คอลัมน์ สุดฟากสนาม โดย ธีรพัฒน์ อัครเศรณี
หลังจากปิดฤดูกาลมาการซื้อขายของลิเวอร์พูล แทบไม่มีการเคลื่อนไหว มีแค่ข่าว เกลน จอห์นสันแฟนๆได้แต่สงสัยว่า ผู้จัดการทีมราฟา เบนิเตซ ไปมัวทำอะไรอยู่ จึงยังไม่สามารถสอยใครใหม่มาได้ แถมตัวที่เคยเล็งไว้อย่าง แกเร็ธ แบร์รี่ ก็โดนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตัดหน้าไปเสียแล้ว
นอกจากขาเข้าไม่มีใครมาแล้ว ยังมีข่าวลือทุกเมื่อเชื่อวัน ว่ามีทีมยักษ์ใหญ่จะมาสอยกล่องดวงใจอย่าง ชาบี อลอนโซ่ กับ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ต่อมาก็ “เอล นินโญ่” เฟอร์นานโด ตอร์เรส อีกคน เหล่า เดอะ ค็อป ก็เลยยิ่งกระวนกระวายหัวใจระคนเป็นห่วงการซื้อตัวระยะหลังของ ราฟา เพราะผลงานล่าสุดเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาอย่าง ร็อบบี้ คีน, อังเดร ดอสเซน่า, ฟิลลิปส์ เดเก้น, ดิเอโก้ คาวาลิเอรี่, ดาวิด เอ็นก๊อก ล้มเหลวไม่เป็นท่า ไม่มีใครยกระดับทีมได้ มีที่พอไปวัดไปวาก็คือ อัลเบิร์ต ริเอร่า เท่านั้นเอง
การที่ทีมเข้าป้ายที่สองมาจากทีมชุดเก่าที่ประสานงานกันได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายฤดูกาล เมื่อ ราฟา เปิด โอกาสให้ ยอสซี่ เบนายูน นักเตะที่พอจะมีวิสัยทัศน์ในเกมรุก ไปกับบอลได้ดี แถมพลิกแพลงเล่นได้ทั้งสองเท้า คู่ต่อสู้เดาทางยากชะมัด
พอได้เบนายูนมายืนทางฝั่งซ้ายทีมของลิเวอร์พูลก็ลงล็อค 11 ตัวจริงไม่น่าเป็นรองใคร ขนาดตอร์เรส ยังไม่กลับมาระเบิดฟอร์มเปรี้ยงปร้าง ยกเว้นตัวสำรองเท่านั้นเองที่สู้เขาไม่ได้ แม้นักเตะที่ซื้อมาก่อนหน้านั้นฟอร์มก็เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ ลูคัส เลว่า, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, เอมิเลียโน่ อินซัว แต่เท่านั้นยังไม่พอหรอก ถ้าเทียบกับขุมกำลังของแมนฯยูไนเต็ด หรือเชลซี
ฤดูกาลใหม่ถ้าราฟา ใจแข็งไม่เปลี่ยนแปลงทีมตัวจริงมากนัก แล้วสามารถดึงนักเตะกำลังเสริมที่มีคุณภาพมาได้สัก 3-4 คน หลัง-กลาง-หน้า อย่างละคนเลยก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวตายตัวแทน ตอร์เรส ในยามบาดเจ็บ ถ้าได้แบบดุดันหน่อยก็ดี เอาไว้พลิกเกมในยามเจอกับทีมอ่อนๆ ที่มาเน้นตั้งรับ
และที่สำคัญไม่ได้ก็ต้องไม่เสีย ต้องพยายามรักษากำลังหลักอย่าง อลอนโซ่ และมาสเคราโน่ เอาไว้ให้ได้ ต่อให้ได้ราคาดีแค่ไหน ขายได้เงิน แต่ชวดแชมป์ยังไงก็ไม่คุ้ม ยังไม่ใช่เวลาที่จะทำได้อย่างที่ แมนฯยูไนเต็ด ตัดสินใจขายโรนัลโด้
บางทีขณะที่คู่แข่งอย่าง แมนฯยูไนเต็ด เสียดาราสำคัญไป เชลซี มีการเปลี่ยนแปลงกุนซือเป็น คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้ยังไม่คุ้นเคยกับฟุตบอลอังกฤษ ไม่มีใครสามารถการันตีว่าเขาจะประสบความสำเร็จหรือเดินตามรอยของหลุยส์ เฟลิปเป้ สโคลารี่
ใครจะไปรู้ ถ้าลิเวอร์พูล ยังคงชุดเดิม ยึดภาษิตไม่เสียอย่าซ่อม เติมเฉพาะกำลังเสริมที่เด็ดดวง ทีมอาจจะมีลุ้นความสำเร็จครั้งแรกในรอบ 20 ปีอย่างจริงจังก็เป็นได้
