ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ จนทำให้ฟอร์มูลา วัน ต้องเสียทีมแข่งไปถึง 2 ทีมในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี กลับมีกลุ่มคนที่รักในกีฬาแข่งรถเข้าเส้นในสหรัฐอเมริกา ขอสวนกระแสโลก ด้วยการเตรียมส่งทีมแข่งตั้งแต่ฤดูกาล 2010 เป็นต้นไป โดยมีเป้าหมายนำเทคโนโลยีและนักขับอเมริกัน คืนสู่เอฟวันอีกครั้ง ภายใต้สโลแกน "เมดอินอเมริกา" ยิ่งไปกว่านั้นยังมีแผนใช้นักขับหญิงเพื่อสร้างสีสันให้กับวงการอีกด้วย
นับแต่มาริโอ อันเดรตติ นักขับจากสหรัฐอเมริกา คว้าแชมป์โลกรถสูตรหนึ่งร่วมกับทีมโลตัสในปี 1978 จนถึงวันนี้ ยังไม่มีนักแข่งอเมริกันเข้าใกล้ความสำเร็จบนเวทีความเร็วทางเรียบระดับโลกแม้แต่รายเดียว มิหนำซ้ำศึกเอฟวันรายการ ยูเอส กรังด์ปรีซ์ และแคนาเดียน กรังด์ปรีซ์ อันเป็น 2 สนามสุดท้ายที่เหลืออยู่บนดินแดนอเมริกาเหนือ ยังถูกฝ่ายสิทธิประโยชน์ที่มีเบอร์นีย์ เอคเคิลสโตน เป็นประธานถอดสั่งถอดจากปฏิทินแข่งรถสูตรหนึ่งในฤดูกาล 2008 และ 2009 ตามลำดับ ด้วยจากมียอดผู้ชมและตัวเลขรายได้ไม่เป็นที่น่าพอใจ
ซึ่งขณะที่เอฟวันในทวีปอเมริกาเหนือกำลังอยู่ในช่วงซบเซาอย่างหนัก รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ตกต่ำ ปีเตอร์ วินด์เซอร์ ผู้สื่อข่าวสายมอเตอร์สปอร์ต ผู้คร่ำหวอดในวงการรถสูตรหนึ่งมากว่า 40 ปี และ เคน แอนเดอร์สัน ผู้อำนวยการด้านเทคนิคทีม ฮาสส์ เรซซิง ในศึกนาสคาร์ของสหรัฐฯ เป็น 2 บุคคนที่กล้าผลักดันโปรเจกยักษ์ ด้วยการนำทีมแข่งเมดอินอเมริกา คืนสู่การแข่งขันทางเรียบชิงแชมป์โลกอีกครั้งในฤดูกาล 2010 โดยใช้ชื่อทีมว่า "ยูเอสเอฟวัน"
“ผมกับเคน แอนเดอร์สัน เริ่มโปรเจกนี้มาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว เขาเคยทำทีมคว้าชัยชนะมากมาย ขณะที่ผมก็โชคดีที่คลุกคลีกับวงการเอฟวันมายาวนาน พวกเราต้องการสร้างทีมเอฟวันขึ้นมาใหม่เพื่อลงแข่งขัน สิ่งสำคัญที่สุดคือการพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า รถแข่งที่ออกแบบและสร้างในสหรัฐอเมริกาสามารถยืนบนแถวหน้าของกีฬาความเร็วระดับโลกได้ เราจะนำรถลงแข่งด้วยความสนุกสนาน รวมถึงสร้างความแตกต่างจากทีมแข่งอื่นๆ ขณะเดียวกันชัยชนะในกรังด์ปรีซ์ก็คือเป้าหมายของเรา" วินด์เซอร์ เผยถึงโครงการในฤดูกาลหน้า
