"ฟอร์บส์ดอทคอม" (Forbes.com) เว็บไซด์ธุรกิจ จัดการเปิดเผย 20 อันดับนักกีฬาที่มีรายได้สูงที่สุดในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา นับรวมทั้งค่าเหนื่อยจากต้นสังกัด, โบนัส รวมถึง สปอนเซอร์ โดยยังไม่หักภาษี มีเงินหมุนเวียนถึง 789 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 27,615 ล้านบาท) ซึ่งถือว่าลดลง 1 เปอร์เซนต์คือ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1 พันล้านบาท) จากช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีก่อน
1.ไทเกอร์ วูดส์ 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,850 ล้านบาท) - แม้ว่าจะบาดเจ็บเข่าต้องหายหน้าหายตาไปนานถึง 8 เดือน แต่ว่ารายได้ของ ไทเกอร์ ตกลงไปเพียง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 175 ล้านบาท) เท่านั้น ซึ่งก็ต้องขอบคุณผลิตภัณฑ์อย่าง แอคเวนเจอร์, ยิลเล็ตต์ และ ไนกี โดยปีหน้าเขาน่าจะเป็นนักกีฬาคนแรกที่ทำเงินถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 35,000 ล้านบาท)
2.(ร่วม) โคบี ไบรอันท์ 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,575 ล้านบาท) - โคบี ดีกรีแชมป์ เอ็นบีเอ 4 สมัยกับ ลอส แองเจลิส เลเกอร์ส ควบตำแหน่ง เอ็มวีพี ในนัดชิงที่อัด ออร์แลนโด แมจิก ด้วยซีรีส์ 4-1 เกม เสื้อเบอร์ 24 ของ "แมมบาดำ" ขายได้มากที่สุดทั้งใน สหรัฐ และ จีน เขามีรายได้กับทีม 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 735 ล้านบาท) บวกกับเงินจาก ไนกี, อัปเปอร์ เด็ค, แอคติวิชัน และ วิตามิน วอลเตอร์
2.(ร่วม) ไมเคิล จอร์แดน 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,575 ล้านบาท) - แม้ว่า เอ็มเจ จะรีไทร์ไปแล้ว แต่ก็ยังเป็นอดีตนักกีฬาบาสเกตบอลที่มีอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในวงการกีฬาสหรัฐฯ เพราะแบรนด์ จอร์แดน ของ ไนกี สามารถขายได้ถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 35,000 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังเล็งทำธุรกิจด้วยการซื้อทีมยัดห่าง ชาร์ล็อตต์ บ็อบแคทส์ อีกด้วย
2.(ร่วม) คิมี ไรค์โคเนน 45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,575 ล้านบาท) - นับขับรถสูตรหนึ่งที่มีรายได้มากที่สุด แม้ผลงานจะไม่ประทับใจจบด้วยอันดับ 3 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว หลังคว้าแชมป์โลกได้ในปี 2007 ส่วนปีนี้ "ไอซ์ แมน" ก็รั้งเพียงแค่อันดับ 10 เท่านั้น โดยสัญญากับ เฟอร์รารี จะสิ้นสุดลงในปี 2010
5.เดวิด เบ็คแฮม 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,470 ล้านบาท) - ทิ้งบรรดานักเตะด้วยกันแบบไม่ทิ้งฝุ่น เบ็คแฮม มีรายได้จากการเป็นพรีเซนเตอร์ให้ อาดิดาส, จิออร์จิโอ อาร์มานี และ โมโตโรลา ที่ยอมจ่ายเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ กองกลางทีมชาติอังกฤษ วัย 34 ปี เล่นให้ เอซี มิลาน 5 เดือนก่อนรีเทิร์นกลับไปอยู่กับ ลอส แองเจลิส กาแล็คซี อีกครั้ง
6.เลอบรอน เจมส์ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,400 ล้านบาท) - อดีตเจ้าของรางวัล เอ็มวีพี สร้างสถิติมากมายใน เอ็นบีเอ ที่สำคัญจะฟรีเอเยนต์ในช่วงซัมเมอร์หน้า เวลานี้ แคฟส์ กำลังพยายามยื่นข้อเสนอที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎเพื่อรั้งตัวเอาไว้กับทีม แต่ว่าเจ้าตัวอยากจะแสวงหาความท้าทายและตลาดใหม่ๆ บ้าง
