กุส ฮิดดิงค์ กุนซือ เชลซี ยินดีกับชัยชนะพร้อมยืนยันยังไม่ยอมแพ้ต่อการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ในฤดูกาลนี้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขณะที่ สตีฟ บรูซ กุนซือ วีแกน โวยกรรมการที่เป่าให้ลูกโหม่งของ แฟรงค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์คู่แข่งเป็นประตูชัยทั้งที่มีการทำฟาวล์ มาริโอ เมลชอต ลูกทีมของตนก่อน
เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา (28 ก.พ.) เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ยังคงฟอร์มดีต่อหลังเบียดเอาชนะ วีแกน 2-1 โดย จอห์น เทอร์รี กัปตันทีมมาซัดประตูให้เจ้าถิ่นออกนำก่อนในนาทีที่ 25 ก่อนที่ โอลิวิเยร์ กาโป กองหน้าชาวฝรั่งเศสจะตีเสมอให้ทีมเยือนในนาทีที่ 82 แต่ แฟรงค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษมาเป็นฮีโรโหม่งประตูชัยพา “สิงห์บลูส์” เก็บสามคะแนนเต็มจนมีเพิ่มเป็น 55 แต้มพร้อมกับขึ้นมารั้งอันดับสองแทน ลิเวอร์พูล ที่บุกไปพ่าย มิดเดิลสโบรช์ 0-2 รวมถึงทีมมีคะแนนตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงอยู่ 7 แต้ม
ด้าน ฮิดดิงค์ กล่าวภายหลังคว้าชัยชนะ ว่า “เรามีความยินดีอย่างที่สุดต่อการคว้าชัยชนะเพราะ วีแกน เล่นกันได้ดีจนสร้างความลำบากแก่เรา” พร้อมมองถึงการลุ้นแชมป์กับลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน “ความเป็นจริงคือเราต้องรอคอยอาศัยให้ ยูไนเต็ด เกิดความผิดพลาดเองรวมถึงเราต้องเก็บชัยชนะทุกเกมที่เหลือ แน่นอนว่าพวกเขามีความเหนียวแน่นมาก แต่การแข่งขันยังเหลืออีกหลายนัด ดังนั้น ทุกสิ่งย่อมมีความเป็นไปได้และเราไม่ขอยอมแพ้”
ขณะที่ บรูซ จวกผู้ตัดสินที่เป่าให้ลูกโหม่งของ แลมพาร์ด เป็นประตูทั้งที่มีการทำฟาวล์ลูกทีมของตนว่า “ผมไม่ขอต่อว่า แลมพาร์ด แต่ผู้ตัดสินสมควรถูกด่า เพราะเขายืนอยู่ห่างจากเหตุการณ์เพียง 10 หลา แต่กลับมองไม่เห็น”