xs
xsm
sm
md
lg

RIP ‘เอ็มเจ-แม็คแนร์’ / ลุงแซม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม

ตลอดสองสัปดาห์มานี้ ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการสูญเสียอย่างแท้จริงสำหรับอเมริกันชน เมื่อ “คิง ออฟ ป็อป” ไมเคิล แจ็คสัน เสียชีวิตลงด้วยอาการหัวใจล้มเหลว ขณะที่ “แอร์ แม็คแนร์” สตีฟ แม็คแนร์ อดีตควอเตอร์แบ็กจอมอึดแห่ง เทนเนสซี ไตตันส์ ต้องจบชีวิตด้วยน้ำมือคนที่ตนรัก?

เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน ตามวัน-เวลาประเทศไทย จำได้แม่นว่าตื่นขึ้นมานั่งเช็คข่าวคราวความเคลื่อนไหวในวงการกีฬาตามปกติ เผอิญเหลือบไปเห็นข่าว ไมเคิล แจ็คสัน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ไอ้เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร เนื่องจากราชาเพลงป็อปเดินเข้าออกโรงหมอบ่อยครั้งอยู่แล้ว แต่พอช่วงสายลุกขึ้นมาเปิดคอมพิวเตอร์คู่ใจดูอะไรไปเรื่อยเปื่อย กลับเห็นพาดหัวใหญ่ตัวเบ้อเริ่ม ไมเคิล น้องคนสุดท้องของวง “แจ็คสัน ไฟฟ์” จากไปอย่างไม่มีวันกลับในวันที่ 25 มิ.ย.ตามวัน-เวลาในลอสแองเจลลิส ด้วยวัย 50 ปี

แม้ไม่ได้เป็นแฟนเพลงตัวยงของ แจ็คสัน แต่ก็คิดว่านี่คือการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ไม่ใช่แค่วงการบันเทิง เพราะนี่คือการจากไปของบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ตอนสมัยผมยังเด็กยอมรับว่าถูกกระแสความดังของ แจ็คสัน ครอบงำจิตใจให้ออกมาโชว์สเต็ปกับเพื่อนๆ ในท่า “มูน วอล์คเกอร์” แข่งกันโน้มตัวไปข้างหน้าว่าใครเลียนแบบได้คล้าย “เอ็มเจ” มากกว่ากัน และอัลบั้ม Dangerous ก็ถือเป็นเทปคาสเซ็ตเพลงฝรั่งม้วนแรกๆ ที่ลงทุนนั่งรถเมล์ไปกับเพื่อนถึงสี่แยกบ้านแขก เพื่อซื้อหามาครอบครองพร้อมด้วยอัลบั้ม Use Your Illusion I ของฮาร์ดร็อคระดับตำนานอย่าง Guns N’ Roses

ระทมใจได้แค่สัปดาห์เดียว อเมริกันชนโดยเฉพาะคอกีฬาคนชนคนต้องมาอึ้งไปกับข่าวการเสียชีวิตของ สตีฟ แม็คแนร์ ในวันชาติสหรัฐฯ (4 กรกฎาคม) โดยอดีตจอมทัพ ฮุสตัน ออยเลอร์ส ก่อนเปลี่ยนมาเป็น เทนเนสซี ไตตันส์ ถูกพบเป็นศพอยู่ในคอนโดฯของตัวเองเคียงข้าง ชาเฮล คาเซมี เพื่อนสาวคนสนิทที่มีข่าวเตรียมจับมือเข้าประตูวิวาห์ รอแต่ให้ฝ่ายชายทำเรื่องหย่าร้างกับ มิเชลล์ ภรรยาที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมา 12 ปี เรียบร้อยเสียก่อน

ความรักที่กำลังหวานชื่นใยจึงจบลงที่การสูญเสีย แม้ตำรวจแนชวิลล์ ยังไม่สามารถระบุชัดว่าใครคือผู้สังหารทั้งคู่ แต่จากพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ ทั้งสองอยู่ในคอนโดดังกล่าวเพียงสองต่อสองตั้งแต่คืนวันศุกร์ และสภาพศพบนโซฟาที่เจ้าหน้าที่เห็นคือ แม็คแนร์ วัย 36 ปี ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด บริเวณหน้าอกอีกสองแห่ง ขณะที่ คาเซมี วัย 20 ปี นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นไม่ห่างกันนัก เสียชีวิตจากการโดนยิงเข้าที่ศีรษะหนึ่งนัด โดยมีปืนพกกึ่งอัตโนมัติ 1 กระบอกตกอยู่ข้างๆ เธอ

อาจสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่าทั้งคู่อาจมีปัญหาผิดใจในเรื่องความรักหรือไม่อย่างไร เป็นเหตุให้ คาเซมี ซึ่งมีรายงานว่าเมื่อสองวันก่อนเกิดเหตุไปซื้อหาปืนพกมาประจำกาย ยิง แม็คแนร์ ที่หลงใหลในตัวเธอเต็มประดาเสียชีวิต ก่อนบริกรหญิงวัยรุ่นจะเลือกฆ่าตัวตายตามกันไป ทั้งนี้ทั้งนั้นทางตำรวจคงต้องสอบพยานอีกหลายปาก รวมถึงแฟนเก่าของ คาเซมี ที่เลิกรากันไปเมื่อ 5-6 เดือนก่อน เพื่อไขคดีฆาตกรรมปริศนาให้กระจ่าง

สำหรับการจากไปของ แม็คแนร์ หลงเหลือไว้เพียงความดีความชอบที่สร้างไว้มากมายในสังเวียน NFL สิ่งที่ผมรับรู้ถึงผู้เล่นผิวสีคนนี้คือ เขาเป็นคนที่อึดทะลุอึด หลายครั้งที่กล้องจับมาให้เห็น แม็คแนร์ ออกมาแสดงสีหน้าเจ็บปวดจากการโดนไล่อัด แต่ก็ยังยิ้มได้เมื่อถึงโอกาสหยิบหมวกกันน็อคลงไปนำทีมบุกไตตันส์ หากยังจำกันได้ในซูเปอร์โบว์ลปี 2000 “แอร์ แม็คแนร์” แสดงความเป็นผู้นำพาทีมจากไล่หลังเกือบพลิกคว้าแชมป์สำเร็จ เสียดายแค่ เควิด ดายสัน แขนสั้นไปหน่อยเหยียดบอลไม่ถึงเขตเอ็นด์โซน ทำให้กองหลัง เซ็นต์หลุยส์ แรมส์ ไล่ตะครุบได้บริเวณเส้นหนึ่งหลาพร้อมเวลาที่หมดลง ถึงวันนี้แม้เวลาของ แม็คแนร์ รวมถึง แจ็คสัน หมดลงแล้ว แต่เชื่อเหลือเกินว่าทุกคนยังจะระลึกถึงบุคคลซึ่งหลายครั้งสร้างความประทับใจฝากไว้บนโลกใบนี้ เพียงแต่ตอนนี้...หลับให้สบาย RIP (rest in peace)
กำลังโหลดความคิดเห็น