6.(ร่วม) ฟิล มิคเคลสัน 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,400 ล้านบาท) - นักกอล์ฟหมายเลข 2 ของโลก ทำเงินมหาศาลจากการผูกสัญญากระยะยาว 5 ปีกับ คัลลาเวย์ ส่วนสปอนเซอร์อื่นๆ ก็มี บาร์เคลย์, เอ็กซอน, เคพีเอ็มจี และ โรเล็กซ์
6.(ร่วม) แมนนี ปาเกียว 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,400 ล้านบาท) - ในบรรดานักกีฬา 20 คนที่ทำรายได้สูงสุดรอบ 12 เดือน ปาเกียว เป็น 1 ใน 8 คนที่ไม่ใช่ สหรัฐฯ โคตรมวยที่ดีที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ทำเงินมหาศาลจากการคว่ำ ออสการ์ เดอ ลา โฮยา และ ริคกี ฮัตตัน ที่สำคัญเป็นคนที่ทำให้ยอด เปย์-เปอร์-วิว ในสหรัฐฯ สูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3,500 ล้านบาท) และยังติดอันดับ 100 คนทรงอิทธพลของนิตยสาร ไทม์ ด้วย
9.วาเลนติโน รอสซี 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,225 ล้านบาท) - "เดอะ ด็อกเตอร์" คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 8 ในปี 2008 หลังห่างหายจากบัลลังก์มานานถึง 2 ปี ซูเปอร์สตาร์ประจำวงการ โมโตจีพี มีรายได้ 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 560 ล้านบาท) จากสัญญากับ ยามาฮา ส่วนเงินที่เพิ่มมาอีกเกือบเท่าหนึ่งมาจาก โบนัส และสัญญากับเครื่องดื่มให้พลังงาน มอนสเตอร์
10.เดล เอิร์นฮาร์ดท์ จูเนียร์ 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,190 ล้านบาท) - เอิร์นฮาร์ดท์ เป็นหนึ่งในนักขับ แนสคาร์ ที่ดังที่สุดในปี 2008 แม้ว่าผลงานจะไม่สู้ดีชนะแค่สนามเดียวใน 2 ฤดูกาลก็ตาม แต่สินค้าของเขาได้รับการยอมรับจากตลาดมีสปอนเซอร์ทั้ง อาดิดาส, เชฟโรเล็ต, โพลาริส, แรงเลอร์ และ ประกันเนชันไวด์
11.(ร่วม) ชาคิลล์ โอนีล 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,155 ล้านบาท) - แม้ว่าระยะหลังผลงานจะตกลงไป แต่ว่าแบรนด์ของ ดั๊งก์แมน ก็ยังขายได้โดยเฉพาะรองเท้า โดยทำเงินไปแล้ว 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,625 ล้านบาท) ตั้งแต่ปรากฎตัวสู่ตลาดในปี 1996
11.(ร่วม) โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,155 ล้านบาท) - แม้จะถูกเบียดตกลงมารั้งอันดับ 2 ของโลก แต่ เฟเดอเรอร์ ก็ยังได้รับการยกย่องจากผลงานล่าสุดคว้า แกรนด์ สแลม ที่ 14 ในศึก เฟรนช์ โอเพน หลังจากเทิร์นโปรเมื่อปี 1998 โกยเงินไปแล้วทั้งสิ้น 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,680 ล้านบาท)
13.ออสการ์ เดอ ลา โฮยา 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,120 ล้านบาท) - "โกลเดนบอย" ประจำวงการหมัดมวย ตัดสินใจแขวนนวมเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังจากพ่ายแพ้ให้กับ ปาเกียว แต่ก็ทำให้มีรายได้เบาะๆ ถึง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1 พันล้านบาท) นอกจากนี้ยังเจ้าของสถิติเปย์-เปอร์-วิว 14.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 493 ล้านบาท)
