คริสเตียโน โรนัลโด สังหารจุดโทษเป็นประตูชัยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 ยึดบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ต่อไปด้วยช่องว่างที่เพิ่มเป็น 5 คะแนน
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2552
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 0 เอฟเวอร์ตัน
คู่สุดท้ายของพรีเมียร์ลีกประจำวันเสาร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับ เอฟเวอร์ตัน นัดนี้เจ้าถิ่นวาง คาร์ลอส เตเบซ เป็นคู่กองหน้าร่วมกับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ส่วนทีมเยือนจัด ทิม เคฮิลล์ กับ มารูยาน เฟลไลนี ยืนค้ำในแดนหน้า
เปิดฉากมา 4 นาที เฟลไลนี ทำฟาวล์ ไมเคิล คาร์ริค เสียฟรีคิกหน้าเขตโทษ แต่ คริสเตียโน โรนัลโด ซัดไปติดกำแพง จากนั้นนาทีที่ 7 ปาร์ค จี-ซอง ขึ้นเกมทางด้านขวาก่อนเปิดเข้ากลาง บอลกระดอนพื้นทำท่าจะเข้าประตูทางเสาไกล แต่ ทิม ฮาวเวิร์ด ยังปฏิกิริยาไว ล้มตัวปัดสุดปลายมือออกหลังหวุดหวิด
ปิศาจแดงน่าเป็นฝ่ายขึ้นนำอย่างยิ่งในนาทีที่ 12 เมื่อ ปาร์ค สอดเข้ามาเอาบอลในเขตโทษแล้วยิงจังหวะแรกไปเข้าทาง เตเบซ ซัดอีกทีแบบจ่อๆ ทว่า ฮาวเวิร์ด โชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันด้วยเท้าทำให้บอลแฉลบข้ามคานออกไปอย่างน่ายกย่อง
รูปเกมยังเป็นไปแบบวันเวย์ นาทีที่ 26 โรนัลโด หาจังหวะยิงแบบเฉือนๆ บอลผ่านมือ ฮาวเวิร์ด แล้ว แต่ไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย เตเบซ ตามซ้ำดาบสอง แต่ก็ติดบล็อก ฮาวเวิร์ด อีกและเป็นจังหวะล้ำหน้าด้วย จากนั้น โรนัลโด มีโอกาสสับไกนอกเขตโทษในนาทีถัดมา ฮาวเวิร์ด ยังถอยกลับไปปัดข้ามคานได้อีกครั้ง
นาทีที่ 33 โรนัลโด งัดบอลข้าม ฟิล เนวิลล์ และ มิเกล อาร์เตตา ให้ ไมเคิล คาร์ริค พักอกแล้ววอลเลย์ในเขตโทษ ลูกเฉี่ยวเสาแบบน่าหวาดเสียว กระทั่งนาทีที่ 44 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่ อาร์เตตา ไปดัก คาร์ริค ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสิน มาร์ค ฮัลซีย์ เป่าเป็นจุดโทษ ซึ่ง โรนัลโด สังหารเข้าไปกลางประตู หลอก ฮาวเวิร์ด พุ่งผิดทาง ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลังได้ 2 นาทีเศษ ทอฟฟี่สีน้ำเงินมีลุ้นเอาคืนบ้างจากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษ แต่ อาร์เตตา ซัดหลุดกรอบชนิดไม่ใกล้เคียง ก่อนที่จะมีจังหวะปัญหาเกิดขึ้นในนาทีถัดมา เมื่อ โจลีออน เลสคอตต์ ไปกระแทก คาร์ริค ล้มลงในเขตโทษ แต่หนนี้ มาร์ค ฮัลซีย์ ไม่ให้จุดโทษกับเจ้าถิ่น
สตีเวน พีนาร์ พาบอลเข้าไปซัดในนาทีที่ 49 เข้าซอง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 3 นาทีให้หลัง ปาร์ค เปิดเรียดจากกราบขวา เตเบซ โฉบมาเอาบอลก่อนซัดที่เสาแรกออกหลัง จากนั้น เตเบซ มีโอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 55 จากการวางเท้าแปนอกเขตโทษ ทว่าลูกเบาเกินไปถูก ฮาวเวิร์ด ล้มตัวตะครุบอยู่มือ
เกมผ่านมาครบหนึ่งชั่วโมง อาร์เตตา มีจังหวะกดฟรีคิกด้วยลูกเรียด แต่ยังไม่เกินกำลังของ ฟาน เดอร์ ซาร์ ข้ามมานาทีที่ 71 เตเบซ ได้ลองซัดฟรีคิกไปแฉลบกำแพง ทว่าบอลย้อยเข้าหากรอบจนเกือบจะเสียบใต้คาน ทำให้ ฮาวเวิร์ด ต้องออกแรงโดดปัดข้ามคานออกหลังไป
