“สิงห์บลูส์” เชลซี แซงหน้า “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนั่งจ่าฝูงศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังเปิดบ้านถล่มเอาชนะ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 5-0
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ดึก
เชลซี 5-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
คาร์โล อันเชล็อตติ กลับมาคุมทัพ “สิงห์บลูส์” เชลซี ลงสนามเปิดบ้านรับมือ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น หลังบินกลับไปเยี่ยมพ่อซึ่งไม่สบายอยู่ที่อิตาลี นัดนี้เจ้าถิ่นได้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา พ้นโทษแบนในเกมยุโรปกลับมาล่าตาข่ายร่วมกับ นิโกลาส์ อเนลกา ขณะที่ โจ โคล ฟิตลงมาช่วยแดนกลางแล้วเช่นกัน ด้าน แซม อัลลาไดซ์ กุนซือทีมเยือนให้ เจสัน โรเบิร์ตส ยืนหน้าเป้าแทน ฟรังโก ดิ ซานโต ที่ติดข้อแม้ห้ามลงสนามเจอต้นสังกัดที่ให้ยืมตัวมา
เริ่มเกมการแข่งขันไปแค่ 30 วินาที เชลซี เกือบออกนำเร็วเมื่อ แฟรงค์ แลมพาร์ด หยอดเข้าเขตโทษให้ โจ โคล หลุดขึ้นมาโหม่งแต่บอลหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย เพราะแผงหลัง แบล็คเบิร์น เช็คล้ำหน้ากันพลาดแล้ว ผ่าน 10 นาทียังเป็นเจ้าถิ่นที่ครองเกมได้เกือบทั้งหมด แลมพ์ ได้ลองปั่นด้วยขวาบอลโค้งหลุดสามเหลี่ยมแบบได้ลุ้น
บี้อยู่พักใหญ่นาทีที่ 20 “สิงห์บลูส์” ทะยานนำ 1-0 จนได้ มิชาเอล บัลลัค แทงทะลุจากแดนกลางให้ นิโกลาส์ อเนลกา หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนปาดเข้ากลางหวังให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา เข้าฮอร์สแต่เป็น กาแอล ชิเวต์ สอดเท้ามาสกัดบอลเข้าประตูตัวเองเสียก่อน เกมดำเนินไปในลักษณะเกือบจะวันเวย์ ดร็อกบา ได้ตวัดยิงในกรอบโทษแต่ไม่ตรงเป้า ครึ่งชั่วโมงผ่านไป บัลลัค โยนบอลเหมาะเหม็งให้ แลมพาร์ด ขวิดเฉียดเสาแบบได้เสียวอีกครั้ง
โอกาสของเจ้าบ้านมาแบบไม่บันยะบันยัง โจ โคล ป้ายออกขวาให้ อเนลกา แปเหน่งๆ บอลพุ่งติดหน้าอก พอล โรบินสัน ที่ออกมาบล็อกได้เร็ว นาทีที่ 36 แบล็คเบิร์น เพิ่งจะมามีลุ้น มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน ทุ่มไกลเข้ามา ปีเตอร์ เช็ก ตัดบอลพลาด เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ กำลังจะง้างยิงแต่ มิคาเอล เอสเซียง เคลียร์ทิ้งได้ทัน ถัดมา เชลซี ลุยต่อ ดร็อกบา กระหน่ำด้วยขวาบอลส่ายร้อนถึง โรบินสัน ต้องทุบออกหลังไป ช่วงทดเจ็บ จอห์น เทอร์รี เติมขึ้นมาซัดเต็มข้อ โรบินสัน โชว์ซูเปอร์เซฟเหลือเชื่อทำให้จบ 45 นาทีแรก “กุหลาบไฟ” ตามแค่ประตูเดียว
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้แค่ 3 นาที สกอร์ก็ไหลเป็น 2-0 จนได้ เอสเซียง แทงทะลุกับดักล้ำหน้าให้ ดร็อกบา หลุดเข้าไปปาดเข้ากลาง ลาร์ส ยาค็อบเซน หุบเข้ามาสกัดไม่ขาด แลมพาร์ด วิ่งเข้ามาตะบันลูกหนังหายเข้าก้นตาข่าย ถึงนาทีที่ 52 เชลซี ฉีกหนีไปไกล 3-0 เมื่อ เอสเซียง ยิงไกลกว่า 35 หลาบอลพุ่งวาบผ่านมือ โรบินสัน หายเข้าประตูอย่างงดงาม จากนั้น “บิ๊กแซม” ต้องถอด เจสัน โรเบิร์ตส ที่ไม่มีบทบาทออกมาพร้อมส่ง นิโคลา คาลินิช ลงมาลุ้นสกอร์แทน
