เว้นวรรคให้ทีมชาติโม่แข้ง 2 อาทิตย์เต็มๆ สาวก “เดอะ ค็อป” คงหงุดหงิดหัวใจไม่น้อย เพราะกำลังไล่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหลือเพียงแค่แต้มเดียว หากวันเสาร์ที่ 4 เมษายนนี้ ลิเวอร์พูล บุกชนะ ฟูแลม หรือเพียงแค่เสมอ จะพุ่งขึ้นไปรั้งจ่าฝูงชั่วคราวทันที พร้อมสวมบทกองแช่ง “ผีแดง” ที่จะเตะในวันอาทิตย์รับมือ แอสตัน วิลลา
เวลานี้ทุกอย่างกำลังเป็นใจให้กับ ลิเวอร์พูล ในการก้าวไปคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี เพราะชนะมา 3 นัดรวดแถมกดไปถึง 11 ประตู ส่วน แมนฯยู ออกอาการเป๋แพ้ 2 นัดติดต่อกัน ทำให้เหลือนำแค่แต้มเดียว แม้ยังมีเกมตกค้างอีก 1 นัดในมือ แต่ถึงกระนั้นก็ตามแชมป์ พรีเมียร์ชิป ของ “ผีแดง” ที่ว่าแบเบอร์ชักไม่แน่เสียแล้ว
แม้ฟอร์มกำลังเข้าฝักแต่ ลิเวอร์พูล จะประมาท ฟูแลม ไม่ได้เด็ดขาด เพราะฤดูกาลนี้ “เจ้าสัวน้อย” เล่นในถิ่น คราเวน คอตเทจ ได้เด็ดดวงจริงๆ ผลงานดีเป็นอันดับ 4 เหนือกว่า อาร์เซนอล และ เชลซี เสียอีก แมนฯยูไนเต็ด รู้ซึ้งเป็นอย่างดี เนื่องจากนัดล่าสุดบุกไปแพ้แบบหมดรูป 0-2 แต่ส่วนหนึ่งมาจาก พอล สโคลส์ โดนไล่ออกตั้งแต่ต้นเกม
เอียน รัช ตำนานดาวยิง ลิเวอร์พูล ออกมาเตือนว่า “คงไม่ใช่เกมง่ายๆ สำหรับ ลิเวอร์พูล โดยเฉพาะหลังจาก 2 สัปดาห์ที่กลับมาจากเบรกทีมชาติ แต่ถ้าเอาชนะ ฟูแลม ได้ ก็น่าจะมีโอกาสมากที่จะคว้าแชมป์ เกมนี้อยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญ เพราะลงเล่นก่อน แมนฯยู 1 วัน ทำให้ได้เปรียบในด้านจิตวิทยา ชัยชนะจะทำให้เรากลับมารั้งจ่าฝูงถึงคู่ต่อสู้จะมี 2 เกมอยู่ในมือ แต่คงจะรู้สึกเสียขวัญเหมือนกัน”
ราฟาเอล เบนิเตซ นายใหญ่ชาวสแปนิช คงใช้นักเตะ ลิเวอร์พูล ชุดใหญ่เหมือนเกมที่ถล่ม แอสตัน วิลลา 5-0 แม้ว่าจะมีศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีม นัดแรก ที่จะเปิด แอนฟิลด์ ต้อนรับ เชลซี รออยู่ในวันพุธถัดไป นำทัพโดย สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันไดนาโม ที่ฟอร์มกำลังฮอตสุดๆ ยิงมาแล้ว 3 เกมติดต่อกัน รวมทั้งหมด 6 ประตู มีเพียง ซามี ฮูเปีย กองหลังฟินแลนด์ และ ยอสซี เบนายูน กองกลางอิสราเอล เท่านั้นที่เจ็บมาจากทีมชาติ
ส่วน ฟูแลม ของกุนซือ รอย ฮอดจ์สัน ยกระดับขึ้นมาได้อย่างน่าดูชม ทั้งที่ปีที่แล้วรอดตกชั้นด้วยผลต่างประตูได้-เสีย ส่วนปีนี้รอดตายค่อนข้างแน่นอนแล้ว แต่ว่าก็มีเป้าหมายเหมือนกันคือลุ้นไปเล่น ยูโรปา ลีก ในฤดูกาลหน้า เมื่อรั้งอันดับ 9 ตามหลัง เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 6 อยู่ 8 แต้ม หรือทางอ้อมคือให้บรรดาทีม “บิ๊กโฟร์” เข้าไปชิงกันเองในศึก เอฟเอ คัพ สิทธิก็จะมาตกอยู่กับทีมอื่นใน พรีเมียร์ชิป ที่อันดับถัดลงมา
ปีนี้ ฟูแลม เล่นในถิ่นเอาชนะได้ทั้ง แมนฯยู และ อาร์เซนอล รวมถึงยันเสมอ เชลซี 2-2 ส่วนนัดแรกของฤดูกาลบุกไปเจ๊าถึง แอนฟิลด์ มาก่อน 0-0 แต่ที่สำคัญ “เจ้าสัวน้อย” สามารถเอาชนะ ลิเวอร์พูล ที่ คราเวน คอตเทจ ได้ถึง 2 ใน 3 เกมหลังสุดเลยทีเดียว ดังนั้น เกมนี้ก็น่าจะมีลุ้นแบ่งแต้ม เพราะตัวหลักๆ อย่าง บ็อบบี ซาโมรา, แอนดรูว์ จอห์นสัน, ไซมอน เดวีส์, แดนนี เมอร์ฟีย์ และ คลินท์ เดมป์ซีย์ ก็ยังอยู่กันครบ
