คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
ฟุตบอล ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก 2008-2009 นัดชิงชนะเลิศ คืนนี้ ที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก ( Stadio Olimpico ) ในกรุงโรมา ประเทศอิตาลี ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูนายเท็ด แชมป์เพรอมิเอ ลีก ของอังกฤษ กับ บาร์เซโลนา แชมป์ปรีเมรา ดีบีซิออน ของสเปน เป็นคู่ชิงที่สมศักดิ์ศรีจริงๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นนัดดับแค้นที่ฤดูกาลที่แล้ว ทั้ง 2 ทีมโคจรมาพบกันก่อนเวลาอันควร แล้ว บาร์ซา ก็ถูก แมน ยู เขี่ยตกรอบรองชนะเลิศด้วยประตูรวม 0-1 ก่อนที่ แมน ยู จะคว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะ เชลซี ด้วยการดวลจุดโทษ 6-5 หลังจากเสมอกันในเวลาปกติ 1-1 ในนัดชิงชนะเลิศที่ ลุชนิกี สเตเดียม ( Luzhniki Stadium ) ในกรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย
ที่ผมว่าเป็นนัดดับแค้น ผมไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ บาร์ซา นัก แต่คนที่มีความแค้นฝังลึกตัวจริงนั้น น่าจะเป็น มีเชล ปลาตีนี ( Michel Platini ) ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูเอ็ฟฟา ( Union of European Football Associations - UEFA ) มากกว่า เพราะฤดูกาลก่อนก็ทีหนึ่งแล้ว ที่สโมสรฟุตบอลของอังกฤษ ซึ่ง ปลาตีนี ก่นด่า คอยสาปแช่งทั้งในใจหรือบางครั้งเผลอส่งเสียงดังจนเป็นข่าวมาตลอด ดันทะลึ่งเข้าถึงรอบรองชนะเลิศตั้ง 3 ทีม คือ แมนเชสเตอร์ ยูนายเท็ด ลิเวอร์พูล และ เชลซี คงเหลือให้ บาร์ซา ยอดทีมจากสเปนหลุดเข้ามาโดนรุมกินโต๊ะเพียงทีมเดียว ปลาตีนี ผู้ซึ่งไม่ปลื้มทีมสโมสรจากอังกฤษ มีแผนสกัดดาวรุ่งด้วยความพยายามคัดผู้ตัดสินตัวเจ็บๆลงทำหน้าที่ เผื่อว่า บาร์ซา จะถล่ม แมน ยู ยับยู่ยี่ จนไม่อาจแก้ไขให้ฟื้นได้ในนัดที่ 2 ที่สนาม โอลด์ แทรฟเฝิร์ด
รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ปีที่แล้ว นโปเลองลูกหนัง เลือกให้ มาสซิโม บูซักกา ( Massimo Busacca ) ผู้ตัดสินชาวสวิสมาจัดการสอย แมน ยู ซึ่งผู้ตัดสินวัย 40 ปีคนนี้มักจะได้รับมอบหมายให้ตัดสินในเกมที่ทีมชาติสเปนหรือทีมสโมสรจากสเปนลงแข่ง ซึ่งส่วนมากผลการแข่งขันมักจะออกข้างสเปน เขาลงเป่าเกม ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก 2007-2008 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C นัดที่ 6 ระหว่าง เรอัล มาดริด จากสเปน กับ ลาซิโอ จากอิตาลี ผลนัดนั้น ราชันชุดขาวชนะ 3-1 และในรอบน็อคเอาท์ คู่ระหว่าง เซบียา กับ เฟเนร์บาเช ผล ทีมจากแดนกระทิงดุชนะ 3-2 แต่ในเลกแรก เฟเนร์บาเช ชนะไปก่อนด้วยสกอร์เท่ากัน จึงต้องต่อเวลา จนดวลจุดโทษ ซึ่ง เซบียา อับโชค แพ้ตกรอบไปเอง
