"ผี" บุกเจ้าสัวกู้หน้า "เชลซี" หืดเยือนไก่ / เซียนไก๋

พ่ายเละเทะมาในศึก "วันแดงเดือด" ถึงคราว "จ่าฝูง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องกู้หน้ากลับมาด้วยการบุกรัง คราเวน ค็อตเทจ ของ ฟูแลม ในเกม พรีเมียร์ชิป วันเสาร์ที่ 21 มีนาคมนี้ ส่วนผู้ไล่ล่าที่ฟอร์มกำลังสดอย่าง เชลซี เจองานหนักจะต้องบุกไปเยือน ไวท์ ฮาร์ท เลน เพื่อทำศึก ลอนดอน ดาร์บี แมตช์ กับ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์

หงอยไปทั้งสัปดาห์สำหรับสาวก "เรด เดวิลส์" เมื่อถูก ลิเวอร์พูล บุกมายัดเยียดความปราชัยนัดแรกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในฤดูกาลนี้ด้วยสกอร์ 1-4 แถมเป็นการแพ้ย่อยยับที่สุดต่อ "หงส์แดง" นับตั้งแต่ปี 1936 ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำผลงานส่วนหรูชนะมา 11 นัดรวด อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของ แมนฯยู ยังดูดีหากชนะ ฟูแลม จะหนีไปเป็น 7 แต้ม

ความโชคร้ายน่าจะมาตกอยู่กับ ฟูแลม เพราะว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คงกระตุ้นลูกทีมอย่างหนักเพื่อให้ แมนฯยู บุกเก็บสามแต้มด้วยฟอร์มที่สวยหรูเพื่อล้างอายสัปดาห์ที่ผ่านมา และงานดังกล่าวคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงพลพรรคปิศาจแดงสักเท่าไรเพราะปีนี้ทั้งคู่เจอกันมา 2 ครั้ง "ผีแดง" ชนะรวด ในลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด กดมา 3-0 ก่อนที่ เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายจะถล่มมา 4-0

ท่านเซอร์ ออกมากระตุ้นพลพรรคผีที่กำลังลุ้น 5 แชมป์หลังเกมพ่าย ลิเวอร์พูล ว่า "ถือเป็นผลการแข่งขันนัดหนึ่งที่เราจำต้องยอมรับให้ได้ สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้ก็คือการแก้ตัวใหม่ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเสมอกับสโมสรแห่งนี้ เมื่อคุณแพ้นัดหนึ่งจะต้องพลิกฟื้นกลับคืนมาในเกมต่อไปให้ได้ทันทีอันเป็นสิ่งที่เราทำเสมอ"

เกมนี้ แมนฯยู จะหมดสิทธิใช้งาน เนมานยา วิดิช ปราการหลังเลือดเซิร์บ เนื่องจากต้องชดใช้โทษ 2 นัดจากใบแดงในเกมพ่าย ลิเวอร์พูล อย่างไรก็ตาม โจนาธาน อีแวนส์ เซนเตอร์ฮาล์ฟดาวรุ่งชาวไอริช น่าจะจับคู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ทดแทนได้อย่างไม่มีปัญหา ส่วนแบ็กขวายังต้องทดใช้ จอห์น โอเชีย ที่ช้าเป็นเรือเกลือต่อไป

พร้อมกันนี้ในแนวรุก ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ที่เป็นแค่ตัวสำรองในเกมกับ ลิเวอร์พูล จะออกสตาร์ทแทน คาร์ลอส เตเบซ และ พอล สโคลส์ อาจจะต้องใช้ความเก๋าลงมาประคองบรรดารุ่นน้อง ที่ผ่านมา แมนฯยู ชนะมา 9 นัดรวด เกมสุดท้ายที่ ฟูแลม แบ่งแต้มได้ต้องย้อนไปในฤดูกาล 2004-05 ที่ยื้อเสมอไปได้ด้วยสกอร์ 1-1

ฝั่งเจ้าถิ่น ฟูแลม เพิ่งชนะนอกบ้านนัดแรกในฤดูกาลนี้ด้วยการบุกไปอัด โบลตัน วันเดอเรอร์ส อย่างพลิกความคาดหมาย 3-1 จนพุ่งขึ้นมารั้งอันดับที่ 9 มี 37 คะแนน ทำให้ แมนฯยู จะประมาทลูกทีมของ รอย ฮอดจ์สัน ไม่ได้อย่างเด็ดขาด เนื่องจากยิงในบ้านได้ถึง 22 ประตูเท่ากับทีมระดับหัวแถวอย่าง ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล

นักเตะ ฟูแลม ที่อันตรายก็มีคู่หน้าอย่าง แอนดรูว์ จอห์นสัน และ บ็อบบี ซาโมรา รวมถึงแถวสองที่สอดขึ้นมายิงประตูได้ทั้ง คลินท์ เดมป์ซีย์ และ แดนนี เมอร์ฟีย์ อย่างไรก็ตามปกติก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว แถมมาเจอ แมนฯยู ในยามที่ต้องชนะสถานเดียวเช่นนี้จึงมีความเป็นไปได้น้อยมากที่ "เจ้าสัวน้อย" จะเก็บแต้มได้ในเกมนี้

