แม็คลาเรน-เมอร์เซเดส ทีมดังแห่งศึกรถสูตรหนึ่ง รอดพ้นการถูกแบนจำนวน 3 สนาม อย่างเฉียดฉิว หลังจากสภามอเตอร์สปอร์ตโลก (WMSC) ตัดสินเพียงทำทัณฑ์บนโทษแบน 3 สนาม จากคดีที่ลูอิส แฮมิลตัน ให้ข้อมูลเท็จต่อเจ้าหน้าที่ควบคุมการแข่งขันในศึกออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์
ทีมแข่งดังจากประเทศอังกฤษ เสี่ยงต่อการถูกสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) แบนออกจากการแข่งขันในฤดูกาลนี้ หลังแชมป์โลก 2008 และทีมงาน ทำผิดกฎเอฟไอเอ มาตรา 151 ซี ด้วยการให้การเท็จ ในการแข่งขันเอฟวันสนามแรกที่ออสเตรเลีย จากกรณีปล่อยให้รถโตโยต้า แซงขึ้นหน้าในรอบเซฟตีคาร์
ทว่าล่าสุด เอฟไอเอ ได้เปิดเผยแถลงการณ์ หลังหารือในที่ประชุมของสภามอเตอร์สปอร์ตโลก ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสว่า "สภาฯเข้าใจการกระทำทุกอย่างของ มาร์ติน วิทมาร์ช ประธานทีมแม็คลาเรน ที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของทีม"
"ซึ่งสภาฯได้พิจารณาไปตามความเหมาะสมและขอตัดสินลงโทษแบนแม็คลาเรนออกจากการแข่งขันเป็นจำนวน 3 เรซ แต่โทษแบนดังกล่าวจะเกิดขึ้นต่อเมื่อ แม็คลาเรนกระทำความผิดอีกครั้งในช่วง 12 เดือนนับจากนี้"แถลงการณ์ระบุ
ซึ่งหลังรับทราบคำตัดสิน มาร์ติน วิทมาร์ช ทีมบอสค่ายซิลเวอร์แอร์โรว์ส ที่เดินทางไปยังกรุงปารีสเพียงคนเดียว ออกมาเผยด้วยความโล่งใจว่า "ผมอยากจะขอบคุณเอฟไอเอ และสภาฯ ที่เปิดโอกาสมให้ผมได้ชี้แจงในช่วงเช้าของการประชุม สิ่งที่เกิดขึ้นมันคือความผิดพลาดของเรา ซึ่งเรามั่นใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอน"
ทีมแข่งดังจากประเทศอังกฤษ เสี่ยงต่อการถูกสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) แบนออกจากการแข่งขันในฤดูกาลนี้ หลังแชมป์โลก 2008 และทีมงาน ทำผิดกฎเอฟไอเอ มาตรา 151 ซี ด้วยการให้การเท็จ ในการแข่งขันเอฟวันสนามแรกที่ออสเตรเลีย จากกรณีปล่อยให้รถโตโยต้า แซงขึ้นหน้าในรอบเซฟตีคาร์
ทว่าล่าสุด เอฟไอเอ ได้เปิดเผยแถลงการณ์ หลังหารือในที่ประชุมของสภามอเตอร์สปอร์ตโลก ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสว่า "สภาฯเข้าใจการกระทำทุกอย่างของ มาร์ติน วิทมาร์ช ประธานทีมแม็คลาเรน ที่ทำทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของทีม"
"ซึ่งสภาฯได้พิจารณาไปตามความเหมาะสมและขอตัดสินลงโทษแบนแม็คลาเรนออกจากการแข่งขันเป็นจำนวน 3 เรซ แต่โทษแบนดังกล่าวจะเกิดขึ้นต่อเมื่อ แม็คลาเรนกระทำความผิดอีกครั้งในช่วง 12 เดือนนับจากนี้"แถลงการณ์ระบุ
ซึ่งหลังรับทราบคำตัดสิน มาร์ติน วิทมาร์ช ทีมบอสค่ายซิลเวอร์แอร์โรว์ส ที่เดินทางไปยังกรุงปารีสเพียงคนเดียว ออกมาเผยด้วยความโล่งใจว่า "ผมอยากจะขอบคุณเอฟไอเอ และสภาฯ ที่เปิดโอกาสมให้ผมได้ชี้แจงในช่วงเช้าของการประชุม สิ่งที่เกิดขึ้นมันคือความผิดพลาดของเรา ซึ่งเรามั่นใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่นอน"