คอลัมน์ "The Golf Touch" โดย "วันปีย์ สัจจมาร์ค"
ถืงวันนี้น่าจะเป็นที่ยอมรับกันได้ 99% แล้วว่า ไทเกอร์คือนักกอล์ฟที่เก่งที่สุดในโลก อีก 1% เก็บไว้มอบให้เมื่อเขาสามารถทำลายสถิติ 18 เมเจอร์ของแจ็ค นิคลอส และ 82 รายการใน US PGA ของแซม สนีด สำเร็จ หลายคนอาจจะมีทฤษฎีต่างๆว่าไทเกอร์เก่งเพราะอะไร อาจจะเป็นเพราะตีไกล ตีตรง เหล็กคม ลูกสั้นดี พัตต์ดี ใจสู้ หรือครบทุกองค์ประกอบที่พูดมา ส่วนสัปดาห์ที่ผ่านมาที่สนาม Bayhill Club & Lodge ในรายการอาร์โนลด์ พาล์มเมอร์ อินวิเทชันนัล ไทเกอร์ ชนะได้เพราะอะไร เรามาดูสถิติการเล่นกันดีกว่าครับ
สถิติรวม 4วันของ Tiger
Category | Total | Rank |
Eagles | 0 | N/A |
Birdies | 16 | T1 |
Pars | 46 | T36 |
Bogeys | 9 | T65 |
Double Bogeys | 1 | T33 |
Others | 0 | N/A |
Driving Accuracy | 60.07% | T51 |
Driving Distance | 283.6yds. | T23 |
Green in Regulation | 54.2% | T50 |
Putts per Round | 25.3 | 1 |
Putts per GIR | 1.692 | 2 |
Sand Saves | 66.7% | T13 |
บทเรียนที่ 1 – ลืมและอภัยตัวเองให้ได้แล้วเล่นต่อ
สังเกตการได้มาและเสียไปของแต้มเป็นเรื่องปรกติ แม้กระทั่งสำหรับนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกได้มา 16อันเดอร์จากเบอร์ดี้แต่ก็เสียไป 11สโตรก (9โบกี้+1ดับเบิ้ลโบกี้) ดังนั้นนักกอล์ฟทั่วไปไม่ต้องตกใจ เสียใจ หรือโมโห เมื่อเสียโบกี้หรือแม้กระทั่งดับเบิ้ลโบกี้ เรื่องธรรมดาครับเกิดขึ้นได้กับทุกๆคน
บทเรียนที่ 2 – นักกอล์ฟทั่วไปก็ทำได้
ไดร์ฟลูกอยู่ในแฟร์เวย์ 60.7%เท่ากับ 8-9หลุมต่อรอบเท่านั้นเอง สถิตินี้เราไม่นับพาร์ 3เพราะฉะนั้นเราคำนวณ 60.7%คูณ 14 หลุมพอ อีกสถิติที่น่าจะพอทำกันได้ก็คือ “Regulation on” 54.2%ของ 18หลุมซึ่งก็คือ 9-10หลุมต่อรอบเท่านั้น
บทเรียนที่ 3 – แค่โดนดีแต่ไม่ต้องโดนเต็มที่เสมอไป
ระยะเฉลี่ยของการไดร์ฟดี 283.6 หลา แต่ก็ไม่ได้ไกลที่สุดแค่อันดับ 23 ร่วม เราทราบดีว่าถ้าเขาต้องการ 350 หลา ไทเกอร์ก็ตีได้ แต่ไม่เห็นจำเป็นต้องทำตลอดเลย ดังนั้นไดร์ฟให้ได้ไกลที่สุดเท่าที่ควบคุมได้ อย่าสวิงแรงเกินตัว
บทเรียนที่ 4 – เคล็ดลับของชัยชนะ
25 พัตต์ ต่อรอบคือ ตัวเลขที่ต้องเก็บไปฝึกฝนและใฝ่ฝันครับ เพราะต้องพัตต์เดียวถึง 11 หลุมแล้วอีก 7 หลุมเก็บ 2 พัตต์ให้หมด
บทเรียนของกอล์ฟมีอยู่ทุกที่ถ้าเราหมั่นที่จะเรียนรู้