ASTVผู้จัดการรายวัน- "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ นักตบลูกขนไก่วัย 14 ปีสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เยาวชนโลกอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ ประกาศขอสร้างชื่อต่อในกีฬาโอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ
เมื่อเวลา 13.30 น. ของวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2552 คณะนักแบดมินตันเยาวชนไทย นำโดย "น้องเมย์" รัชนก อินทนนท์ นักตบลูกขนไก่วัย 14 ปี ที่เพิ่งคว้าแชมป์โลกเยาวชนหญิงเดี่ยวจากรายการ โยเน็กซ์ ซันไรส เวิลด์ จูเนียร์ แบดมินตัน แชมเปียนชิป ที่รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ได้เดินทางกลับถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ด้วยสายการบินมาเลเชีย เที่ยวบินที่ MH 788
โดยทันทีที่เดินทางมาถึงมีสื่อมวลชนไทยจำนวนหนึ่งมารอรับ ซึ่งสาวน้อยวัย 14 ปีรายนี้ กล่าวเปิดใจถึงการสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกีฬาอายุน้อยที่สุดที่คว้าแชมป์รายการดังกล่าวว่า "ก่อนไปแค่คิดว่าจะทำให้ดีที่สุด แต่พอผ่านเข้ารอบลึกๆ เริ่มหวังถึงเหรียญทองแดง ขณะที่เมื่อถึงรอบรองชนะเลิศต้องเจอกับนักกีฬาจีน ตอนนั้นคิดว่าคงสู้ไม่ได้แน่ เพราะคิดเอาว่าเขาเก่งกว่าเรา ก็ศึกษาการเล่นของเขา ดูแล้วคู่แข่งรูปร่างสูงใหญ่ น่าจะเคลื่อนไหวได้ช้า จึงวางแผนมาตีโยกทั่วคอร์ทแล้วดักหยอดหน้าเน็ท และก็ได้ผลจริงๆ เมื่อผ่านมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ต้องมาเจอกับ พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข ที่เป็นนักกีฬารุ่นพี่ในทีมไทยด้วยกัน คิดแค่ว่าแพ้ก็ไม่เป็นไร แต่ก็เอาชนะได้ในที่สุด"
ส่วนอนาคต "สาวเมย์" วางเป้าหมายระยะใกล้ที่เหรียญทองซีเกมส์ ส่วนระยะไกลคือ โอลิมปิก " ตอนนี้วางเป้าหมายซีเกมส์ที่ประเทศลาวปลายปีนี้ที่เหรียญทองให้ได้ก่อน จากนั้นเป้าหมายต่อไปต้องทำคะแนนสะสมให้ได้มากพอที่จะเข้าร่วมโอลิมปิก 2012 ที่ประเทศอังกฤษต่อไป"
ด้าน ศ.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมลูกขนไก่ไทย กล่าวว่า "ตอนนี้ รัชนก ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของแบดมินตันไทยไปแล้ว เพราะเป็นนักกีฬาที่อายุน้อยที่สุด บอกได้เลยว่าเรื่องนี้ไม่ใช่บังเอิญ นักกีฬาเยาวชนหญิงเดี่ยวของเราชิงแชมป์โลกกันเองไม่ใช่เรื่องธรรมดา ผมเห็นแววในตัวสาวน้อยคนนี้มาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้วในการชิงแชมป์ประเทศไทย เมื่อสามารถผ่านเข้ารอบรองได้ด้วยวัยเพียง 12 ปี ขณะที่ในปีนี้เธอเป็นแชมป์ประเทศไทยด้วยวัย 14 ปี"
ขณะที่ เทศนา พันธ์วิศวาส โค้ชที่ดูแล "น้องเมย์" ในการแข่งขันครั้งนี้กล่าวว่า "การประสบความสำเร็จในครั้งนี้ บอกได้เลยว่าเป็นบันไดแห่งความสดใสรอนักกีฬาอยู่แน่นอน ขอเพียงหมั่นฝึกซ้อม และรักษาร่างกายตัวเอง เชื่อว่าจะเป็นความหวังให้กับทีมชาติไทยได้แน่"
ส่วน ภัททพล เงินศรีสุข ผู้ฝึกสอนของ "น้องเมย์" เปิดเผยผ่าน MGR Sport ถึงการคว้าแชมป์ของนักตบวัย 14 ปีว่า "ตอนแรกไม่คิดว่าเมย์จะคว้าแชมป์ได้เพราะประสบการณ์ยังน้อยและรายการนี้ผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่อายุอยู่ระหว่าง 16-17 ปี ดังนั้นการคว้าแชมป์มาได้ถือเป็นเรื่องที่เกินความคาดหวังมาก"
นอกจาก "น้องเมย์" แล้ว นักกีฬาไทยยังประสบความสำเร็จจากรายการดังกล่าวด้วยการคว้าแชมป์ในประเภทคู่ผสมจาก มณีพงษ์ จองจิตร จับคู่กับ รจนา ชูธบุนดิตกุล ที่เอาชนะคู่แข่งจากอินโดนีเซีย โดย มณีพงษ์ กล่าวเปิดใจทันทีที่ถึงประเทศไทยว่า "ตื่นเต้นมากที่คว้าแชมป์ได้ เพราะไม่คิดมาก่อน แต่ต้องให้เครดิตโค้ชที่ช่วยปรับเกมให้ตลอดเวลาจนได้ชัยชนะในที่สุด จากนี้ไปคงหันไปเน้นที่การแข่งขันประเทศชายคู่มากกว่า เนื่องจากประเภทคู่ผสมของไทยมีนักกีฬาที่ติดอันดับโลกอยู่แล้วถึง 2 คู่ ซึ่งก็หวังไว้ที่การผ่านเข้าสู่การแข่งขันโอลิมปิกในปี 2012 เช่นกัน"
ซึ่งจากผลงาน 2 เหรียญทองในการศึกชิงแชมป์เยาวชนโลกครั้งนี้ส่งผลให้ "อาจารย์เจริญ" แสดงความมั่นใจถึงอนาคตทีมแบดฯ ไทยว่าจะประกาศศักดาได้เหนือคู่ปรับร่วมอาเซียนอย่าง อินโดนีเซีย, มาเลเซีย และ สิงคโปร์ ในศึกซีเกมส์ที่ประเทศลาว "ผมคิดว่าการหันมาให้ความสนใจนักกีฬาดาวรุ่งมากขึ้น มีผลต่อทีมชาติไทยที่มีตัวเลือกระดับชาติมากขึ้นไปด้วย เราหวังว่าในซีเกมส์ปลายปีนี้คงจะต่อกรกับคู่แข่งได้สูสีกว่าที่เคยเป็นมา แต่คงไม่กำหนดว่าจะต้องได้กี่เหรียญทอง เพราะจะเป็นการกดดันนักกีฬาจนเกินไป"
สำหรับการคว้าเหรียญทองของนักกีฬาไทยทั้ง 3 รายนั้น จะได้รับเงินรางวัลอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติเป็นจำนวนเหรียญทองละ 200,000 บาท ด้วยกัน บวกกับเงินรางวัลจากการคว้าแชมป์รายการนี้อีกรายละประมาณ 200,000 บาท รวมแล้วนักกีฬาที่คว้าแชมป์จะได้เงินรางวัลถึงคนละ 400,000 บาท เลยทีเดียว