ขณะที่ แอนเดอร์สัน ที่จะมาทำหน้าที่ทีมบอสให้กับทีมแข่งรถมะกัน ก็ประกาศตั้งแต่เริ่มงานว่า นักขับในทีมทั้งหมดจะต้องเป็นอเมริกันชน โดยไม่จำกัดกว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ซึ่ง 1 ในตัวเลือก มีชื่อของ ดานิกา แพทริก นักขับหญิงคนแรกที่คว้าแชมป์อินดี คาร์ รวมอยู่ด้วย "เราต้องการที่จะดึงดานิกามาทดสอบ นักข่าวและผู้ชมจะสนใจเพิ่มขึ้นอีกเยอะหากเธอมาขับเอฟวัน แม้ว่าจะเป็นความสูญเสียของ ลีก อินดีคาร์ หากเธอต้องออกจากวงการ แต่เธอคือหนึ่งในตัวเลือกของเรา "
ทันทีที่ข่าวของ ดานิกา นักแข่งสุดเซ็กซีวัย 26 ปี ที่เคยผ่านงานถ่ายแบบให้นิตยสาร สปอร์ต อิลลาสเทรดเทด (Sport Illustrated) และ FHM มาแล้ว แพร่สะพัดออกไป ทำให้สื่อมวลชนต่างประเทศพากันเปิดประเด็นว่า เอฟวัน 2010 กำลังจะมีนักขับสาวออกสตาร์ทในกริดร่วมกับนักขับผู้ชายเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ หลังก่อนหน้านี้ จิโอแวนนา อมาติ นักขับสาวจากอิตาลี สังกัดทีมบราฮัม นำรถลงแข่งขันในฤดูกาล 1992 มาแล้ว แต่เธอไม่สามารถทำเวลาผ่านรอบคัดเลือกใน 3 สนามแรกของปี จนไม่ได้ออกสตาร์ในกริด และต้องโบกมือลาวงการไป
อย่างไรก็ดี สาวจากวิสคอนซินที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าตนเองใฝ่ฝันที่ได้จะขับรถเอฟวันแม้เพียงครั้งเดียวในชีวิต ออกมายืนยันว่า เวลานี้ยังไม่มีข้อเสนอจากยูเอสเอฟวัน มาถึงตัวเธอ "ยังไม่มีคำพูดใดๆมาถึงตัวฉันเลย พวกเขายังไม่ได้ติดต่อเข้ามา ฉันรู้สึกเฉยๆกับข่าวที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ดีฉันยังไม่เคยมีประสบการณ์ขับรถแข่งในสนามดังๆของโลก ต้องมารอดูกันว่าพวกเขา(ยูเอสเอฟวัน)จะคิดเช่นไร บางทีพวกเขาอาจจะทาบทามตัวฉันไปขับให้จริงๆก็เป็นได้ แต่เวลานี้ฉันยังสนุกกับการขับในอินดีคาร์ ซีรีส์ ในประเทศอยู่"
แม้ว่าที่ผ่านมา จะมีเสียงเตือนจาก เนลสัน ปิเก ตำนานนักซิ่งบราซิเลียน ผ่านไปยังดานิกาว่า คอนเซปของสนามของอินดีคาร์ ที่เป็นสนามรูปวงรี แตกต่างจากเซอร์กิตที่มีโค้งซ้าย-ขวาในเอฟวันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นเรื่องยากสำหรับนักขับหญิงอย่างเธอ รวมถึงแชมป์อินดีฯฝ่ายชายหลายคนก็ล้มเหลวไม่เป็นท่ามาแล้วในฟอร์มูลา วัน
แต่กระนั้น เชื่อแน่ว่าบรรดาสปอนเซอร์ รวมไปถึงผู้ดูแลสิทธิประโยชน์อย่างเอคเคิลสโตน รวมถึงแฟนๆทุกคน คงยินดีไม่น้อยหาก ดานิกา แพทริก มีชื่อออกสตาร์ทในกริดร่วมกับนักขับชายเป็นครั้งแรก ในอีก 2 ปีข้างหน้า
