เฟอร์นานโด ตอร์เรส สวมบทพระเอกตัวจริงให้กับ ลิเวอร์พูล อีกครั้งด้วยการลุกจากม้านั่งสำรองลงมาโขกประตูชัยช่วงทดเวลาบาดเจ็บช่วยให้แซง ปอร์ทสมัธ คว้าชัย 3-2 กลับไปรั้งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอย่างน้อย 24 ชั่วโมง
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552
ปอร์ทสมัธ 2–3 ลิเวอร์พูล
คู่สุดท้ายของคืนวันเสาร์ ปอร์ทสมัธ เปิดรังแฟร็ตตัน ปาร์ค ดวลกับ ลิเวอร์พูล เกมนี้เจ้าถิ่นส่งแข้งใหม่อย่าง อันเกลอส บาซินาส ลงคุมเกมร่วมกับ เฮย์เดน มัลลินส์ แต่ไม่สามารถใช้งาน เจอร์เมน เพนแนนท์ ได้ เนื่องจากติดข้อตกลงในสัญญายืมตัวจากหงส์แดง ส่วนทีมเยือนจัดเซนเตอร์ฮาล์ฟลงพร้อมกัน 3 คน โดยให้ ดาวิด เอ็นก็อก ล่าตาข่ายแทน เฟอร์นานโด ตอร์เรส ที่นั่งสำรอง
เริ่มเกมมาได้เพียง 6 นาที ปอมปีย์ก็ทักทายก่อนจากจังหวะวางบอลยาวของ โซล แคมป์เบลล์ ให้ เดวิด นูเจนท์ ตามไปเอาบอลแถวกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วตวัดมาตรงกลางให้ ปีเตอร์ เคราช์ เข้าฮอส แต่แปไม่ดีเท่าที่ควรจึงถูก โฮเซ เรนา ล้มตัวคว้าไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น
ถัดมา 2 นาที อาคันตุกะจากเมอร์ซีย์ไซด์มีลุ้นใกล้เคียงบ้างโดย อัลบาโร อาร์เบลัว เติมเกมขึ้นมาทางขวาก่อนเคาะเข้าเขตโทษให้ ยอสซี เบนายูน ล้มตัวยิงตามน้ำทันที ทว่าจังหวะซัดดันลื่นเสียหลักลูกจึงไปเข้าข้างตาข่าย จากนั้นนาทีที่ 11 ฟาบิโอ ออเรลิโอ ปั่นฟรีคิกระยะหวังผล บอลโค้งไปแฉลบเสาสองออกหลังอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 20 ฌอน เดวิส ได้ส่องฟรีคิกข้ามคาน ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะเกือบได้ประตูในนาทีที่ 26 โดย ฮาเวียร์ มาสเชราโน ได้บอลทางฝั่งซ้ายแล้วพลิกหนี เคราช์ ก่อนตะบันเต็มข้อกว่า 30 หลา ลูกติดไซด์ก้อย แต่ เดวิด เจมส์ ยังพุ่งปัดด้วยปลายมือออกไปได้ ล่วงมาถึงนาทีที่ 37 ปอร์ทสมัธ บอมบ์โด่งจากแดนหลังให้ นูเจนท์ เกี่ยวบอลลงก่อนจ่ายให้ เคราช์ ฮาล์ฟวอลเลย์จากหน้าเขตโทษ ลูกเหินข้ามคานออกไปอีก ก่อนจบ 45 นาทีแรกโดยเสมอกัน 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง โทนี อดัมส์ กุนซือปอมปีย์ที่กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักแก้เกมด้วยการส่ง นิโก ครานชาร์ ลงมาทำเกมแทน เฮย์เดน มัลลินส์ ขณะที่หงส์แดงก็ปรับหมากบ้างโดย ราฟาเอล เบนิเตซ ปล่อย เดิร์ก เคาท์ ลงมาล่าตาข่ายแทน เอ็นก็อก ที่เล่นไม่ออก
ถึงนาทีที่ 59 ทีมเยือนพลาดการทะลวงตาข่ายขึ้นนำอย่างน่าเสียดายสุดๆ เมื่อ เบนายูน เลี้ยงหนีผู้เล่นเจ้าถิ่นจากกลางสนามมาได้ 2 คน ก่อนจิ้มให้ เคาท์ ที่เติมมาทางขวาปาดเรียดเข้ากลางหนีมือ เจมส์ ไปแล้ว แต่ ไรอัน บาเบล กลับสอดเข้ามาแปวืดไม่โดนบอลอย่างเหลือเชื่อ
เมื่อทำประตูไม่ได้ ปอร์ทสมัธ จึงจัดการลงโทษ ลิเวอร์พูล ด้วยการยิงนำ 1-0 ในนาทีที่ 62 เมื่อ เคราช์ ไหลทะลุช่องให้ นูเจนท์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปแปลอดแขน เรนา ตุงตาข่าย จากนั้น ราฟา แก้เกมครั้งที่ 2 โดยให้ ชาบี อลอนโซ ลงมาแทน อันเดรีย ดอสเซนา ที่ยังทำผลงานได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
