แดน กอสลิง กองหลังดาวรุ่งซัดประตูชัย 1-0 ช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 118 ช่วยให้ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน เฉือนเอาชนะ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่เหลือผู้เล่น 10 คนและต้องเสีย สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมจากอาการบาดเจ็บในเกมเอฟเอคัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์
เอฟเวอร์ตัน 1-0 ลิเวอร์พูล
เอฟเวอร์ตัน ของกุนซือ เดวิด มอยส์ ยังคงมีปัญหาผู้เล่นตำแหน่งกองหน้าเมื่อทั้ง ยาคูบู , หลุยส์ ซาฮา และ เจมส์ วอห์น ต่างมีอาการบาดเจ็บอยู่ทำให้ต้องดัน ทิม เคฮิลล์ มิดฟิลด์ชาวออสเตรเลียขึ้นไปแทน ขณะที่ ลิเวอร์พูล ของ ราฟาเอล เบนิเตซ ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเกือบทั้งหมดมี เฟอร์นานโด ตอร์เรส ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าและ สตีเวน เจอร์ราร์ด ทำเกมแดนกลาง
เกมครึ่งแรกผ่านมาถึงนาทีที่ 7 ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อนเมื่อ อลอนโซ เก็บตกบอลจากการสกัดทิ้งออกมาของกองหลังเจ้าถิ่น แต่ลูกยิงของมิดฟิลด์ชาวสเปนจากบริเวณเส้นเขตโทษออกหลังไป อีก 5 นาทีต่อมา เคาท์ หลุดขึ้นมาเปิดบอลจากทางด้านขวาของสนาม แต่ ตอร์เรส เข้าไม่ทัน
แฟนบอลหงส์แดงต้องพบข่าวร้ายเมื่อเกมมาถึงนาทีที่ 15 หลังจาก เจอร์ราร์ด มีอาการบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าจนถูกเปลี่ยนตัวออกไปพร้อมกับส่ง ยอสซี เบนายูน ลงมาแทน ด้าน เอฟเวอร์ตัน หาโอกาสทำเกมบุกขึ้นมาได้อย่างยากลำบากต้องรอจนกระทั่งถึงนาทีที่ 28 เมื่อทีมต่อบอลกันได้สวยหลายจังหวะบริเวณหน้าเขตโทษของทีมเยือนแต่จังหวะสุดท้าย เลห์ตัน เบนส์ ถูก อาร์เบลัว ทำฟาวล์ได้ฟรีคิกแต่ก็ฉวยประโยชน์ไม่ได้อีก
มาถึงนาทีที่ 33 เคาท์ สลัดหนี อาร์เตตา หลุดขึ้นมายิงตรงกรอบเขตโทษแต่ก็ยังไม่เป็นประตูอีกเช่นเดิม อีกสองนาทีต่อมาดาวเตะชาวสเปนของฝั่งเจ้าบ้านได้โอกาสยิงบ้างแต่ก็มาถูก คาร์ราเกอร์ ตามมาบล็อกไว้ได้ทันเช่นกัน ช่วงท้ายทั้งสองทีมเปิดเกมเข้าใส่กันมากขึ้นแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถทำประตูกันได้ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
เกมครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตัน ทำเกมดีขึ้นและมีลุ้นทำประตูในนาทีที่ 57 จาก เคฮิลล์ ได้ยิงฮาล์ฟวอลเลย์ แต่เป็นโชคดีสำหรับนายทวารของทีมเยือนที่ยืนเผลออยู่เพราะบอลเลี้ยวหลุดกรอบออกไป อีก 4 นาทีต่อมา “หงส์แดง” ตอบโต้กลับบ้างเมื่อ อลอนโซ ผ่านบอลให้ ริเอรา หลุดเข้าไปยิงแต่ ฮาวเวิร์ด ทำผลงานดีออกมาบล็อกไว้ได้ทัน