หลังจากปิดฤดูกาลมาการซื้อขายของลิเวอร์พูล แทบไม่มีการเคลื่อนไหว มีแค่ข่าว เกลน จอห์นสันแฟนๆได้แต่สงสัยว่า ผู้จัดการทีมราฟา เบนิเตซ ไปมัวทำอะไรอยู่ จึงยังไม่สามารถสอยใครใหม่มาได้ แถมตัวที่เคยเล็งไว้อย่าง แกเร็ธ แบร์รี่ ก็โดนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตัดหน้าไปเสียแล้ว
นอกจากขาเข้าไม่มีใครมาแล้ว ยังมีข่าวลือทุกเมื่อเชื่อวัน ว่ามีทีมยักษ์ใหญ่จะมาสอยกล่องดวงใจอย่าง ชาบี อลอนโซ่ กับ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ต่อมาก็ “เอล นินโญ่” เฟอร์นานโด ตอร์เรส อีกคน เหล่า เดอะ ค็อป ก็เลยยิ่งกระวนกระวายหัวใจระคนเป็นห่วงการซื้อตัวระยะหลังของ ราฟา เพราะผลงานล่าสุดเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมาอย่าง ร็อบบี้ คีน, อังเดร ดอสเซน่า, ฟิลลิปส์ เดเก้น, ดิเอโก้ คาวาลิเอรี่, ดาวิด เอ็นก๊อก ล้มเหลวไม่เป็นท่า ไม่มีใครยกระดับทีมได้ มีที่พอไปวัดไปวาก็คือ อัลเบิร์ต ริเอร่า เท่านั้นเอง
การที่ทีมเข้าป้ายที่สองมาจากทีมชุดเก่าที่ประสานงานกันได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายฤดูกาล เมื่อ ราฟา เปิด โอกาสให้ ยอสซี่ เบนายูน นักเตะที่พอจะมีวิสัยทัศน์ในเกมรุก ไปกับบอลได้ดี แถมพลิกแพลงเล่นได้ทั้งสองเท้า คู่ต่อสู้เดาทางยากชะมัด
พอได้เบนายูนมายืนทางฝั่งซ้ายทีมของลิเวอร์พูลก็ลงล็อค 11 ตัวจริงไม่น่าเป็นรองใคร ขนาดตอร์เรส ยังไม่กลับมาระเบิดฟอร์มเปรี้ยงปร้าง ยกเว้นตัวสำรองเท่านั้นเองที่สู้เขาไม่ได้ แม้นักเตะที่ซื้อมาก่อนหน้านั้นฟอร์มก็เริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ ลูคัส เลว่า, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, เอมิเลียโน่ อินซัว แต่เท่านั้นยังไม่พอหรอก ถ้าเทียบกับขุมกำลังของแมนฯยูไนเต็ด หรือเชลซี
ฤดูกาลใหม่ถ้าราฟา ใจแข็งไม่เปลี่ยนแปลงทีมตัวจริงมากนัก แล้วสามารถดึงนักเตะกำลังเสริมที่มีคุณภาพมาได้สัก 3-4 คน หลัง-กลาง-หน้า อย่างละคนเลยก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวตายตัวแทน ตอร์เรส ในยามบาดเจ็บ ถ้าได้แบบดุดันหน่อยก็ดี เอาไว้พลิกเกมในยามเจอกับทีมอ่อนๆ ที่มาเน้นตั้งรับ
และที่สำคัญไม่ได้ก็ต้องไม่เสีย ต้องพยายามรักษากำลังหลักอย่าง อลอนโซ่ และมาสเคราโน่ เอาไว้ให้ได้ ต่อให้ได้ราคาดีแค่ไหน ขายได้เงิน แต่ชวดแชมป์ยังไงก็ไม่คุ้ม ยังไม่ใช่เวลาที่จะทำได้อย่างที่ แมนฯยูไนเต็ด ตัดสินใจขายโรนัลโด้
บางทีขณะที่คู่แข่งอย่าง แมนฯยูไนเต็ด เสียดาราสำคัญไป เชลซี มีการเปลี่ยนแปลงกุนซือเป็น คาร์โล อันเชล็อตติ ผู้ยังไม่คุ้นเคยกับฟุตบอลอังกฤษ ไม่มีใครสามารถการันตีว่าเขาจะประสบความสำเร็จหรือเดินตามรอยของหลุยส์ เฟลิปเป้ สโคลารี่
ใครจะไปรู้ ถ้าลิเวอร์พูล ยังคงชุดเดิม ยึดภาษิตไม่เสียอย่าซ่อม เติมเฉพาะกำลังเสริมที่เด็ดดวง ทีมอาจจะมีลุ้นความสำเร็จครั้งแรกในรอบ 20 ปีอย่างจริงจังก็เป็นได้