สกอร์หนีไปไกลเป็น 4-0 เมื่อถึงนาทีที่ 59 เมื่อ ไรอัน นีลเซน เสียบอลให้ ดร็อกบา จึงตัดสินใจรวบหอกตัวแกร่งล้มคว่ำ ผู้ตัดสิน อลัน ไวลีย์ ไม่ลังเลเป่านกหวีดยาว แลมพ์ รับหน้าที่สังหารไม่เหลือ ห้านาทีถัดมา “สิงห์บลูส์” ขย้ำไม่เลี้ยง 5-0 บัลลัค เปิดลูกเตะมุมให้ ดร็อกบา ขวิดเข้าไปอีก แบล็คเบิร์น พยายามฮึดตีไข่แตก มาร์ติน โอลส์สัน เติมขึ้นมางัดบอลข้ามตัว เช็ก แต่ เทอร์รี ยังตามไปโหม่งเคลียร์จากเส้นประตูได้อีก
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย “สิงห์บลูส์” ยังครองเกมได้เหนือกว่าก่อนจะเพลาเกมรุกลงไปทำให้ “กุหลาบไฟ” ได้ตั้งเกมกันขึ้นมาบ้าง แต่ครบ 90 นาทีไม่มีฝ่ายใดทำเพิ่มกันได้ เชลซี สลุตชัยอย่างสวยงามเก็บเพิ่มเป็น 24 คะแนนจากการลงสนาม 10 นัด แซงหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงห่าง 2 แต้มแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด โดย “ผีแดง” ต้องเจอศึกหนักไปเยือนรัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ซึ่งกำลังจนตรอกในบิ๊กแมตช์คืนวันอาทิตย์นี้
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , จอห์น เทอร์รี , ริคาร์โด คาร์วัลโญ , ชูเลียโน เบลเล็ตติ , มิคาเอล เอสเซียง , มิชาเอล บัลลัค , โจ โคล , แฟรงค์ แลมพาร์ด , นิโกลาส์ อเนลกา , ดิดิเยร์ ดร็อกบา
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน , ลาร์ส ยาค็อบเซน , ไรอัน นีลเซน , กาแอล ชิเวต์ , มาร์ติน โอลส์สัน , เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน , คีธ แอนดรูว์ส , สตีเวน เอ็นซองซี , เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ , มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน , เจสัน โรเบิร์ตส
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-1 แอสตัน วิลลา
[0-1 : กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ (น.79) , 1-1 : ซิลแว็ง อีแบงค์ส-เบล็ค (จุดโทษ น.83)]
เบอร์มิงแฮม ซิตี 2-1 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 : เลียม ริดจ์เวลล์ (น.37) , 2-0 : เจมส์ แม็คฟาดเดน (น.48) , 2-1 : สกอตต์ แดนน์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.82)]
เบิร์นลีย์ 1-3 วีแกน แอธเลติก
[1-0 : สตีเวน เฟล็ทเชอร์ (น.4) , 1-1 : ฮูโก โรดาเยกา (น.11) , 1-2 : ฮูโก โรดาเยกา (น.51) , 1-3 : เอเมอร์สัน บอยซ์ (น.76)]
ฮัลล์ ซิตี 0-0 ปอร์ทสมัธ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 สโตก ซิตี
[0-1 : เกล็น วีแลน (น.86)]
เชลซี 5-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[1-0 : กาแอล ชิเวต์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.20) , 2-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (น.48) , 3-0 : มิคาเอล เอสเซียง (น.52) , 4-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (จุดโทษ น.59) , 5-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.64)]
ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ดึก
เชลซี 5-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
คาร์โล อันเชล็อตติ กลับมาคุมทัพ “สิงห์บลูส์” เชลซี ลงสนามเปิดบ้านรับมือ “กุหลาบไฟ” แบล็คเบิร์น หลังบินกลับไปเยี่ยมพ่อซึ่งไม่สบายอยู่ที่อิตาลี นัดนี้เจ้าถิ่นได้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา พ้นโทษแบนในเกมยุโรปกลับมาล่าตาข่ายร่วมกับ นิโกลาส์ อเนลกา ขณะที่ โจ โคล ฟิตลงมาช่วยแดนกลางแล้วเช่นกัน ด้าน แซม อัลลาไดซ์ กุนซือทีมเยือนให้ เจสัน โรเบิร์ตส ยืนหน้าเป้าแทน ฟรังโก ดิ ซานโต ที่ติดข้อแม้ห้ามลงสนามเจอต้นสังกัดที่ให้ยืมตัวมา
เริ่มเกมการแข่งขันไปแค่ 30 วินาที เชลซี เกือบออกนำเร็วเมื่อ แฟรงค์ แลมพาร์ด หยอดเข้าเขตโทษให้ โจ โคล หลุดขึ้นมาโหม่งแต่บอลหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย เพราะแผงหลัง แบล็คเบิร์น เช็คล้ำหน้ากันพลาดแล้ว ผ่าน 10 นาทียังเป็นเจ้าถิ่นที่ครองเกมได้เกือบทั้งหมด แลมพ์ ได้ลองปั่นด้วยขวาบอลโค้งหลุดสามเหลี่ยมแบบได้ลุ้น
บี้อยู่พักใหญ่นาทีที่ 20 “สิงห์บลูส์” ทะยานนำ 1-0 จนได้ มิชาเอล บัลลัค แทงทะลุจากแดนกลางให้ นิโกลาส์ อเนลกา หลุดขึ้นมาทางซ้ายก่อนปาดเข้ากลางหวังให้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา เข้าฮอร์สแต่เป็น กาแอล ชิเวต์ สอดเท้ามาสกัดบอลเข้าประตูตัวเองเสียก่อน เกมดำเนินไปในลักษณะเกือบจะวันเวย์ ดร็อกบา ได้ตวัดยิงในกรอบโทษแต่ไม่ตรงเป้า ครึ่งชั่วโมงผ่านไป บัลลัค โยนบอลเหมาะเหม็งให้ แลมพาร์ด ขวิดเฉียดเสาแบบได้เสียวอีกครั้ง
โอกาสของเจ้าบ้านมาแบบไม่บันยะบันยัง โจ โคล ป้ายออกขวาให้ อเนลกา แปเหน่งๆ บอลพุ่งติดหน้าอก พอล โรบินสัน ที่ออกมาบล็อกได้เร็ว นาทีที่ 36 แบล็คเบิร์น เพิ่งจะมามีลุ้น มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน ทุ่มไกลเข้ามา ปีเตอร์ เช็ก ตัดบอลพลาด เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ กำลังจะง้างยิงแต่ มิคาเอล เอสเซียง เคลียร์ทิ้งได้ทัน ถัดมา เชลซี ลุยต่อ ดร็อกบา กระหน่ำด้วยขวาบอลส่ายร้อนถึง โรบินสัน ต้องทุบออกหลังไป ช่วงทดเจ็บ จอห์น เทอร์รี เติมขึ้นมาซัดเต็มข้อ โรบินสัน โชว์ซูเปอร์เซฟเหลือเชื่อทำให้จบ 45 นาทีแรก “กุหลาบไฟ” ตามแค่ประตูเดียว
กลับมาเล่นครึ่งหลังได้แค่ 3 นาที สกอร์ก็ไหลเป็น 2-0 จนได้ เอสเซียง แทงทะลุกับดักล้ำหน้าให้ ดร็อกบา หลุดเข้าไปปาดเข้ากลาง ลาร์ส ยาค็อบเซน หุบเข้ามาสกัดไม่ขาด แลมพาร์ด วิ่งเข้ามาตะบันลูกหนังหายเข้าก้นตาข่าย ถึงนาทีที่ 52 เชลซี ฉีกหนีไปไกล 3-0 เมื่อ เอสเซียง ยิงไกลกว่า 35 หลาบอลพุ่งวาบผ่านมือ โรบินสัน หายเข้าประตูอย่างงดงาม จากนั้น “บิ๊กแซม” ต้องถอด เจสัน โรเบิร์ตส ที่ไม่มีบทบาทออกมาพร้อมส่ง นิโคลา คาลินิช ลงมาลุ้นสกอร์แทน