ข้ามมาทางฝั่ง แมนฯยูไนเต็ด จำเป็นต้องงัดประสบการณ์ดีกรีแแชมป์ พรีเมียร์ชิป 10 สมัยออกมาใช้ เพราะจะกดดันแสนสาหัสอย่างแน่นอนถ้าหากวันเสาร์ ลิเวอร์พูล เอาชนะ และแซงขึ้นไปนั่งจ่าฝูงชั่วคราว ทั้งที่ก่อนหน้านี้น่าจะเข้าป้ายแชมป์อย่างไม่ยากเย็นนำอยู่ 7 คะแนนแถมแข่งน้อยกว่าอีกนัด แต่ดันมาสะดุดพ่าย 2 นัดซ้อน ส่วนหนึ่งก็ต้องโทษ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ตัดสินใจผิดพลาดพัก เวย์น รูนีย์ และ ไมเคิล คาร์ริค ในเกมพ่าย ฟูแลม
แมนฯยู จะไม่มี เนมานยา วิดิช ปราการหลังคนสำคัญที่จะชดใช้โทษแบนเป็นนัดสุดท้าย โจนาธาน อีแวนส์ จะได้ยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟต่อไป รวมถึงไร้ พอล สโคลส์ กองกลางและ เวย์น รูนีย์ ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ เพราะทั้งคู่โดนใบแดงในเกมกับ ฟูแลม แต่อาจจะได้ แกรี เนวิลล์ แบ็กขวาจอมเก๋าคืนทัพ หลังลงเคาะสนิมในเกมสำรองเกือบหนึ่งชั่วโมง
ก่อนเกม เนวิลล์ ออกมาเร้าลูกทีมว่า “เราเคยพูดว่าต้องกลับมาให้ได้หลังความพ่ายแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล แต่เราไม่ได้ทำเช่นนั้นเลยในเกมกับ ฟูแลม ตอนนี้ แมนฯยู ไม่มีโอกาสมากอีกแล้ว เราต้องทำให้มั่นใจด้วยการเริ่มคว้าชัยชนะ โดยมีเกมสำคัญยิ่งกับ แอสตัน วิลลา รออยู่ในวันอาทิตย์ ซึ่งผมคิดว่าไม่สามารถตีค่าอะไรได้ต่ำเกินไปอีกแล้ว”
ฝั่ง วิลลา 5 นัดหลังแพ้ 4 เสมอ 1 นัด ทำให้ตกจากพื้นที่ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก มารั้งอันดับ 5 ตามหลัง อาร์เซนอล 3 แต้ม โอกาสที่จะแซงคืนริบหรี่เต็มที แผน 4-4-2 ที่นำมาใช้แทน 4-3-3 หลังจาก เอมิล เฮสกีย์ ย้ายเข้ามา กลายเป็นทำร้ายตัวเอง โดยเฉพาะ มาร์ติน โอนีลล์ จัดทัพผิดพลาดเต็มๆ ในเกมโดน ลิเวอร์พูล ยำใหญ่ เนื่องจาก ไนเจล รีโอ โคเกอร์ ไม่เหมาะเล่นแบ็กขวา และหอคอยคู่อย่าง เฮสกีย์ กับ ยอห์น คาริว ในแดนหน้าก็ใช้ไม่ได้ผล
วิลลา จะได้ แบร็ด ฟรีเดล เฝ้าเสาต่อไป หลังอุทธรณ์ใบแดงในเกมกับ ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ แต่ปัญหาก็คือนักเตะนัดกันฟอร์มตก ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะล้าเนื่องจากทีมมีขนาดเล็กและกรำศึกหนักมาทั้งฤดูกาล นัดแรกแม้จะเซอร์ไพรส์ยันเสมอได้สำเร็จ 0-0 อย่างไรก็ตาม เจอ แมนฯยู ทีไรเหมือนเชือกกล้วยทุกทีเกมนี้ก็น่าจะแพ้กลับไปอีก
ฟันธง ตรงเผง โดย เซียนไก๋ เจริญกรุง
แบล็กเบิร์น เสมอ สเปอร์ส 1-1
โบลตัน ชนะ มิดเดิลสโบรช์ 2-0
อาร์เซนอล ชนะ แมนฯซิตี 3-1
ฮัลล์ แพ้ ปอร์ทสมัธ 0-1
นิวคาสเซิล แพ้ เชลซี 1-2
เวสต์ บรอมวิช ชนะ สโต๊ก 2-1
เวสต์แฮม ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0
ฟูแลม เสมอ ลิเวอร์พูล 0-0
เอฟเวอร์ตัน ชนะ วีแกน 2-1
แมนฯยู ชนะ วิลลา 2-0
โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์ชิปสุดสัปดาห์นี้
วันเสาร์ที่ 4 เมษายน 2552
แบล็กเบิร์น พบ สเปอร์ส เวลา 18.45 น.
โบลตัน พบ มิดเดิลสโบรช์ เวลา 21.00 น.
อาร์เซนอล พบ แมนฯซิตี เวลา 21.00 น.
ฮัลล์ พบ ปอร์ทสมัธ เวลา 21.00น.
นิวคาสเซิล พบ เชลซี เวลา 21.00 น.
เวสต์บรอมวิช พบ สโต๊ก เวลา 21.00 น.
เวสต์แฮม พบ ซันเดอร์แลนด์ เวลา 21.00 น.
ฟูแลม พบ ลิเวอร์พูล เวลา 23.30 น.
วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน 2552
เอฟเวอร์ตัน พบ วีแกน เวลา 21.00 น.
แมนฯยู พบ วิลลา เวลา 22.00 น.