เชลซี – ปีเตอร์ เช็ก, โฮเซ โบซิงวา, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, จอห์น โอบี มิเกล, มิชาเอล บัลลัค, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ซาโลมง กาลู, นิโกลาส์ อเนลกา, ฟลอร็องต์ มาลูดา