บูซักกา ซึ่งถูกเลือกให้ทำหน้าที่ในฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศอัฟริกาใต้เรียบร้อยแล้ว เคยได้ลงตัดสินฟุตบอลโลก 2006 รอบแรก กลุ่ม H คู่ระหว่าง สเปน กับ อูคราอิน ( Ukrain ) ในเกมนั้น เขาชูใบแดงไล่ วลาดิสลาฟ วาสชุค ( Vladislav Vaschuk ) ออกจากสนามเพราะดึงกางเกง แฟร์นานโด ตอร์เรส ( Fernando Torres ) กองหน้าของสเปนในเขตโทษ โดยภาพจากกล้องโทรทัศน์ไม่ว่ามุมใดก็ตาม ไม่มีการกระทบกระทั่ง หรือส่วนไหนของร่างกายสัมผัสกันเลยแม้แต่นิดเดียว จังหวะนี้ อูคราอิน โดนจุดโทษ ซึ่ง ดาบิด บียา ( David Villa ) ก็สังหารไม่พลาด ในขณะที่เกมเดียวกัน อันดราย โวโรนิน ( Andriy Voronin ) กองหน้าของ อูคราอิน โดนกองหลังสเปนทำแบบเดียวกันบ้าง แต่ บูซักกา ดันทำไม่รู้ไม่ชี้ ผลนัดนั้น สเปน ถล่มเละ 4-0
ในรอบคัดเลือกฟุตบอล ยูโร 2008 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2007 ระหว่าง สเปน กับ เดนมาร์ค ที่ เอสตาดิโอ ซานติอาโก แบร์นาเบอู ในกรุงมาดริด นัดนั้นทีมชาติเดนมาร์คเล่นดีตลอด 20 นาทีแรก ครองบอลเหนือกว่าเยอะ คุมเกมได้หมด แต่หลังจากนั้น เมื่อมีการทำฟาล์ว บูซักกา กระชากใบแดงออกจากกระเป๋าทันที นิคลาส เยนเซน ( Niclas Jensen ) เป็นผู้รับกรรมนั้นไป แล้วเกมก็เปลี่ยนไปคนละเรื่อง แถม มอร์เตน โอลเซน ( Morten Olsen ) โค้ชเดนมาร์คยังโดนใบแดงต้องอพยพออกจากม้านั่งอีกด้วย จบเกม สเปนชนะ 2-1
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของ ปลาตีนี ในแชมเปียนส์ ลีก 2007-2008 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก บาร์ซา-แมน ยู ไร้ผล เพราะ บาร์ซา เดินออกจาก คัมป์ นู ( Camp Nou ) อย่างไร้สกอร์ ทำอะไร แมน ยู ไม่ได้เอง ผลเสมอกัน 0-0 แล้วนัดที่สองเมื่อไปเตะที่ โอลด์ แทรฟเฝิร์ด บาร์ซา ก็พ่าย แมน ยู ไป 0-1 ตกรอบ
มาคราวนี้ นัดชิงชนะเลิศที่กำลังจะเตะกันคืนนี้ คณะกรรมการผู้ตัดสินของ ยูเอ็ฟฟา ได้ประกาศรายชื่อทีมผู้ตัดสินที่จะลงทำหน้าที่ออกมาแล้ว โดยเป็นชาวสวิสทั้ง 4 คน และ 3 คนเป็นหน้าเก่าที่เคยตัดสินในนัดดังกล่าวเมื่อปีก่อนด้วย นั่นคือ มาสซิโม บูซักกา เป็นผู้ตัดสินในสนาม ผู้ช่วยผู้ตัดสินอีก 2 คนคือ มัทติอาส อาร์กเน ( Matthias Arnet ) นี่ก็คนเดิม ส่วนอีกคนที่มาใหม่คือ ฟรานเชสโก บูราจีนา ( Francesco Buragina ) ในขณะที่ผู้ตัดสินที่ 4 ก็คนเดิมคือ เกลาดิโอ ชีร์เก็ตตา ( Claudio Circhetta )
มีเชล ปลาตีนี อาจไม่ได้ตั้งใจเล่นเล่ห์กลอะไรมากมาย เพียงแค่ส่งตัวเฮงสำหรับบอลสเปนลงไปปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น แล้วก็แอบหวังเล็กๆให้บอลอังกฤษถึงจุดอับดับแสงลงเพียงเท่านี้ เพราะหมอนี่ต่อต้านบอลอังกฤษที่กำลังเป็นที่นิยมขนาดหนักไปทั่วโลก เพราะแต่ละสโมสรมักจะประเคนขนนักเตะต่างชาติลงสนามจนทำลายอัตลักษณ์ลงหมด เอาเป็นว่างานนี้ผมทำนายสกอร์คู่ชิงคืนนี้เล่นๆ ไม่ต้องสงวนท่าทีกันเลย แมนเชสเตอร์ ยูนายเท็ด คว้าแชมป์ด้วยการถล่ม บาร์เซโลนา 5-2 ก็แล้วกัน