ส่วนอีกหนึ่งคู่ที่น่าสนใจ สเปอร์ส ซึ่งสถานการณ์หนีตกชั้นหายใจหายคอสะดวกขึ้นเยอะจากผลงานไม่ปราชัย 5 นัดติดต่อกัน จนพุ่งขึ้นมารั้งอันดับ 11 มีลุ้นไปลุยศึก ยูโรปา ลีก ในฤดูกาลหน้า จะเปิด ไวท์ ฮาร์ท เลน ทำศึก ดาร์บีแมตช์ กับ เชลซี รองจ่าฝูงด้วยลูกได้-เสีย ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝักชนะมา 4 นัดรวดในยุคของ กุส ฮิดดิงค์

แม้ผลงานโดยรวมจะลุ่มๆ ดอนๆ แต่ว่า สเปอร์ส มีสถิติการเจอกับทีมระดับ "ท็อปโฟร์" ในฤดูกาลนี้ที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะ 5 นัดที่ผ่านมาเสมอ 4 แถมอีกนัดเป็นการชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 อีกด้วย ล่าสุดสามารถบุกไปเอาชนะ วิลลา ปาร์ค ถึงถิ่น 2-1 ด้วยแนวรับอันเหนียวแน่น เพราะยามที่มี เล็ดลีย์ คิง คุมหลังก็ยากที่แผงรุกหน้าไหนจะมาเจาะ

ทางด้าน เชลซี 4 นัดภายใต้การคุมทัพของ ฮิดดิงค์ ชนะด้วยผลต่าง 1 ประตูทั้งสิ้น พร้อมออกมาประกาศกร้าวขอลุ้น 3 แชมป์ เพราะการกลับมาของ มิคาเอล เอสเซียง กองกลางพันธุ์ถึกที่ยิงพาทีมเสมอ ยูเวนตุส 2-2 ในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย รวมถึงนัดล่าสุดที่ยิงช่วยทีมเฉือน แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-0 ในลีก

ดิดิเยร์ ดร็อกบา ดาวยิงไอวอรี โคสต์ ที่คืนฟอร์มเก่งแล้ว ออกมาเตือนทางด้าน แมนฯยูไนเต็ด ให้ระวังหลังเอาไว้ให้ดี ว่า "นิโกลาส์ อเนลกา คู่ขาในแดนหน้า และผมสามารถสร้างความอันตรายให้กับคู่แข่งทุกทีม ผมอยู่ในช่วงที่ดีที่สุดในฤดูกาลแล้ว ตอนนี้ เชลซี ยังมีลุ้น 3 แชมป์ และผมก็ไม่ต้องการที่จะทิ้งถ้วยใบใดใบหนึ่งไป"

ดาร์บีแมตช์ลอนดอนคู่นี้ยิงกันสนุกสูสีตลอด ผลการแข่งขันสามารถออกได้ทั้ง 3 หน้า สำหรับนัดแรกของฤดูกาลที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เสมอกันมา 1-1 ส่วนปีที่แล้วที่รัง สเปอร์ส เสมอกันอย่างสนุก 4-4 แต่ว่าปีก่อนหน้านั้นเจ้าถิ่นสามารถเอาชนะได้ 2-1 ที่สำคัญถือเป็นครั้งแรกใน พรีเมียร์ชิป ที่สามารถเอาชนะ เชลซี ได้อีกด้วย

นัดนี้ไม่ง่ายแน่สำหรับ เชลซี ที่จะเจาะ สเปอร์ส เนื่องจาก แฮร์รี เรดแน็ปป์ ได้ทีมที่ลงตัวแล้ว โดยเฉพาะกองกลาง วิลสัน ปาลาซิออส, เจอร์เมน เจนาส, ลูกา โมดริช และ อารอน เลนนอน ส่วนแดนหน้ามีตัวหลักคือ ร็อบบี คีน แถม "ไก่เดือยทอง" เล่นแบบมีเป้าหมายตาม เวสต์ แฮม ยูไนเต็ด อยู่แค่ 7 คะแนน สุดท้ายแล้วจึงน่าจะเจ๊ากันไป

ฟันธง ตรงเผง โดย เซียนไก๋ เจริญกรุง
ปอร์ทสมัธ แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-1
สโต๊ค เสมอ มิดเดิลสโบรช์ 0-0
สเปอร์ส เสมอ เชลซี 1-1
เวสต์ บรอม ชนะ โบลตัน 1-0
แบล็คเบิร์น เสมอ เวสต์ แฮม 1-1
ฟูแลม แพ้ แมนฯยู 1-3
นิวคาสเซิล แพ้ อาร์เซนอล 1-2
วีแกน ชนะ ฮัลล์ 2-1
แมนฯซิตี ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-1
ลิเวอร์พูล ชนะ วิลลา 2-0

โปรแกรมฟุตบอลพรีเมียร์ชิปช่วงสุดสัปดาห์นี้
วันเสาร์ที่ 21 มีนาคม 2552
ปอร์ทสมัธ พบ เอฟเวอร์ตัน เวลา 19.45น.
สโต๊ค พบ มิดเดิลสโบรช์ เวลา 22.00น.
สเปอร์ส พบ เชลซี เวลา 22.00น.
เวสต์ บรอม พบ โบลตัน เวลา 22.00น.
แบล็คเบิร์น พบ เวสต์ แฮม เวลา 22.00น.
ฟูแลม พบ แมนฯยู เวลา 22.00น.
นิวคาสเซิล พบ อาร์เซนอล เวลา 00.30น.
วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2552
วีแกน พบ ฮัลล์ เวลา 20.30น.
แมนฯซิตี พบ ซันเดอร์แลนด์ เวลา 22.00น.
ลิเวอร์พูล พบ วิลลา เวลา 23.00น.