กระทั่งนาทีที่ 69 หงส์แดงสามารถตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ เมื่อ เคราช์ จ่ายคืนหลังไม่ดี เคาท์ รอจังหวะเข้าไปฉกบอลทำให้ เจมส์ ต้องล้มตัวปัด ผู้ตัดสิน ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ จึงเป่าให้เป็นลูกโทษ 2 จังหวะในเขตโทษ ซึ่ง อลอนโซ เขี่ยสั้นๆ ให้ ออเรลิโอ กดเต็มหลังเท้าผ่าน ครานชาร์ ที่ยืนคุมเสาแรกเข้าไปอย่างเด็ดขาด
ถึงนาทีที่ 75 เคาท์ หลุดเข้าไปส่งลูกหนังซุกก้นตาข่าย แต่ไม่เป็นประตูเนื่องจากกองหน้าชาวดัตช์ถูกจับล้ำหน้า ก่อนที่ เฟอร์นานโด ตอร์เรส จะลงมาเป็นไพ่ใบสุดท้ายแทน บาเบล ทว่า ปอมปีย์นำอีกครั้งเป็น 2-1 โดย นาเดียร์ เบลฮัดจ์ ตักฟรีคิกจากฝั่งขวาให้ เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน โถมตัวโขกเต็มศีรษะบอลกระดอนพื้นผ่าน เรนา เข้าไปในนาทีที่ 78
กระนั้น หงส์แดงยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ก่อนจะตีเสมอ 2-2 ได้ในนาทีที่ 85 เมื่อ ซิลแว็ง ดิสแต็ง หวดสกัดวืดถูก ตอร์เรส เอาบอลไปเปิดติดมาเข้าทาง เคาท์ แตะหาช่องยิงยัดมุมแคบผ่านมือ เจมส์ แบบสุดสนั่น จากนั้น ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูชัยในช่วงทดเจ็บจากการต่อบอลไหลลื่นทางซ้าย ก่อนที่ เบนายูน จะหยอดให้ ตอร์เรส โหม่งเต็มแรง เจมส์ ปัดไม่อยู่บอลทะลักเข้าไป จบเกมหงส์แดงบุกมาชนะสุดระทึก 3-2 เก็บเพิ่มเป็น 54 คะแนน แซง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ส่วน ปอร์ทสมัธ ยังอยู่ที่ 16 มี 24 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ – เดวิด เจมส์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน, อันเกลอส บาซินาส, เฮย์เดน มัลลินส์, ฌอน เดวิส, นาเดียร์ เบลฮัดจ์, เดวิด นูเจนท์, ปีเตอร์ เคราช์
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี คาร์ราเกอร์, ดาเนียล แอกเกอร์, อันเดรีย ดอสเซนา, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ยอสซี เบนายูน, ไรอัน บาเบล, ดาวิด เอ็นก็อก
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ซิตี ชนะ มิดเดิลสโบรช์ 1-0 (เคร็ก เบลลามี 1-0 น.52)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แพ้ แอสตัน วิลลา 0-2 (เจมส์ มิลเนอร์ 0-1 น.27), (กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ 0-2 น.90)
เชลซี เสมอ ฮัลล์ ซิตี 0-0
เอฟเวอร์ตัน ชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 3-0 (มิเกล อาร์เตตา 1-0 จุดโทษ น.40), (โจ 2-0 น.49), (โจ 3-0 จุดโทษ น.90)
ซันเดอร์แลนด์ ชนะ สโตค ซิตี 2-0 (เคนวีน โจนส์ 1-0 น.78), (เดวิด ฮีลี 2-0 น.90)
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน แพ้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-3 (เดเมียน ดัฟฟ์ 0-1 น.2), (มาร์ค-อองตวน ฟอร์จูน 1-1 น.4), (ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส 1-2 น.9), (สตีเวน เทย์เลอร์ 1-3 น.41), (มาร์ค-อองตวน ฟอร์จูน 2-3 น.73)
วีแกน แอธเลติก เสมอ ฟูแลม 0-0
