xs
xsm
sm
md
lg

กระทบไหล่ "แพ็คแมน" อิน ไทยแลนด์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ในโอกาสที่ "แพ็คแมน" แมนนี ปาเกียว ยอดกำปั้นที่ได้รับการยกย่องเก่งที่สุดในโลก เมื่อเทียบน้ำหนักกันปอนด์ต่อปอนด์ เดินทางมาโชว์ตัวที่เมืองไทย ในฐานะพรีเซนเตอร์เบียร์ ซาน มิเกล ของประเทศฟิลิปปินส์ ที่ห้องพินนาเคิล โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา
ปาเกียว ให้สัมภาษณ์อย่างเป็นกันเอง
งานนี้เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลกในน้ำหนักต่างพิกัดกันถึง 5 รุ่น ได้เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวไทยให้สัมภาษณ์แบบเป็นเอง กินเวลาร่วม 30 นาที ซึ่ง MGR Sport ประมวลเอาบางช่วงบางตอนของการเปิดใจ แมนนี ปาเกียว มาให้ชมกันพอหอมปากหอมคอ

ผู้สื่อข่าว : ฟลอยด์ เมเวทเธอร์ จูเนียร์ นักชกเจ้าของสถิติไร้พ่าย 39 ไฟต์ ให้สัมภาษณ์ว่าด้วยสไตล์ของเขา สามารถเอาชนะคุณได้ไม่ยากหากได้เจอกัน คุณอยากจะพูดอะไรไปถึงเขาไหม ?
ปาเกียว : ขึ้นชื่อว่า ฟลอยด์ เมเวทเธอร์ นั้น การันตีลูกโม้มาตั้งแต่รุ่นพ่อแล้ว ผมไม่อยากจะพูดอะไรมาก และอย่างจะบอกว่ารอดูเมื่อวันนั้นดีกว่า ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าว : แล้วบอกได้ไหมว่าไฟต์หน้าของคุณจะขึ้นชกเมื่อไหร่ ?
ปาเกียว : น่าจะเป็นในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งต้องรอดูผลการชกระหว่าง ฟลอยด์ เมเวทเธอร์ จูเนียร์ กับ ฮวน มานูเอล มาร์เกซ ก่อนว่าจะออกมาเช่นไร

ผู้สื่อข่าว : คุณเพิ่งจะได้รับแต่งตั้งจากประธานาธิบดี กลอเรีย อาโรโย่ ให้ดำรงตำแหน่งทูตสันติภาพ ในอนาคตคุณคิดอย่างจะเป็นประธานาธิบดีบ้างไหม ?
ปาเกียว : (หัวเราะ) มันไม่ใช่ความฝันของผม ความฝันของผมในตอนนี้คือ การเป็นนักมวยที่ยิ่งใหญ่ และสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมต่อไป

ผู้สื่อข่าว : แล้วการลงเล่นการเมืองล่ะ มีความเป็นไปได้แค่ไหน ?
ปาเกียว : เรื่องนี้น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้ แต่นั่นก็ยังเป็นเรื่องของอนาคตอยู่ดี

ผู้สื่อข่าว : แล้วหากให้เปรียบเทียบไฟต์ที่ดีที่สุดในชีวิตคุณ ระหว่างการผ่านออสการ์ เดอ ลา โฮย่า กับ ริคกี ฮัตตัน ล่ะ ?
ปาเกียว : เป็นไฟต์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผมทั้ง 2 ไฟต์ แต่หากให้เปรียบเทียบกัน แม้ว่าฮัตตันจะมีลีลาที่ดุดันก็จริง แต่ถ้าวัดน้ำหนักหมัดแล้ว ออสการ์ กินขาด

ผู้สื่อข่าว : ฟลอยด์ เมเวทเธอร์ จูเนียร์ พูดว่า ริคกี ฮัตตัน หมดสภาพ ไปตั้งแต่แพ้น็อคเขาเมื่อปี 2007 ที่ผ่านมา และสมควรจะแขวนนวมได้แล้ว คุณคิดเช่นนั้นไหม ?
ปาเกียว : ไม่เลย ริคกี ยังเป็นนักชกที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ ยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะอำลาวงการนี้ไป ในวันที่ชกกับผม หากเข้าไม่ออกลูกบู๊มากเกินไปตั้งแต่ช่วงแรก บางทีอาจจะต้องสู้กันยาวก็ได้

