คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
เอฟ เอ คัพ ( FA Cup ) การแข่งขันฟุตบอลของอังกฤษที่เริ่มครั้งแรกตั้งแต่ปี 1871 ถือว่าเป็นรายการที่เก่าแก่ที่สุดในโลก รายการนี้จัดโดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ( The Football Association ) ก็เลยให้ชื่อรายการเต็มๆว่า เดอะ ฟุตบอล แอสโซซิเอเชิน ชาเลนจ์ คัพ ( The Football Association Challenge Cup ) เป็นรายการที่เปิดโอกาสให้ทีมสโมสรฟุตบอลทุกทีม ไม่ว่าจะเป็นทีมอาชีพหรือไม่ และจะขุดมาจากระดับใดก็ตาม ที่อยู่ในสหราชอาณาจักรได้เข้าร่วมการแข่งขัน ยิ่งในระยะแรกนั้น มากันครบ ไม่ว่าจะเป็นทีมจากอังกฤษ สก็อตแลนด์ อายร์แลนด์ และเวลส์ แต่ในปัจจุบันเหลือแค่ทีมในประเทศอังกฤษกับอีก 6 สโมสรของ เวลส์
ตอนที่ผมใช้ชีวิตอยู่ในประเทศฝรั่งเศสก็ยังเคยร่วมทีมกับพวกฝรั่งร่วมลงเตะ กุป เดอ ฟร็องซ์ ( Coupe de France ) หรือฟุตบอลถ้วยของฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน ระบบของเขาก็เหมือนๆกัน คือในแต่ละปีจะมีทีมหลายร้อยสโมสรอาศัยลูกมั่วเข้าร่วมแข่งขันกับเขาด้วย ถ้าแพ้ตกรอบไปก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร เผื่อว่าหลุดรอดไปถึงรอบลึกๆหรือนัดชิงชนะเลิศก็ดังกันใหญ่ เงินรางวัลก็ไม่น้อย เอาว่า เอฟเอ คัพ ของอังกฤษ ฤดูกาลล่าสุดปี 2008-2009 นี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 128 มีทั้งหมดตั้ง 762 ทีมก็แล้วกัน แต่ยังไม่ทันจับสลากประกบคู่กันเลย เซาธ์ นอร์แมนทึน แอธเลติค ( South Normanton Athletic FC ) ฉายา เดอะ ชายเนอร์ส ( The Shiners ) 1 ใน 762 ทีมก็ยุบสโมสรไปซะก่อน เพราะไม่สามารถหาใครมาดูแลทีมได้ มันก็เลยเหลือ 761 ทีม ยังเยอะอยู่ดี
การประกบคู่เตะฟุตบอลรายการนี้ เขาใช้วิธีจับสลากเอารอบต่อรอบ โดยไม่มีทีมใดได้เป็นทีมวางอันดับเพื่อไปเจอกับทีมต่ำชั้น ยกเว้นเพียงแค่มีกติกาให้ทีมที่ไม่ได้เล่นอยู่ใน เพรอมิเอ ลีก หรือเป็นสมาชิกใน เดอะ ฟุตบอล ลีก ก็ต้องไปเริ่มไต่ขึ้นมาตั้งแต่รอบคัดเลือก นอกจากนั้น ทีมใน ลีก วัน ( League One ) 24 ทีม และ ลีกทู ( League Two ) อีก 24 ทีม รวม 48 ทีม จะเริ่มเข้ามาเล่นในรอบแรก ส่วน 20 ทีมจาก เพรอมิเอ ลีก กับอีก 24 ทีมจาก เดอะ แชมเปียนชิพ รวมเป็น 44 ทีมจะเริ่มเข้ามาเมื่อถึงรอบสาม
