ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง หัวเรือใหญ่ศึกไทยพรีเมียร์ลีกเผยว่าจะเลื่อนเวลาเปิดฤดูกาลหน้าขึ้นมาเป็นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อให้สอดคล้องกับปฏิทินฟุตบอลสากล พร้อมทั้งแย้มว่าเรื่องเพิ่มจำนวนทีมแข่งมีความเป็นไปได้
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีการเสนอแนวความคิดที่จะเลื่อนโปรแกรมลีกสูงสุดแดนสยามให้รูดม่านเปิดฉากเร็วขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงฤดูฝนอันมีผลต่อเนื่องมาถึงการเลื่อนแมตช์แข่งขัน รวมถึงการชนกับโปรแกรมทีมชาติตามปฏิทินของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ล่าสุดได้มีการขานรับไอเดียดังกล่าวแล้ว
โดย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เผยในงาน Meet the Press ครั้งที่ 5 แถลงความพร้อมก่อนลงเตะสุดสัปดาห์นี้ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า “ปีหน้าเราจะเปิดฤดูกาลเร็วขึ้น 1 เดือนเป็นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับโปรแกรมทีมชาติในระดับสากล เผื่อในอนาคตเราได้ไปเล่นฟุตบอลโลกก็จะไม่มีปัญหาระหว่างทีมชาติกับสโมสร เพราะช่วงฟุตบอลโลกจะตรงกับช่วงพักเลกแรกในเดือนมิถุนายน”
ขณะเดียวกัน “ดร.ลูกหนัง” เผยว่าได้หารือกับ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในเรื่องการเพิ่มจำนวนทีมที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งก็ชี้แจงว่า “สโมสรจะต้องพร้อมทั้งในและนอกสนาม นอกจากจะเล่นดีแล้วต้องมีการจัดการที่เป็นมืออาชีพ สร้างรายได้เลี้ยงตัวเองและมีแฟนคลับ ถ้ามีความเป็นไปได้ก็ยินดีที่จะเพิ่ม แต่ก็อาจมีความจำเป็นต้องลดทีมได้เช่นกัน ส่วนจะเพิ่มเป็น 18 ทีม หรือมี 16 ทีมเท่าเดิม หรือ ลดเหลือ 14 ทีมคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในอนาคตที่ยังต้องหารือกันต่อไปหลังจบฤดูกาลนี้ แต่ถ้าเพิ่มทีมแล้วก็อาจทำให้การแข่งขันเข้มข้นขึ้นมาอีก”
นอกจากนี้ ประธานไทยพรีเมียร์ลีกกล่าวว่ารายละเอียดในการคุยกับ "บิ๊กยี" มีเรื่องของแนวโน้มการปรับตารางการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ ใหม่ หลังจากมีหลายทีมบ่นว่าโปรแกรมเตะชุกชุมเกินไป ส่วนเรื่องผู้ตัดสินที่ตกเป็นเป้าให้วิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดก็จะนำวิธีการจัดเกรดให้คะแนน รวมถึงมอบรางวัลให้กับสิงห์เชิ้ตดำที่ทำหน้าที่ได้ดีเข้ามาใช้
ท้ายสุด ดร.วิชิต เตรียมเชิญผู้จัดการทีมและผู้ควบคุมแฟนคลับของแต่ละสโมสรในไทยพรีเมียร์ลีกมาหารือกัน ณ ห้องแถลงข่าวรอดโพธิ์ทอง สนามศุภชลาศัย ในวันอังคารที่ 25 สิงหาคม เวลา 13.00 น.เพื่อปรึกษาและหามาตารการควบคุมให้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย หลังเกิดเหตุแฟนบอลปะทะกับสารวัตรทหาร (สห.) จนได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายในนัดที่ ราชนาวี ระยอง เปิดบ้านที่สนามกีฬากลาง จังหวัดระยอง เฉือนชนะ พัทยา ยูไนเต็ด 3-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ปัญหากองเชียร์มีผลกระทบต่อโควตาไปเล่นเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งที่ประชุมสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่าไทยลีกมีแนวโน้มสูงที่จะได้สิทธิ์เล่นรอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ 1 ทีม
