นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ตัดสินใจเทรด ริชาร์ด ซีมัวร์ ดีเฟนซีฟ ไลน์แมน คนสำคัญให้ โอคแลนด์ เรดเดอร์ส แลกสิทธิดราฟท์รอบแรกของปี 2011 ขณะที่ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ตัดตัว เอ.เจ. ฟีลีย์ ทิ้งไป เนื่องจากการมาของ ไมเคิล วิค
นับตั้งแต่เข้าไปอกหักในซูเปอร์โบว์ล เมื่อซีซัน 2002/03 โอคแลนด์ เรดเดอร์ส กลายเป็นทีมที่ป้องกันการวิ่งคู่แข่งได้แย่ที่สุดในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เสียเฉลี่ยต่อเกมถึง 141.7 หลา โดนวิ่งทัชดาวน์ใส่ถึง 121 ครั้ง อนุญาตให้คู่แข่งวิ่งทะลวงเกิน 100 หลา มากกว่าครึ่งในการลงสนาม 3 ปีที่ผ่านมา
เมื่อเป็นเช่นนี้ แอล เดวิส เจ้าของทีม “สลัดดำ” จึงปฏิบัติการเสริมเกมรับครั้งสำคัญ ด้วยการไปเทรดดึงตัว ริชาร์ด ซีมัวร์ ที่กำลังจะอายุครบ 30 ปี ในเดือนหน้า และเหลือสัญญาปีสุดท้าย (รับค่าจ้าง 3.7 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยยอมเสียสิทธิดราฟท์รอบแรกปี 2011 ไปให้แก่ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์
สำหรับ ซีมัวร์ นับตั้งแต่ถูกดราฟท์เข้าลีกรอบ 6 เมื่อปี 2001 เขากลายเป็นตัวหลักของทีมรับ “นักรบกู้ชาติ” โดยดีเฟนซีฟ เอนด์ รายนี้มีส่วนช่วยให้ แพทริออตส์ คว้าซูเปอร์โบว์ลถึง 3 สมัย ทำสถิติแซ็คควอเตอร์แบ็กคู่แข่งไปถึง 39 ครั้ง และก็ติดโพร-โบว์ล 5 สมัยรวด นับตั้งแต่ปี 2002
การขาดหายไปของ ซีมัวร์ ดูเหมือน บิลล์ บีลิชิก หัวหน้าโค้ช “แพทส์แมน” คงต้องเน้นปั้นดาวรุ่งขึ้นมาทดแทน เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็เทรด ไมค์ วราเบล ไลน์แบ็กเกอร์ตัวเก่งให้ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ ขณะที่ ร็อดนีย์ แฮร์ริงสัน (เซฟตี) และ เทดี บรูสกี ยอดกองกลาง (ไลน์แบ็กเกอร์) ก็ประกาศรีไทร์จากวงการคนชนคนไปแล้ว
ข้ามไปทางฝั่งของ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ หลังจากตัดสินใจเซ็นสัญญา 1 ปีกับ ไมเคิล วิค อดีตสตาร์จอมอื้อฉาว อีกทั้งจอมทัพวัย 29 ปี ยังได้สิทธิคืนลีกเร็วหลังผ่านสัปดาห์ที่ 3 ของฤดูกาลปกติ ทำให้ “อินทรีมรกต” ตัดสินใจเขี่ย เอ.เจ. ฟีลีย์ พ้นทีมไป เนื่องจากเฟรนไชส์มีควอเตอร์แบ็ก สำคัญๆ อยู่ในทีมถึง 3 คนไม่ว่าจะเป็นตัวจริงอย่าง โดโนแวน แม็คแนบบ์ , เควิน โคล์บ ดาวรุ่งที่กำลังปั้นขึ้นมาเป็นอนาคต หรือ วิค อาวุธเด็ดของทีมสำหรับฤดูกาล 2009/10 ที่กำลังจะมาถึง