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ ปีนี้ เริ่มแข่งนัดแรกสุดในรอบ Extra Preliminary Round ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม ปีที่แล้ว ทีมชนะได้เงินรางวัล 750 พาวน์ด หรือประมาณ 37,500 บาท อีก 2 สัปดาห์ก็แข่งรอบต่อไปคือ Preliminary Round ทีมชนะรับไป 1,500 พาวน์ด หรือประมาณ 75,000 บาท การแข่งขัน 2 รอบดังกล่าวยังไม่ใช่รอบคัดเลือกครับ ต้องนัดถัดจากนั้น จึงเริ่มเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบแรก ซึ่งผู้ชนะจะได้รับเงิน 3,000 พาวน์ด หรือประมาณ 150,000 บาท รอบยิ่งลึก เงินรางวัลก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็น 4,500 พาวน์ด 7,500 พาวน์ด ลุยกันจนทะลุผ่านรอบคัดเลือกรอบที่ 4 ทีมชนะจะได้รับเงิน 12,500 พาวน์ด หรือประมาณ 625,000 บาท
หลังจากหลุดรอดมา 6 รอบ คราวนี้ก็ได้เข้าสู่รอบแรกแท้ๆสักที ใครชนะก็ได้รับเงิน 20,000 พาวน์ด หรือประมาณ 1 ล้านบาท ผ่านรอบสองได้ 30,000 พาวน์ด หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท รอบสาม 75,000 พาวน์ด หรือ 3,750,000 บาท รอบสี่ 100,000 พาวน์ด หรือประมาณ 5 ล้านบาท รอบห้า ได้เงินรางวัลอีกเท่าตัว รอบหกนั้น เงินรางวัลกลายเป็น 400,000 พาวน์ด หรือ 20 ล้านบาท
เมื่อพ้นรอบหกมาก็ได้เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งมีเงินรางวัลให้ผู้ชนะในรอบนี้ 1 ล้านพาวน์ด หรือประมาณ 50 ล้านบาท ส่วนผู้แพ้ก็ยังได้รับจำนวนเท่ากับครึ่งหนึ่งของผู้ชนะ และรอบชิงชนะเลิศ ทีมใดได้แชมป์ก็ได้ถ้วยพร้อมเงินรางวัลอีก 2 ล้านพาวน์ด หรือประมาณ 100 ล้านบาท ในขณะที่ผู้แพ้ได้เงินปลอบใจครึ่งหนึ่ง
เงินรางวัลมากมายขนาดนี้ แต่ก็ยังมีสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูนายเต็ด ซึ่งแม้จะเคยคว้าแชมป์ฟุตบอลรายการนี้มาถึง 11 ครั้ง มากกว่าใคร แต่ทุกๆปี แมน ยู ไม่ค่อยจะให้ความสนใจ มุ่งมั่น เอาจริงเอาจัง แต่งทัพใหญ่ไปสู้กับเขาเท่าไรนัก เซอร์ อเลกซ์ เฟอร์เกิสเซิน มักจะส่งนักเตะเห่ยๆลงไปโชว์ฟอร์มห่วยๆ กระนั้นก็ยังบังอาจออกอาการลุ้น หวังเก็บชัยชนะแบบง่ายๆ ทำให้คิดไปได้ว่า แมน ยู เมินความศักดิ์สิทธิ์ของถ้วยรางวัล นั่นเป็นเพราะความที่มีโอกาสชิงถ้วยใบสำคัญกว่าคือ ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก และเพรอมิเอ ลีก ทำให้ต้องแบ่งกำลังเอาไว้สู้ นอกจากนั้น ฟุตบอลนัดเดียว ทีมกระจอกที่ฝรั่งเรียกว่า มินโนว์ส ( Minnows ) หมายถึงพวกปลาเล็กๆตามลำธาร บางปี เฮี้ยนหนัก ก็อาจโค่นทีมยักษ์ใหญ่ตกรอบไปหมดได้เหมือนกัน ฟุตบอลรายการนี้จึงดูยิ่งใหญ่เพียงแค่วันชิงชนะเลิศเท่านั้น ส่วนช่วงเวลาที่กรุยทางมานั้น ทีมยักษ์คงขี้เกียจจะไปให้ความสำคัญ