โอกาสใกล้เคียงต่อการทำประตูขึ้นนำมากที่สุดอยู่ที่นาที 72 ซึ่งเป็นทีของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เมื่อ ออสมัน รับบอลได้จาก เคฮิลล์ ก่อนง้างเท้าซัด แต่บอลพุ่งไปชนเสาพลาดอย่างน่าเสียดาย อีกสองนาทีต่อมา ลูกทีมของ เบนิเตซ กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบเรื่องตัวผู้เล่นเมื่อ ลูคัส ทำฟาวล์ เลสคอตต์ ถูกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงออกจากสนามไป
ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เอฟเวอร์ตัน ใช้ความได้เปรียบด้านตัวผู้เล่นทำเกมโหมบุกอย่างหนัก ส่วน ลิเวอร์พูล ลงไปตั้งรับกันทั้งทีม โดยเจ้าถิ่นพยายามโยนบอลโด่งเข้าใส่แต่ก็ไม่สามารถเจาะการป้องกันของคู่แข่งได้ทำให้สุดท้ายหลังทดเวลาบาดเจ็บมา 5 นาที ผู้ตัดสินเป่าจบเกมต้องเข้าไปแข่งช่วงต่อเวลาพิเศษและเป็นลูกทีมของ เดวิด มอยส์ ที่มาได้ประตูชัยในนาทีที่ 118 เมื่อ ฟาน เดอร์ เมย์เด หลุดมาเปิดบอลให้ แดน กอสลิง กองหลังดาวรุ่งยิงจากระยะ 6 หลาส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายให้ เอฟเวอร์ตัน คว้าชัยชนะ 1-0 พร้อมผ่านเข้าสู่รอบ 5 ไปพบกับ แอสตัน วิลลา
ด้านผลการแข่งขันคู่อื่น แอสตัน วิลลา โชว์ฟอร์มเฉียบเมื่อเปิดบ้านเอาชนะ ดอนคาสเตอร์ ไปอย่างไม่ยากเย็น 3-1 โดยเจ้าถิ่นทำประตูออกนำก่อน 2-0 จากการยิงของ สตีฟ ซิดเวลล์ (น.15) และ จอห์น คาร์ริว (น.19) ส่วนทีมเยือนมีความหวังเล็กน้อยหลังจาก เจสัน ไพรซ์ ทำประตูไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 ก่อนจบครึ่งแรก แต่ นาธาน เดลฟูเนสโซ ก็มาซัดย้ำชัยชนะในนาทีที่ 61 ให้ “สิงห์ผงาด” ผ่านเข้ารอบไป ขณะที่คู่ระหว่าง แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส และ ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งเป็นการพบกับของทีมจากศึกพรีเมียร์ ลีก อีกคู่ ผลปรากฏว่า เบนนี แม็คคาร์ธี มาซัดประตูชัย 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 118 ช่วยให้ "กุหลาบไฟ" ผ่านเข้ารอบไป
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด, โทนี ฮิบเบิร์ต, โจเลียน เลสคอตต์, เลห์ตัน เบนส์, ฟิล เนวิลล์, ฟิล จากีลกา, เลออน ออสมัน ,มารูยาน เฟลลายนี, มิเกล อาร์เตตา, สตีเวน พีนาร์, ทิม เคฮิลล์
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, อันเดรีย ดอสเซนา, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, อัลบาโร อาร์เบลัว, ชาบี อลอนโซ ,สตีเวน เจอร์ราร์ด, ลูคัส, อัลเบิร์ต ริเอรา, เดิร์ก เคาท์, เฟอร์นานโด ตอร์เรส
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์
แอสตัน วิลลา ชนะ ดอนคาสเตอร์ 3-1 [1-0 : สตีฟ ซิดเวลล์ น.15], [2-0 : จอห์น คาร์ริว น.19], [2-1 : เจสัน ไพรซ์ น.45], [3-1 : นาธาน เดลฟูเนสโซ น.61]
น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ แพ้ ดาร์บี เคาน์ตี 2-3 [1-0: คริส โคเฮน น.2], [2-0 นาธาน ไทสัน ยิงลูกโทษ น.14:], [2-1 : ร็อบ ฮัลซ์ น.27], [2-2 : พอล กรีน น.60],[2-3 : คริส คอมมอนส์ น.74]