สกอร์หนีไปไกลเป็น 4-0 เมื่อถึงนาทีที่ 59 เมื่อ ไรอัน นีลเซน เสียบอลให้ ดร็อกบา จึงตัดสินใจรวบหอกตัวแกร่งล้มคว่ำ ผู้ตัดสิน อลัน ไวลีย์ ไม่ลังเลเป่านกหวีดยาว แลมพ์ รับหน้าที่สังหารไม่เหลือ ห้านาทีถัดมา “สิงห์บลูส์” ขย้ำไม่เลี้ยง 5-0 บัลลัค เปิดลูกเตะมุมให้ ดร็อกบา ขวิดเข้าไปอีก แบล็คเบิร์น พยายามฮึดตีไข่แตก มาร์ติน โอลส์สัน เติมขึ้นมางัดบอลข้ามตัว เช็ก แต่ เทอร์รี ยังตามไปโหม่งเคลียร์จากเส้นประตูได้อีก
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย “สิงห์บลูส์” ยังครองเกมได้เหนือกว่าก่อนจะเพลาเกมรุกลงไปทำให้ “กุหลาบไฟ” ได้ตั้งเกมกันขึ้นมาบ้าง แต่ครบ 90 นาทีไม่มีฝ่ายใดทำเพิ่มกันได้ เชลซี สลุตชัยอย่างสวยงามเก็บเพิ่มเป็น 24 คะแนนจากการลงสนาม 10 นัด แซงหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงห่าง 2 แต้มแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด โดย “ผีแดง” ต้องเจอศึกหนักไปเยือนรัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ซึ่งกำลังจนตรอกในบิ๊กแมตช์คืนวันอาทิตย์นี้
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , บรานิสลาฟ อิวาโนวิช , จอห์น เทอร์รี , ริคาร์โด คาร์วัลโญ , ชูเลียโน เบลเล็ตติ , มิคาเอล เอสเซียง , มิชาเอล บัลลัค , โจ โคล , แฟรงค์ แลมพาร์ด , นิโกลาส์ อเนลกา , ดิดิเยร์ ดร็อกบา
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน , ลาร์ส ยาค็อบเซน , ไรอัน นีลเซน , กาแอล ชิเวต์ , มาร์ติน โอลส์สัน , เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน , คีธ แอนดรูว์ส , สตีเวน เอ็นซองซี , เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ , มอร์เทน กัมส์ พีเดอร์เซน , เจสัน โรเบิร์ตส
ผลฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-1 แอสตัน วิลลา
[0-1 : กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ (น.79) , 1-1 : ซิลแว็ง อีแบงค์ส-เบล็ค (จุดโทษ น.83)]
เบอร์มิงแฮม ซิตี 2-1 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 : เลียม ริดจ์เวลล์ (น.37) , 2-0 : เจมส์ แม็คฟาดเดน (น.48) , 2-1 : สกอตต์ แดนน์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.82)]
เบิร์นลีย์ 1-3 วีแกน แอธเลติก
[1-0 : สตีเวน เฟล็ทเชอร์ (น.4) , 1-1 : ฮูโก โรดาเยกา (น.11) , 1-2 : ฮูโก โรดาเยกา (น.51) , 1-3 : เอเมอร์สัน บอยซ์ (น.76)]
ฮัลล์ ซิตี 0-0 ปอร์ทสมัธ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 0-1 สโตก ซิตี
[0-1 : เกล็น วีแลน (น.86)]
เชลซี 5-0 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
[1-0 : กาแอล ชิเวต์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.20) , 2-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (น.48) , 3-0 : มิคาเอล เอสเซียง (น.52) , 4-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด (จุดโทษ น.59) , 5-0 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.64)]