เอฟ เอ คัพ ( FA Cup ) การแข่งขันฟุตบอลของอังกฤษที่เริ่มครั้งแรกตั้งแต่ปี 1871 ถือว่าเป็นรายการที่เก่าแก่ที่สุดในโลก รายการนี้จัดโดยสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ( The Football Association ) ก็เลยให้ชื่อรายการเต็มๆว่า เดอะ ฟุตบอล แอสโซซิเอเชิน ชาเลนจ์ คัพ ( The Football Association Challenge Cup ) เป็นรายการที่เปิดโอกาสให้ทีมสโมสรฟุตบอลทุกทีม ไม่ว่าจะเป็นทีมอาชีพหรือไม่ และจะขุดมาจากระดับใดก็ตาม ที่อยู่ในสหราชอาณาจักรได้เข้าร่วมการแข่งขัน ยิ่งในระยะแรกนั้น มากันครบ ไม่ว่าจะเป็นทีมจากอังกฤษ สก็อตแลนด์ อายร์แลนด์ และเวลส์ แต่ในปัจจุบันเหลือแค่ทีมในประเทศอังกฤษกับอีก 6 สโมสรของ เวลส์
ตอนที่ผมใช้ชีวิตอยู่ในประเทศฝรั่งเศสก็ยังเคยร่วมทีมกับพวกฝรั่งร่วมลงเตะ กุป เดอ ฟร็องซ์ ( Coupe de France ) หรือฟุตบอลถ้วยของฝรั่งเศสด้วยเช่นกัน ระบบของเขาก็เหมือนๆกัน คือในแต่ละปีจะมีทีมหลายร้อยสโมสรอาศัยลูกมั่วเข้าร่วมแข่งขันกับเขาด้วย ถ้าแพ้ตกรอบไปก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร เผื่อว่าหลุดรอดไปถึงรอบลึกๆหรือนัดชิงชนะเลิศก็ดังกันใหญ่ เงินรางวัลก็ไม่น้อย เอาว่า เอฟเอ คัพ ของอังกฤษ ฤดูกาลล่าสุดปี 2008-2009 นี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 128 มีทั้งหมดตั้ง 762 ทีมก็แล้วกัน แต่ยังไม่ทันจับสลากประกบคู่กันเลย เซาธ์ นอร์แมนทึน แอธเลติค ( South Normanton Athletic FC ) ฉายา เดอะ ชายเนอร์ส ( The Shiners ) 1 ใน 762 ทีมก็ยุบสโมสรไปซะก่อน เพราะไม่สามารถหาใครมาดูแลทีมได้ มันก็เลยเหลือ 761 ทีม ยังเยอะอยู่ดี
การประกบคู่เตะฟุตบอลรายการนี้ เขาใช้วิธีจับสลากเอารอบต่อรอบ โดยไม่มีทีมใดได้เป็นทีมวางอันดับเพื่อไปเจอกับทีมต่ำชั้น ยกเว้นเพียงแค่มีกติกาให้ทีมที่ไม่ได้เล่นอยู่ใน เพรอมิเอ ลีก หรือเป็นสมาชิกใน เดอะ ฟุตบอล ลีก ก็ต้องไปเริ่มไต่ขึ้นมาตั้งแต่รอบคัดเลือก นอกจากนั้น ทีมใน ลีก วัน ( League One ) 24 ทีม และ ลีกทู ( League Two ) อีก 24 ทีม รวม 48 ทีม จะเริ่มเข้ามาเล่นในรอบแรก ส่วน 20 ทีมจาก เพรอมิเอ ลีก กับอีก 24 ทีมจาก เดอะ แชมเปียนชิพ รวมเป็น 44 ทีมจะเริ่มเข้ามาเมื่อถึงรอบสาม