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีการเสนอแนวความคิดที่จะเลื่อนโปรแกรมลีกสูงสุดแดนสยามให้รูดม่านเปิดฉากเร็วขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงฤดูฝนอันมีผลต่อเนื่องมาถึงการเลื่อนแมตช์แข่งขัน รวมถึงการชนกับโปรแกรมทีมชาติตามปฏิทินของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ล่าสุดได้มีการขานรับไอเดียดังกล่าวแล้ว
โดย ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด เผยในงาน Meet the Press ครั้งที่ 5 แถลงความพร้อมก่อนลงเตะสุดสัปดาห์นี้ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า “ปีหน้าเราจะเปิดฤดูกาลเร็วขึ้น 1 เดือนเป็นช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับโปรแกรมทีมชาติในระดับสากล เผื่อในอนาคตเราได้ไปเล่นฟุตบอลโลกก็จะไม่มีปัญหาระหว่างทีมชาติกับสโมสร เพราะช่วงฟุตบอลโลกจะตรงกับช่วงพักเลกแรกในเดือนมิถุนายน”
ขณะเดียวกัน “ดร.ลูกหนัง” เผยว่าได้หารือกับ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในเรื่องการเพิ่มจำนวนทีมที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งก็ชี้แจงว่า “สโมสรจะต้องพร้อมทั้งในและนอกสนาม นอกจากจะเล่นดีแล้วต้องมีการจัดการที่เป็นมืออาชีพ สร้างรายได้เลี้ยงตัวเองและมีแฟนคลับ ถ้ามีความเป็นไปได้ก็ยินดีที่จะเพิ่ม แต่ก็อาจมีความจำเป็นต้องลดทีมได้เช่นกัน ส่วนจะเพิ่มเป็น 18 ทีม หรือมี 16 ทีมเท่าเดิม หรือ ลดเหลือ 14 ทีมคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในอนาคตที่ยังต้องหารือกันต่อไปหลังจบฤดูกาลนี้ แต่ถ้าเพิ่มทีมแล้วก็อาจทำให้การแข่งขันเข้มข้นขึ้นมาอีก”
นอกจากนี้ ประธานไทยพรีเมียร์ลีกกล่าวว่ารายละเอียดในการคุยกับ "บิ๊กยี" มีเรื่องของแนวโน้มการปรับตารางการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ ใหม่ หลังจากมีหลายทีมบ่นว่าโปรแกรมเตะชุกชุมเกินไป ส่วนเรื่องผู้ตัดสินที่ตกเป็นเป้าให้วิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดก็จะนำวิธีการจัดเกรดให้คะแนน รวมถึงมอบรางวัลให้กับสิงห์เชิ้ตดำที่ทำหน้าที่ได้ดีเข้ามาใช้
ท้ายสุด ดร.วิชิต เตรียมเชิญผู้จัดการทีมและผู้ควบคุมแฟนคลับของแต่ละสโมสรในไทยพรีเมียร์ลีกมาหารือกัน ณ ห้องแถลงข่าวรอดโพธิ์ทอง สนามศุภชลาศัย ในวันอังคารที่ 25 สิงหาคม เวลา 13.00 น.เพื่อปรึกษาและหามาตารการควบคุมให้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย หลังเกิดเหตุแฟนบอลปะทะกับสารวัตรทหาร (สห.) จนได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายในนัดที่ ราชนาวี ระยอง เปิดบ้านที่สนามกีฬากลาง จังหวัดระยอง เฉือนชนะ พัทยา ยูไนเต็ด 3-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ปัญหากองเชียร์มีผลกระทบต่อโควตาไปเล่นเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งที่ประชุมสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่าไทยลีกมีแนวโน้มสูงที่จะได้สิทธิ์เล่นรอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ 1 ทีม