ฟุตบอล ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก 2008-2009 นัดชิงชนะเลิศ คืนนี้ ที่ สตาดิโอ โอลิมปิโก ( Stadio Olimpico ) ในกรุงโรมา ประเทศอิตาลี ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูนายเท็ด แชมป์เพรอมิเอ ลีก ของอังกฤษ กับ บาร์เซโลนา แชมป์ปรีเมรา ดีบีซิออน ของสเปน เป็นคู่ชิงที่สมศักดิ์ศรีจริงๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นนัดดับแค้นที่ฤดูกาลที่แล้ว ทั้ง 2 ทีมโคจรมาพบกันก่อนเวลาอันควร แล้ว บาร์ซา ก็ถูก แมน ยู เขี่ยตกรอบรองชนะเลิศด้วยประตูรวม 0-1 ก่อนที่ แมน ยู จะคว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะ เชลซี ด้วยการดวลจุดโทษ 6-5 หลังจากเสมอกันในเวลาปกติ 1-1 ในนัดชิงชนะเลิศที่ ลุชนิกี สเตเดียม ( Luzhniki Stadium ) ในกรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย
ที่ผมว่าเป็นนัดดับแค้น ผมไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ บาร์ซา นัก แต่คนที่มีความแค้นฝังลึกตัวจริงนั้น น่าจะเป็น มีเชล ปลาตีนี ( Michel Platini ) ประธานสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูเอ็ฟฟา ( Union of European Football Associations - UEFA ) มากกว่า เพราะฤดูกาลก่อนก็ทีหนึ่งแล้ว ที่สโมสรฟุตบอลของอังกฤษ ซึ่ง ปลาตีนี ก่นด่า คอยสาปแช่งทั้งในใจหรือบางครั้งเผลอส่งเสียงดังจนเป็นข่าวมาตลอด ดันทะลึ่งเข้าถึงรอบรองชนะเลิศตั้ง 3 ทีม คือ แมนเชสเตอร์ ยูนายเท็ด ลิเวอร์พูล และ เชลซี คงเหลือให้ บาร์ซา ยอดทีมจากสเปนหลุดเข้ามาโดนรุมกินโต๊ะเพียงทีมเดียว ปลาตีนี ผู้ซึ่งไม่ปลื้มทีมสโมสรจากอังกฤษ มีแผนสกัดดาวรุ่งด้วยความพยายามคัดผู้ตัดสินตัวเจ็บๆลงทำหน้าที่ เผื่อว่า บาร์ซา จะถล่ม แมน ยู ยับยู่ยี่ จนไม่อาจแก้ไขให้ฟื้นได้ในนัดที่ 2 ที่สนาม โอลด์ แทรฟเฝิร์ด
รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ปีที่แล้ว นโปเลองลูกหนัง เลือกให้ มาสซิโม บูซักกา ( Massimo Busacca ) ผู้ตัดสินชาวสวิสมาจัดการสอย แมน ยู ซึ่งผู้ตัดสินวัย 40 ปีคนนี้มักจะได้รับมอบหมายให้ตัดสินในเกมที่ทีมชาติสเปนหรือทีมสโมสรจากสเปนลงแข่ง ซึ่งส่วนมากผลการแข่งขันมักจะออกข้างสเปน เขาลงเป่าเกม ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก 2007-2008 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม C นัดที่ 6 ระหว่าง เรอัล มาดริด จากสเปน กับ ลาซิโอ จากอิตาลี ผลนัดนั้น ราชันชุดขาวชนะ 3-1 และในรอบน็อคเอาท์ คู่ระหว่าง เซบียา กับ เฟเนร์บาเช ผล ทีมจากแดนกระทิงดุชนะ 3-2 แต่ในเลกแรก เฟเนร์บาเช ชนะไปก่อนด้วยสกอร์เท่ากัน จึงต้องต่อเวลา จนดวลจุดโทษ ซึ่ง เซบียา อับโชค แพ้ตกรอบไปเอง