ผู้สื่อข่าว : คุณบอกได้ไหมว่า คุณวางแผนการหันหลังให้กับการชกมวยอาชีพเมื่อไหร่ ?
ปาเกียว : คงบอกเป็นระยะเวลาไม่ได้ว่า 1 ปี หรือ 2 ปี แต่ผมคงจะต้องแขวนนวมในเวลาในไม่ช้านี้

ผู้สื่อข่าว : คุณยังจำเม็ดเงิน สามเคแบตเตอรี (กระทิงแดงยิม) ได้ไหม เขาเคยน็อคคุณเมื่อ 10 ปีก่อน ถ้าเป็นไปได้อยากแก้มือกับเขาไหม ?
ปาเกียว : (หัวเราะ) ครั้งนั้นผมมีปัญหาเรื่องการทำน้ำหนักก่อนขึ้นชก แต่ถ้าถามถึงชั่วโมงนี้ผมทำน้ำหนักขึ้นมากว่าเมื่อ 10 ปีก่อนมาก มันคงเป็นเรื่องยากที่เราทั้งคู่จะได้แก้มือกัน

ผู้สื่อข่าว :ในฐานะยอดนักมวยหมายเลข 1 ของโลกเคยคิดผันตัวไปเป็นโปรโมเตอร์ เหมือนชกนักดังคนอื่นๆหรือไม่ ?
ปาเกียว : ผมเริ่มเปิดบริษัทรับเป็นโปรโมเตอร์มาได้ 3 ปีแล้ว ที่สำคัญนักมวยในสังกัดของผมก็มีนักมวยไทยร่วมค่ายอยู่ด้วย

ผู้สื่อข่าว : คุณมีวิธีการรักษาสภาพร่างกายอย่างไร ให้แข็งแกร่งเช่นนี้ และการเป็นพรีเซนเตอร์เบียร์ คุณใช้บริการชาน มิเกล มากน้อยแค่ไหน ?
ปาเกียว : ผมฝึกซ้อมอย่างหนัก นอกจากนี้ยังเล่นบาสเกตบอลเป็นชีวิตจิตใจ ส่วนเรื่องการดื่ม ก็มีบ้างนะ แต่ไม่มากแน่นอน (หัวเราะ)

ผู้สื่อข่าว : คุณรู้สึกอย่างไร ที่จะได้มีโอกาสเข้าพบ นายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ?
ปาเกียว : แน่นอน การได้เข้าพบท่านายกฯ คือเป็นเกียรติสำหรับผม รวมถึงวงศ์ตระกูล และชาวฟิลิปปินส์ ทุกๆคน

ผู้สื่อข่าว : นอกจากนักมวยแล้ว คุณคือนักร้องดังคนหนึ่ง พอจะร้องเพลงให้ฟังได้ไหม ?
ปาเกียว : (หัวเราะ เขิน) มันเป็นเพลงภาษตากาล็อกนะ

ผู้สื่อข่าว : ร้องให้ฟังสักนิดได้ไหม ?
ปาเกียว : พารา ซา โย อัง ลาบัน นา โต... ที่แปลว่า สู้นี่เพื่อคุณ (ในคลิป)

ท้ายที่สุดยอดกำปั้นฟิลิปปิโน ได้ทิ้งท้ายฝากมายังแฟนมวยชาวไทยว่า "ผมมักจะอุทิศความสำเร็จและชัยชนะของผมในทุกๆไฟต์ให้กับประชาชนฟิลิปปินส์ แต่ผมก็ไม่ลืมเช่นกันว่ามีแฟนมวยชาวไทยไม่น้อยที่ติดตามผลงานของผมมาตลอด ซึ่งผมรู้สึกเป็นเกียรติและและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะนำชัยชนะมาฝากแฟนๆชาวไทยได้อีกในอนาคต สำหรับไฟต์ต่อๆไป"
กำลังโหลดความคิดเห็น