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-1 [0-1 : เดวิด ฮีลีย์ น.7], [1-1 : แอรอน โมโกเอนา น.37], [2-1 : เบนนี แม็คคาธี น.118]
เอฟเวอร์ตัน ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 [1-0 : แดน กอสลิง น.118]
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์
เอฟเวอร์ตัน 1-0 ลิเวอร์พูล
เอฟเวอร์ตัน ของกุนซือ เดวิด มอยส์ ยังคงมีปัญหาผู้เล่นตำแหน่งกองหน้าเมื่อทั้ง ยาคูบู , หลุยส์ ซาฮา และ เจมส์ วอห์น ต่างมีอาการบาดเจ็บอยู่ทำให้ต้องดัน ทิม เคฮิลล์ มิดฟิลด์ชาวออสเตรเลียขึ้นไปแทน ขณะที่ ลิเวอร์พูล ของ ราฟาเอล เบนิเตซ ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเกือบทั้งหมดมี เฟอร์นานโด ตอร์เรส ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าและ สตีเวน เจอร์ราร์ด ทำเกมแดนกลาง
เกมครึ่งแรกผ่านมาถึงนาทีที่ 7 ลิเวอร์พูล ได้ทักทายก่อนเมื่อ อลอนโซ เก็บตกบอลจากการสกัดทิ้งออกมาของกองหลังเจ้าถิ่น แต่ลูกยิงของมิดฟิลด์ชาวสเปนจากบริเวณเส้นเขตโทษออกหลังไป อีก 5 นาทีต่อมา เคาท์ หลุดขึ้นมาเปิดบอลจากทางด้านขวาของสนาม แต่ ตอร์เรส เข้าไม่ทัน
แฟนบอลหงส์แดงต้องพบข่าวร้ายเมื่อเกมมาถึงนาทีที่ 15 หลังจาก เจอร์ราร์ด มีอาการบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าจนถูกเปลี่ยนตัวออกไปพร้อมกับส่ง ยอสซี เบนายูน ลงมาแทน ด้าน เอฟเวอร์ตัน หาโอกาสทำเกมบุกขึ้นมาได้อย่างยากลำบากต้องรอจนกระทั่งถึงนาทีที่ 28 เมื่อทีมต่อบอลกันได้สวยหลายจังหวะบริเวณหน้าเขตโทษของทีมเยือนแต่จังหวะสุดท้าย เลห์ตัน เบนส์ ถูก อาร์เบลัว ทำฟาวล์ได้ฟรีคิกแต่ก็ฉวยประโยชน์ไม่ได้อีก
มาถึงนาทีที่ 33 เคาท์ สลัดหนี อาร์เตตา หลุดขึ้นมายิงตรงกรอบเขตโทษแต่ก็ยังไม่เป็นประตูอีกเช่นเดิม อีกสองนาทีต่อมาดาวเตะชาวสเปนของฝั่งเจ้าบ้านได้โอกาสยิงบ้างแต่ก็มาถูก คาร์ราเกอร์ ตามมาบล็อกไว้ได้ทันเช่นกัน ช่วงท้ายทั้งสองทีมเปิดเกมเข้าใส่กันมากขึ้นแต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถทำประตูกันได้ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
เกมครึ่งหลัง เอฟเวอร์ตัน ทำเกมดีขึ้นและมีลุ้นทำประตูในนาทีที่ 57 จาก เคฮิลล์ ได้ยิงฮาล์ฟวอลเลย์ แต่เป็นโชคดีสำหรับนายทวารของทีมเยือนที่ยืนเผลออยู่เพราะบอลเลี้ยวหลุดกรอบออกไป อีก 4 นาทีต่อมา “หงส์แดง” ตอบโต้กลับบ้างเมื่อ อลอนโซ ผ่านบอลให้ ริเอรา หลุดเข้าไปยิงแต่ ฮาวเวิร์ด ทำผลงานดีออกมาบล็อกไว้ได้ทัน
โอกาสใกล้เคียงต่อการทำประตูขึ้นนำมากที่สุดอยู่ที่นาที 72 ซึ่งเป็นทีของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เมื่อ ออสมัน รับบอลได้จาก เคฮิลล์ ก่อนง้างเท้าซัด แต่บอลพุ่งไปชนเสาพลาดอย่างน่าเสียดาย อีกสองนาทีต่อมา ลูกทีมของ เบนิเตซ กลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบเรื่องตัวผู้เล่นเมื่อ ลูคัส ทำฟาวล์ เลสคอตต์ ถูกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงออกจากสนามไป
ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เอฟเวอร์ตัน ใช้ความได้เปรียบด้านตัวผู้เล่นทำเกมโหมบุกอย่างหนัก ส่วน ลิเวอร์พูล ลงไปตั้งรับกันทั้งทีม โดยเจ้าถิ่นพยายามโยนบอลโด่งเข้าใส่แต่ก็ไม่สามารถเจาะการป้องกันของคู่แข่งได้ทำให้สุดท้ายหลังทดเวลาบาดเจ็บมา 5 นาที ผู้ตัดสินเป่าจบเกมต้องเข้าไปแข่งช่วงต่อเวลาพิเศษและเป็นลูกทีมของ เดวิด มอยส์ ที่มาได้ประตูชัยในนาทีที่ 118 เมื่อ ฟาน เดอร์ เมย์เด หลุดมาเปิดบอลให้ แดน กอสลิง กองหลังดาวรุ่งยิงจากระยะ 6 หลาส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่ายให้ เอฟเวอร์ตัน คว้าชัยชนะ 1-0 พร้อมผ่านเข้าสู่รอบ 5 ไปพบกับ แอสตัน วิลลา
ด้านผลการแข่งขันคู่อื่น แอสตัน วิลลา โชว์ฟอร์มเฉียบเมื่อเปิดบ้านเอาชนะ ดอนคาสเตอร์ ไปอย่างไม่ยากเย็น 3-1 โดยเจ้าถิ่นทำประตูออกนำก่อน 2-0 จากการยิงของ สตีฟ ซิดเวลล์ (น.15) และ จอห์น คาร์ริว (น.19) ส่วนทีมเยือนมีความหวังเล็กน้อยหลังจาก เจสัน ไพรซ์ ทำประตูไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 ก่อนจบครึ่งแรก แต่ นาธาน เดลฟูเนสโซ ก็มาซัดย้ำชัยชนะในนาทีที่ 61 ให้ “สิงห์ผงาด” ผ่านเข้ารอบไป ขณะที่คู่ระหว่าง แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส และ ซันเดอร์แลนด์ ซึ่งเป็นการพบกับของทีมจากศึกพรีเมียร์ ลีก อีกคู่ ผลปรากฏว่า เบนนี แม็คคาร์ธี มาซัดประตูชัย 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 118 ช่วยให้ "กุหลาบไฟ" ผ่านเข้ารอบไป
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด, โทนี ฮิบเบิร์ต, โจเลียน เลสคอตต์, เลห์ตัน เบนส์, ฟิล เนวิลล์, ฟิล จากีลกา, เลออน ออสมัน ,มารูยาน เฟลลายนี, มิเกล อาร์เตตา, สตีเวน พีนาร์, ทิม เคฮิลล์
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, อันเดรีย ดอสเซนา, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, อัลบาโร อาร์เบลัว, ชาบี อลอนโซ ,สตีเวน เจอร์ราร์ด, ลูคัส, อัลเบิร์ต ริเอรา, เดิร์ก เคาท์, เฟอร์นานโด ตอร์เรส
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์
แอสตัน วิลลา ชนะ ดอนคาสเตอร์ 3-1 [1-0 : สตีฟ ซิดเวลล์ น.15], [2-0 : จอห์น คาร์ริว น.19], [2-1 : เจสัน ไพรซ์ น.45], [3-1 : นาธาน เดลฟูเนสโซ น.61]
น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ แพ้ ดาร์บี เคาน์ตี 2-3 [1-0: คริส โคเฮน น.2], [2-0 นาธาน ไทสัน ยิงลูกโทษ น.14:], [2-1 : ร็อบ ฮัลซ์ น.27], [2-2 : พอล กรีน น.60],[2-3 : คริส คอมมอนส์ น.74]
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-1 [0-1 : เดวิด ฮีลีย์ น.7], [1-1 : แอรอน โมโกเอนา น.37], [2-1 : เบนนี แม็คคาธี น.118]
เอฟเวอร์ตัน ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 [1-0 : แดน กอสลิง น.118]