บูซักกา ซึ่งถูกเลือกให้ทำหน้าที่ในฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศอัฟริกาใต้เรียบร้อยแล้ว เคยได้ลงตัดสินฟุตบอลโลก 2006 รอบแรก กลุ่ม H คู่ระหว่าง สเปน กับ อูคราอิน ( Ukrain ) ในเกมนั้น เขาชูใบแดงไล่ วลาดิสลาฟ วาสชุค ( Vladislav Vaschuk ) ออกจากสนามเพราะดึงกางเกง แฟร์นานโด ตอร์เรส ( Fernando Torres ) กองหน้าของสเปนในเขตโทษ โดยภาพจากกล้องโทรทัศน์ไม่ว่ามุมใดก็ตาม ไม่มีการกระทบกระทั่ง หรือส่วนไหนของร่างกายสัมผัสกันเลยแม้แต่นิดเดียว จังหวะนี้ อูคราอิน โดนจุดโทษ ซึ่ง ดาบิด บียา ( David Villa ) ก็สังหารไม่พลาด ในขณะที่เกมเดียวกัน อันดราย โวโรนิน ( Andriy Voronin ) กองหน้าของ อูคราอิน โดนกองหลังสเปนทำแบบเดียวกันบ้าง แต่ บูซักกา ดันทำไม่รู้ไม่ชี้ ผลนัดนั้น สเปน ถล่มเละ 4-0
ในรอบคัดเลือกฟุตบอล ยูโร 2008 เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2007 ระหว่าง สเปน กับ เดนมาร์ค ที่ เอสตาดิโอ ซานติอาโก แบร์นาเบอู ในกรุงมาดริด นัดนั้นทีมชาติเดนมาร์คเล่นดีตลอด 20 นาทีแรก ครองบอลเหนือกว่าเยอะ คุมเกมได้หมด แต่หลังจากนั้น เมื่อมีการทำฟาล์ว บูซักกา กระชากใบแดงออกจากกระเป๋าทันที นิคลาส เยนเซน ( Niclas Jensen ) เป็นผู้รับกรรมนั้นไป แล้วเกมก็เปลี่ยนไปคนละเรื่อง แถม มอร์เตน โอลเซน ( Morten Olsen ) โค้ชเดนมาร์คยังโดนใบแดงต้องอพยพออกจากม้านั่งอีกด้วย จบเกม สเปนชนะ 2-1
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของ ปลาตีนี ในแชมเปียนส์ ลีก 2007-2008 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก บาร์ซา-แมน ยู ไร้ผล เพราะ บาร์ซา เดินออกจาก คัมป์ นู ( Camp Nou ) อย่างไร้สกอร์ ทำอะไร แมน ยู ไม่ได้เอง ผลเสมอกัน 0-0 แล้วนัดที่สองเมื่อไปเตะที่ โอลด์ แทรฟเฝิร์ด บาร์ซา ก็พ่าย แมน ยู ไป 0-1 ตกรอบ
มาคราวนี้ นัดชิงชนะเลิศที่กำลังจะเตะกันคืนนี้ คณะกรรมการผู้ตัดสินของ ยูเอ็ฟฟา ได้ประกาศรายชื่อทีมผู้ตัดสินที่จะลงทำหน้าที่ออกมาแล้ว โดยเป็นชาวสวิสทั้ง 4 คน และ 3 คนเป็นหน้าเก่าที่เคยตัดสินในนัดดังกล่าวเมื่อปีก่อนด้วย นั่นคือ มาสซิโม บูซักกา เป็นผู้ตัดสินในสนาม ผู้ช่วยผู้ตัดสินอีก 2 คนคือ มัทติอาส อาร์กเน ( Matthias Arnet ) นี่ก็คนเดิม ส่วนอีกคนที่มาใหม่คือ ฟรานเชสโก บูราจีนา ( Francesco Buragina ) ในขณะที่ผู้ตัดสินที่ 4 ก็คนเดิมคือ เกลาดิโอ ชีร์เก็ตตา ( Claudio Circhetta )
มีเชล ปลาตีนี อาจไม่ได้ตั้งใจเล่นเล่ห์กลอะไรมากมาย เพียงแค่ส่งตัวเฮงสำหรับบอลสเปนลงไปปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น แล้วก็แอบหวังเล็กๆให้บอลอังกฤษถึงจุดอับดับแสงลงเพียงเท่านี้ เพราะหมอนี่ต่อต้านบอลอังกฤษที่กำลังเป็นที่นิยมขนาดหนักไปทั่วโลก เพราะแต่ละสโมสรมักจะประเคนขนนักเตะต่างชาติลงสนามจนทำลายอัตลักษณ์ลงหมด เอาเป็นว่างานนี้ผมทำนายสกอร์คู่ชิงคืนนี้เล่นๆ ไม่ต้องสงวนท่าทีกันเลย แมนเชสเตอร์ ยูนายเท็ด คว้าแชมป์ด้วยการถล่ม บาร์เซโลนา 5-2 ก็แล้วกัน
