นพวรรณ เลิศชีวกานต์ นักเทนนิสดาวรุ่งของไทยเจ้าของแชมป์เยาวชนหญิงเดี่ยวและคู่วิมเบิลดัน 2009 เดินทางกลับถึงมาตุภูมิเป็นที่เรียบร้อยเมื่อช่วงบ่ายของวันพุธที่ผ่านมา พร้อมประกาศเตรียมป้องกันแชมป์เยาวชนหญิงคู่ยูเอส โอเพ่น ทำสถิติครองสามแกรนด์สแลมเยาวชนในหนึ่งฤดูกาล ขณะที่นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ วอนทุกภาคส่วนร่วมให้ความสนับสนุนเด็กไทยเพื่อก้าวเข้าสู่สนามการแข่งขันอาชีพในฤดูกาลหน้าได้อย่างสมภาคภูมิ ทางด้านนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เปิดทำเนียบต้อนรับการกลับมาของ "น้องนก" ในวันพฤหัสที่ 9 กรกฎาคมเวลา 08.30 น.
หลังจากสร้างปรากฏการณ์เป็นนักเทนนิสดาวรุ่งจากเอเชีย ด้วยการคว้าดับเบิลแชมป์บนสนามแข่งระดับเยาวชนในแกรนด์สแลมเก่าแก่ที่สุดในโลกอย่างวิมเบิลดันมาครองได้ทั้งประเภทหญิงเดี่ยวและคู่ เมื่อวันพุธที่ 8 กรกฎาคม "น้องนก" นพวรรณ เลิศชีวกานต์ เดินทางด้วยสายการบินไทย TG 917 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. โดยมีนายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน เลขาธิการลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทย นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ อุปนายกลอนเทนนิสฯ นางนฤมล ศิริวัฒน์ ผู้จัดการส่วนตัว และ นายประมวล เลิศชีวกานต์ คุณพ่อของนักหวดสาว ให้การต้อนรับและร่วมแสดงความยินดี ณ ห้อง VIP 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มารอรายงานข่าวกันเป็นจำนวนมาก
ทันทีที่มาถึง “น้องนก” เปิดเผยว่า "รู้สึกดีใจมากที่มีคนมาให้กำลังใจเนืองแน่นขนาดนี้ ต้องขอขอบคุณแฟนกีฬาชาวไทยทุกคน ขอบคุณครอบครัวศิริวัฒน์ และขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่านที่ทำให้มีวันนี้”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจและโอกาสที่จะป้องกันแชมป์เยาวชนยูเอส โอเพ่น ซึ่งน้องนกเคยครองในประเภทหญิงคู่เมื่อปีที่แล้ว หากทำได้สำเร็จ นักเทนนิสสาวไทยวัย 17 ปีจะสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์แกรนด์สแลมระดับเยาวชนมาครองได้ถึงสามรายการในหนึ่งฤดูกาล ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยว่า "ส่วนตัวแล้วต้องการที่จะเข้าชิงแชมป์ในประเภทหญิงเดี่ยวยูเอส โอเพน ให้ได้ แต่ไม่อยากตั้งเป้าว่าจะต้องได้แชมป์ เพราะเป็นการกดดันตัวเอง ขณะที่ในประเภทคู่ เนื่องจากเป็นแชมป์เก่าก็อยากจะรักษาแชมป์เอาไว้ต่อไป เพราะถือเป็นการแข่งขันแกรนด์สแลมระดับเยาวชนรายการสุดท้ายในชีวิต ก็อยากให้ผลงานออกมาดีที่สุด"
ด้าน นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงความช่วยเหลือที่จะมีต่อนักเทนนิสดาวรุ่งชาวไทยว่า "ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ นพวรรณที่ทำให้คนไทยทั้ง 65 ล้านคนรู้สึกปลื้มปิติยินดีกับชัยชนะในครั้งนี้ด้วย นับเป็นเกียรติประวัตที่น่ายกย่องที่ทำชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ และขอให้อนาคตประสบแต่ความสำเร็จในระดับสูงต่อไป" ส่วนเรื่องการขอพาสปอร์ตทางการฑูตหรือพาสปอร์ตแดง ให้กับ "น้องนก" นั้น นายชุมพล ยืนยันว่าพร้อมเร่งเดินเรื่องเต็มที่ "ผมได้ฝากเรื่องไปให้กับคุณกนกพันธุ์ จุลเกษม ผู้ว่า กทท.ไปเร่งดำเนินการเรื่องนี้แล้ว ซึ่งหากเรื่องมาถึงเมื่อใด เราจะได้เสนอเรื่องไปที่กระทรวงการต่างประเทศด้วย โดยเชื่อว่าจะดำเนินการอย่างเร็วที่สุด"
ทางด้านนายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ซึ่งให้ความสนับสนุน นพวรรณ เพื่อก้าวเข้าสู่เส้นทางอาชีพมาโดยตลอดนั้นได้เผยถึงผู้ให้ความสนับสนุนของ น้องนกในเวลานี้ว่ามีเพียงสองรายคือ บริษัท บุญรอด บริวเวอรี่ จำกัดซึ่งให้ความสนับสนุนเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาทต่อปี และการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ที่สนับสนุนนักกีฬาดาวรุ่งในโครงการของลอนเทนนิสสมาคม โดยกล่าวว่า "ผู้สนับสนุนของนพวรรณ ในเวลานี้ถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายที่เราต้องจ้าง ฌัคส์ คริส มาสอนก็ตกปีละ 4 ล้านบาท แม้จะได้เงินช่วยเหลือเรื่องโค้ชจากการกีฬาแห่งประเทศไทยเดือนละ 4 หมื่นกว่าบาท แต่ก็ยังน้อยเกินไป ผมอยากให้หน่วยงานต่างๆ ยื่นมือมาช่วยเหลือกันให้มากกว่านี้ เพราะนพวรรณ คือนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ”
ส่วนการต้อนรับจากรัฐบาลนั้น ล่าสุดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรีเตรียมเปิดห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบต้อนรับ นพวรรณ เลิศชีวกานต์ ในเวลาประมาณ 08.30 น.ของวันพฤหัสที่ 9 กรกฎาคม หลังจากนั้นนักหวดสาวมีคิวให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และ นิตยสารอีกหลายฉบับ ก่อนจะเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้เตรียมจัดงานต้อนรับในวันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม 2552 ไว้อย่างยิ่งใหญ่ ทั้งนี้ "น้องนก" มีกำหนดที่จะพักผ่อนในประเทศไทยประมาณ 7-10 วัน ก่อนเดินทางไปสมทบกับ ฌัคส์ คริส ผู้ฝึกสอนที่สหรัฐฯ เพื่อเตรียมตัวลงแข่งขันรายการอาชีพที่แวนคูเวอร์ แคนาดา อันเป็นรายการอุ่นเครื่องก่อนลุยแกรนด์สแลม "ยูเอส โอเพ่น" ในเดือนสิงหาคมต่อไป