ปอร์ทสมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 2-3 (เดวิด นูเจนท์ 1-0 น.62), (ฟาบิโอ ออเรลิโอ 1-1 น.69), (เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน 2-1 น.78), (เดิร์ก เคาท์ 2-2 น.85), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 2-3 น.90)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2552
ปอร์ทสมัธ 2–3 ลิเวอร์พูล
คู่สุดท้ายของคืนวันเสาร์ ปอร์ทสมัธ เปิดรังแฟร็ตตัน ปาร์ค ดวลกับ ลิเวอร์พูล เกมนี้เจ้าถิ่นส่งแข้งใหม่อย่าง อันเกลอส บาซินาส ลงคุมเกมร่วมกับ เฮย์เดน มัลลินส์ แต่ไม่สามารถใช้งาน เจอร์เมน เพนแนนท์ ได้ เนื่องจากติดข้อตกลงในสัญญายืมตัวจากหงส์แดง ส่วนทีมเยือนจัดเซนเตอร์ฮาล์ฟลงพร้อมกัน 3 คน โดยให้ ดาวิด เอ็นก็อก ล่าตาข่ายแทน เฟอร์นานโด ตอร์เรส ที่นั่งสำรอง
เริ่มเกมมาได้เพียง 6 นาที ปอมปีย์ก็ทักทายก่อนจากจังหวะวางบอลยาวของ โซล แคมป์เบลล์ ให้ เดวิด นูเจนท์ ตามไปเอาบอลแถวกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วตวัดมาตรงกลางให้ ปีเตอร์ เคราช์ เข้าฮอส แต่แปไม่ดีเท่าที่ควรจึงถูก โฮเซ เรนา ล้มตัวคว้าไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น
ถัดมา 2 นาที อาคันตุกะจากเมอร์ซีย์ไซด์มีลุ้นใกล้เคียงบ้างโดย อัลบาโร อาร์เบลัว เติมเกมขึ้นมาทางขวาก่อนเคาะเข้าเขตโทษให้ ยอสซี เบนายูน ล้มตัวยิงตามน้ำทันที ทว่าจังหวะซัดดันลื่นเสียหลักลูกจึงไปเข้าข้างตาข่าย จากนั้นนาทีที่ 11 ฟาบิโอ ออเรลิโอ ปั่นฟรีคิกระยะหวังผล บอลโค้งไปแฉลบเสาสองออกหลังอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 20 ฌอน เดวิส ได้ส่องฟรีคิกข้ามคาน ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะเกือบได้ประตูในนาทีที่ 26 โดย ฮาเวียร์ มาสเชราโน ได้บอลทางฝั่งซ้ายแล้วพลิกหนี เคราช์ ก่อนตะบันเต็มข้อกว่า 30 หลา ลูกติดไซด์ก้อย แต่ เดวิด เจมส์ ยังพุ่งปัดด้วยปลายมือออกไปได้ ล่วงมาถึงนาทีที่ 37 ปอร์ทสมัธ บอมบ์โด่งจากแดนหลังให้ นูเจนท์ เกี่ยวบอลลงก่อนจ่ายให้ เคราช์ ฮาล์ฟวอลเลย์จากหน้าเขตโทษ ลูกเหินข้ามคานออกไปอีก ก่อนจบ 45 นาทีแรกโดยเสมอกัน 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง โทนี อดัมส์ กุนซือปอมปีย์ที่กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักแก้เกมด้วยการส่ง นิโก ครานชาร์ ลงมาทำเกมแทน เฮย์เดน มัลลินส์ ขณะที่หงส์แดงก็ปรับหมากบ้างโดย ราฟาเอล เบนิเตซ ปล่อย เดิร์ก เคาท์ ลงมาล่าตาข่ายแทน เอ็นก็อก ที่เล่นไม่ออก
ถึงนาทีที่ 59 ทีมเยือนพลาดการทะลวงตาข่ายขึ้นนำอย่างน่าเสียดายสุดๆ เมื่อ เบนายูน เลี้ยงหนีผู้เล่นเจ้าถิ่นจากกลางสนามมาได้ 2 คน ก่อนจิ้มให้ เคาท์ ที่เติมมาทางขวาปาดเรียดเข้ากลางหนีมือ เจมส์ ไปแล้ว แต่ ไรอัน บาเบล กลับสอดเข้ามาแปวืดไม่โดนบอลอย่างเหลือเชื่อ
เมื่อทำประตูไม่ได้ ปอร์ทสมัธ จึงจัดการลงโทษ ลิเวอร์พูล ด้วยการยิงนำ 1-0 ในนาทีที่ 62 เมื่อ เคราช์ ไหลทะลุช่องให้ นูเจนท์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปแปลอดแขน เรนา ตุงตาข่าย จากนั้น ราฟา แก้เกมครั้งที่ 2 โดยให้ ชาบี อลอนโซ ลงมาแทน อันเดรีย ดอสเซนา ที่ยังทำผลงานได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