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ ปีนี้ เริ่มแข่งนัดแรกสุดในรอบ Extra Preliminary Round ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม ปีที่แล้ว ทีมชนะได้เงินรางวัล 750 พาวน์ด หรือประมาณ 37,500 บาท อีก 2 สัปดาห์ก็แข่งรอบต่อไปคือ Preliminary Round ทีมชนะรับไป 1,500 พาวน์ด หรือประมาณ 75,000 บาท การแข่งขัน 2 รอบดังกล่าวยังไม่ใช่รอบคัดเลือกครับ ต้องนัดถัดจากนั้น จึงเริ่มเข้าสู่รอบคัดเลือกรอบแรก ซึ่งผู้ชนะจะได้รับเงิน 3,000 พาวน์ด หรือประมาณ 150,000 บาท รอบยิ่งลึก เงินรางวัลก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็น 4,500 พาวน์ด 7,500 พาวน์ด ลุยกันจนทะลุผ่านรอบคัดเลือกรอบที่ 4 ทีมชนะจะได้รับเงิน 12,500 พาวน์ด หรือประมาณ 625,000 บาท
หลังจากหลุดรอดมา 6 รอบ คราวนี้ก็ได้เข้าสู่รอบแรกแท้ๆสักที ใครชนะก็ได้รับเงิน 20,000 พาวน์ด หรือประมาณ 1 ล้านบาท ผ่านรอบสองได้ 30,000 พาวน์ด หรือประมาณ 1.5 ล้านบาท รอบสาม 75,000 พาวน์ด หรือ 3,750,000 บาท รอบสี่ 100,000 พาวน์ด หรือประมาณ 5 ล้านบาท รอบห้า ได้เงินรางวัลอีกเท่าตัว รอบหกนั้น เงินรางวัลกลายเป็น 400,000 พาวน์ด หรือ 20 ล้านบาท
เมื่อพ้นรอบหกมาก็ได้เข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ซึ่งมีเงินรางวัลให้ผู้ชนะในรอบนี้ 1 ล้านพาวน์ด หรือประมาณ 50 ล้านบาท ส่วนผู้แพ้ก็ยังได้รับจำนวนเท่ากับครึ่งหนึ่งของผู้ชนะ และรอบชิงชนะเลิศ ทีมใดได้แชมป์ก็ได้ถ้วยพร้อมเงินรางวัลอีก 2 ล้านพาวน์ด หรือประมาณ 100 ล้านบาท ในขณะที่ผู้แพ้ได้เงินปลอบใจครึ่งหนึ่ง
เงินรางวัลมากมายขนาดนี้ แต่ก็ยังมีสโมสรยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูนายเต็ด ซึ่งแม้จะเคยคว้าแชมป์ฟุตบอลรายการนี้มาถึง 11 ครั้ง มากกว่าใคร แต่ทุกๆปี แมน ยู ไม่ค่อยจะให้ความสนใจ มุ่งมั่น เอาจริงเอาจัง แต่งทัพใหญ่ไปสู้กับเขาเท่าไรนัก เซอร์ อเลกซ์ เฟอร์เกิสเซิน มักจะส่งนักเตะเห่ยๆลงไปโชว์ฟอร์มห่วยๆ กระนั้นก็ยังบังอาจออกอาการลุ้น หวังเก็บชัยชนะแบบง่ายๆ ทำให้คิดไปได้ว่า แมน ยู เมินความศักดิ์สิทธิ์ของถ้วยรางวัล นั่นเป็นเพราะความที่มีโอกาสชิงถ้วยใบสำคัญกว่าคือ ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก และเพรอมิเอ ลีก ทำให้ต้องแบ่งกำลังเอาไว้สู้ นอกจากนั้น ฟุตบอลนัดเดียว ทีมกระจอกที่ฝรั่งเรียกว่า มินโนว์ส ( Minnows ) หมายถึงพวกปลาเล็กๆตามลำธาร บางปี เฮี้ยนหนัก ก็อาจโค่นทีมยักษ์ใหญ่ตกรอบไปหมดได้เหมือนกัน ฟุตบอลรายการนี้จึงดูยิ่งใหญ่เพียงแค่วันชิงชนะเลิศเท่านั้น ส่วนช่วงเวลาที่กรุยทางมานั้น ทีมยักษ์คงขี้เกียจจะไปให้ความสำคัญ