13.ลูอิส แฮมิลตัน 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,120 ล้านบาท) - เจ้าของตำแหน่งแชมป์โลกรถสูตรหนึ่งปี 2008 ซึ่งถือเป็นแชมป์โลกที่อายุน้อยที่สุด ทำให้ถูกยกขึ้นมาเปรียบเทียบกับความสำเร็จของ วูดส์ ในระดับอายุเท่ากัน แม้ปีนี้ผลงานจะตกลงไป แต่ว่าเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาก็ได้สปอนเซอร์อย่าง รีบอค ที่เข้ามาสนับสนุน
13.(ร่วม) อเล็กซ์ โรดริเกซ 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,120 ล้านบาท) - เอร็อด ทำเงินนอกสนามน้อยนิด แต่ว่าต้องขอบคุณการเซ็นสัญญา 10 ปี มูลค่า 275 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9,625 ล้านบาท) กับทาง นิว ยอร์ก แยงกีส์ หลังปี 2007 สัญญาระบุจ่ายให้เขา 27 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 945 ล้านบาท) ในปีที่แล้ว ก่อนจ่าย 32 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,120 ล้านบาท) ในปีนี้ และรับอีก 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 35 ล้านบาท) เมื่อเดือนมกราคม เป็นเงินส่วนหนึ่งขงค่าโบนัส 10 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 350 ล้านบาท)
16.วีเจย์ ซิงห์ 31 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,085 ล้านบาท) - ในปี 2008 ซิงห์ ทำเงินไป 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 595 ล้านบาท) ต้องขอบคุณเงินโบนัส 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 350 ล้านบาท) จากการคว้าแชมป์ เฟดเอ็กซ์คัพ มาปีนี้เขาทำเงิน 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 280 ล้านบาท) จากการเซ็นสัญญากับ สแตนฟอร์ด ไฟแนนเชียล
17.(ร่วม) เควิน การ์เน็ตต์ 30 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,050 ล้านบาท) - การ์เน็ตต์ คือนักบาสเกตบอล เอ็นบีเอ ที่รับค่าเหนื่อยสูงที่สุดในฤดูกาลนี้คือ 24.8 ล้าน ดอลลาร์ (ประมาณ 868 ล้านบาท) ก่อนหน้าเคยทำสัญญา 6 ปีตั้งแต่ปี 1997 มูลค่า 126 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,410 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังได้เงินจากสปอนเซอร์ทั้ง อาดิดาส และ เกเตอเรด อีกด้วย
17.(ร่วม) เจฟฟ์ กอร์ดอน 30 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,050 ล้านบาท) - นักขับเรซคาร์ที่เพิ่งชนะสนาม ซัมซุง 500 เคยคว้าแชม แนสคาร์ วินส์ตัน คัพ ถึง 4 ครั้ง แต่ฤดูกาลที่แล้วผิดหวังจบในอันดับที่ 10 เซ็นสัญญากับทั้ง ดูปองต์, เป็ปซี และ เชฟโรเล็ต
17.(ร่วม) เดเร็ค เจเตอร์ 30 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,050 ล้านบาท) - นักเบสบอลของ นิว ยอร์ก แยงกี ทำเงิน 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 315 ล้านบาท) จาก ฟอร์ด, เกเตอเรด, ยิลเล็ตต์ และ ไนกี โดยในฤดูกาลหน้าจะซิวอีก 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 735 ล้านบาท) รวมแล้ว 10 ปีจะรับ 189 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,615 ล้านบาท) หลังจากเซ็นสัญญาตั้งแต่ปี 2001
17.โรนัลดินโญ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1 พันล้านบาท) - "เหยินน้อย" เล่นให้กับ บาร์เซโลนา ถึง 5 ปีก่อนย้ายไปอยู่กับ มิลาน เมื่อช่วซัมเมอร์ที่ผ่านมาภายใต้สัญญา 3 ปีเต็มตกมูลค่า 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 315 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีเงินจากผลิตภัณฑ์อย่าง ไนกี, เป็ปซี และ อีเอ สปอร์ตส์ ด้วย