โดย ฟีลีย์ เคยออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้ อีเกิลส์ 7 เกมใน 6 ฤดูกาล ผลงานขว้างไป 4,070 หลา 27 ทัชดาวน์ 29 อินเทอร์เซปต์ในการเล่น 23 เกม อีกทั้งควอเตอร์แบ็กวัย 32 ปี ยังเคยนำทัพ “โลมามหาภัย” ไมอามี ดอลฟินส์ 8 เกมด้วยกันในปี 2004
นับตั้งแต่เข้าไปอกหักในซูเปอร์โบว์ล เมื่อซีซัน 2002/03 โอคแลนด์ เรดเดอร์ส กลายเป็นทีมที่ป้องกันการวิ่งคู่แข่งได้แย่ที่สุดในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เสียเฉลี่ยต่อเกมถึง 141.7 หลา โดนวิ่งทัชดาวน์ใส่ถึง 121 ครั้ง อนุญาตให้คู่แข่งวิ่งทะลวงเกิน 100 หลา มากกว่าครึ่งในการลงสนาม 3 ปีที่ผ่านมา
เมื่อเป็นเช่นนี้ แอล เดวิส เจ้าของทีม “สลัดดำ” จึงปฏิบัติการเสริมเกมรับครั้งสำคัญ ด้วยการไปเทรดดึงตัว ริชาร์ด ซีมัวร์ ที่กำลังจะอายุครบ 30 ปี ในเดือนหน้า และเหลือสัญญาปีสุดท้าย (รับค่าจ้าง 3.7 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยยอมเสียสิทธิดราฟท์รอบแรกปี 2011 ไปให้แก่ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์
สำหรับ ซีมัวร์ นับตั้งแต่ถูกดราฟท์เข้าลีกรอบ 6 เมื่อปี 2001 เขากลายเป็นตัวหลักของทีมรับ “นักรบกู้ชาติ” โดยดีเฟนซีฟ เอนด์ รายนี้มีส่วนช่วยให้ แพทริออตส์ คว้าซูเปอร์โบว์ลถึง 3 สมัย ทำสถิติแซ็คควอเตอร์แบ็กคู่แข่งไปถึง 39 ครั้ง และก็ติดโพร-โบว์ล 5 สมัยรวด นับตั้งแต่ปี 2002
การขาดหายไปของ ซีมัวร์ ดูเหมือน บิลล์ บีลิชิก หัวหน้าโค้ช “แพทส์แมน” คงต้องเน้นปั้นดาวรุ่งขึ้นมาทดแทน เนื่องจากก่อนหน้านี้ก็เทรด ไมค์ วราเบล ไลน์แบ็กเกอร์ตัวเก่งให้ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ ขณะที่ ร็อดนีย์ แฮร์ริงสัน (เซฟตี) และ เทดี บรูสกี ยอดกองกลาง (ไลน์แบ็กเกอร์) ก็ประกาศรีไทร์จากวงการคนชนคนไปแล้ว
ข้ามไปทางฝั่งของ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ หลังจากตัดสินใจเซ็นสัญญา 1 ปีกับ ไมเคิล วิค อดีตสตาร์จอมอื้อฉาว อีกทั้งจอมทัพวัย 29 ปี ยังได้สิทธิคืนลีกเร็วหลังผ่านสัปดาห์ที่ 3 ของฤดูกาลปกติ ทำให้ “อินทรีมรกต” ตัดสินใจเขี่ย เอ.เจ. ฟีลีย์ พ้นทีมไป เนื่องจากเฟรนไชส์มีควอเตอร์แบ็ก สำคัญๆ อยู่ในทีมถึง 3 คนไม่ว่าจะเป็นตัวจริงอย่าง โดโนแวน แม็คแนบบ์ , เควิน โคล์บ ดาวรุ่งที่กำลังปั้นขึ้นมาเป็นอนาคต หรือ วิค อาวุธเด็ดของทีมสำหรับฤดูกาล 2009/10 ที่กำลังจะมาถึง
โดย ฟีลีย์ เคยออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้ อีเกิลส์ 7 เกมใน 6 ฤดูกาล ผลงานขว้างไป 4,070 หลา 27 ทัชดาวน์ 29 อินเทอร์เซปต์ในการเล่น 23 เกม อีกทั้งควอเตอร์แบ็กวัย 32 ปี ยังเคยนำทัพ “โลมามหาภัย” ไมอามี ดอลฟินส์ 8 เกมด้วยกันในปี 2004