กระทั่งนาทีที่ 69 หงส์แดงสามารถตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ เมื่อ เคราช์ จ่ายคืนหลังไม่ดี เคาท์ รอจังหวะเข้าไปฉกบอลทำให้ เจมส์ ต้องล้มตัวปัด ผู้ตัดสิน ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ จึงเป่าให้เป็นลูกโทษ 2 จังหวะในเขตโทษ ซึ่ง อลอนโซ เขี่ยสั้นๆ ให้ ออเรลิโอ กดเต็มหลังเท้าผ่าน ครานชาร์ ที่ยืนคุมเสาแรกเข้าไปอย่างเด็ดขาด
ถึงนาทีที่ 75 เคาท์ หลุดเข้าไปส่งลูกหนังซุกก้นตาข่าย แต่ไม่เป็นประตูเนื่องจากกองหน้าชาวดัตช์ถูกจับล้ำหน้า ก่อนที่ เฟอร์นานโด ตอร์เรส จะลงมาเป็นไพ่ใบสุดท้ายแทน บาเบล ทว่า ปอมปีย์นำอีกครั้งเป็น 2-1 โดย นาเดียร์ เบลฮัดจ์ ตักฟรีคิกจากฝั่งขวาให้ เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน โถมตัวโขกเต็มศีรษะบอลกระดอนพื้นผ่าน เรนา เข้าไปในนาทีที่ 78
กระนั้น หงส์แดงยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ก่อนจะตีเสมอ 2-2 ได้ในนาทีที่ 85 เมื่อ ซิลแว็ง ดิสแต็ง หวดสกัดวืดถูก ตอร์เรส เอาบอลไปเปิดติดมาเข้าทาง เคาท์ แตะหาช่องยิงยัดมุมแคบผ่านมือ เจมส์ แบบสุดสนั่น จากนั้น ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูชัยในช่วงทดเจ็บจากการต่อบอลไหลลื่นทางซ้าย ก่อนที่ เบนายูน จะหยอดให้ ตอร์เรส โหม่งเต็มแรง เจมส์ ปัดไม่อยู่บอลทะลักเข้าไป จบเกมหงส์แดงบุกมาชนะสุดระทึก 3-2 เก็บเพิ่มเป็น 54 คะแนน แซง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ส่วน ปอร์ทสมัธ ยังอยู่ที่ 16 มี 24 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ปอร์ทสมัธ – เดวิด เจมส์, เกล็น จอห์นสัน, โซล แคมป์เบลล์, ซิลแว็ง ดิสแต็ง, เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน, อันเกลอส บาซินาส, เฮย์เดน มัลลินส์, ฌอน เดวิส, นาเดียร์ เบลฮัดจ์, เดวิด นูเจนท์, ปีเตอร์ เคราช์
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี คาร์ราเกอร์, ดาเนียล แอกเกอร์, อันเดรีย ดอสเซนา, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, ยอสซี เบนายูน, ไรอัน บาเบล, ดาวิด เอ็นก็อก
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ซิตี ชนะ มิดเดิลสโบรช์ 1-0 (เคร็ก เบลลามี 1-0 น.52)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แพ้ แอสตัน วิลลา 0-2 (เจมส์ มิลเนอร์ 0-1 น.27), (กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ 0-2 น.90)
เชลซี เสมอ ฮัลล์ ซิตี 0-0
เอฟเวอร์ตัน ชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 3-0 (มิเกล อาร์เตตา 1-0 จุดโทษ น.40), (โจ 2-0 น.49), (โจ 3-0 จุดโทษ น.90)
ซันเดอร์แลนด์ ชนะ สโตค ซิตี 2-0 (เคนวีน โจนส์ 1-0 น.78), (เดวิด ฮีลี 2-0 น.90)
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน แพ้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-3 (เดเมียน ดัฟฟ์ 0-1 น.2), (มาร์ค-อองตวน ฟอร์จูน 1-1 น.4), (ปีเตอร์ โลเวนครานด์ส 1-2 น.9), (สตีเวน เทย์เลอร์ 1-3 น.41), (มาร์ค-อองตวน ฟอร์จูน 2-3 น.73)
วีแกน แอธเลติก เสมอ ฟูแลม 0-0
ปอร์ทสมัธ แพ้ ลิเวอร์พูล 2-3 (เดวิด นูเจนท์ 1-0 น.62), (ฟาบิโอ ออเรลิโอ 1-1 น.69), (เฮอร์มัน ไฮร์ดาร์สสัน 2-1 น.78), (เดิร์ก เคาท์ 2-2 น.85), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 2-3 น.90)