ถึงนาทีที่ 87 ปาร์ค ได้หลุดเข้าไปซัดเหน่งๆ ติดเซฟของ ฮาวเวิร์ด ก่อนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะปิดเกมเอาชนะด้วยสกอร์ 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 53 คะแนน ทิ้งห่าง เชลซี, ลิเวอร์พูล และ แอสตัน วิลลา เพิ่มเป็น 5 คะแนนโดยที่ยังมีโปรแกรมตกค้าง 1 นัด ส่วน เอฟเวอร์ตัน มี 37 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 6 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, แกรี เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, จอห์น โอเชีย, คริสเตียโน โรนัลโด, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, ไมเคิล คาร์ริค, ปาร์ค จี-ซอง, คาร์ลอส เตเบซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
เอฟเวอร์ตัน – ทิม ฮาวเวิร์ด, โทนี ฮิบเบิร์ต, ฟิล ยากีลกา, โจลีออน เลสคอตต์, เลห์ตัน เบนส์, ลีออน ออสแมน, ฟิล เนวิลล์, มิเกล อาร์เตตา, สตีเวน พีนาร์, ทิม เคฮิลล์, มารูยาน เฟลไลนี
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
สโต๊ค ซิตี ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-0 (เจมส์ บีทตี 1-0 น.45)
อาร์เซนอล เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-0
แอสตัน วิลลา เสมอ วีแกน แอธเลติก 0-0
โบลตัน วันเดอเรอร์ส ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-2 (เซบาสเตียง ปุยเกรอนิเยร์ 1-0 น.31), (เควิน เดวีส์ 2-0 น.63), (ดาร์เรน เบนท์ 2-1 น.73), (ดาร์เรน เบนท์ 2-2 น.75), (เควิน เดวีส์ 3-2 น.87)
ฟูแลม ชนะ ปอร์ทสมัธ 3-1 (แอนดี จอห์นสัน 1-0 น.14), (เอริก เนฟแลนด์ 2-0 น.71), (เอริก เนฟแลนด์ 3-0 น.80), (เดวิด นูเจนท์ 3-1 น.84)
ฮัลล์ ซิตี เสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 2-2 (แบร์กนาร์ เมนดี 1-0 น.44), (เจย์ ซิมป์สัน 1-1 น.53), (เคร็ก เฟแกน 2-1 น.69), (คริส บรันท์ 2-2 จุดโทษ น.73)
มิดเดิลสโบรช์ เสมอ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 (คริสเตียโน โรนัลโด 1-0 จุดโทษ น.44)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2552
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 0 เอฟเวอร์ตัน
คู่สุดท้ายของพรีเมียร์ลีกประจำวันเสาร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ต้อนรับ เอฟเวอร์ตัน นัดนี้เจ้าถิ่นวาง คาร์ลอส เตเบซ เป็นคู่กองหน้าร่วมกับ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ส่วนทีมเยือนจัด ทิม เคฮิลล์ กับ มารูยาน เฟลไลนี ยืนค้ำในแดนหน้า
เปิดฉากมา 4 นาที เฟลไลนี ทำฟาวล์ ไมเคิล คาร์ริค เสียฟรีคิกหน้าเขตโทษ แต่ คริสเตียโน โรนัลโด ซัดไปติดกำแพง จากนั้นนาทีที่ 7 ปาร์ค จี-ซอง ขึ้นเกมทางด้านขวาก่อนเปิดเข้ากลาง บอลกระดอนพื้นทำท่าจะเข้าประตูทางเสาไกล แต่ ทิม ฮาวเวิร์ด ยังปฏิกิริยาไว ล้มตัวปัดสุดปลายมือออกหลังหวุดหวิด
ปิศาจแดงน่าเป็นฝ่ายขึ้นนำอย่างยิ่งในนาทีที่ 12 เมื่อ ปาร์ค สอดเข้ามาเอาบอลในเขตโทษแล้วยิงจังหวะแรกไปเข้าทาง เตเบซ ซัดอีกทีแบบจ่อๆ ทว่า ฮาวเวิร์ด โชว์ซูเปอร์เซฟป้องกันด้วยเท้าทำให้บอลแฉลบข้ามคานออกไปอย่างน่ายกย่อง
รูปเกมยังเป็นไปแบบวันเวย์ นาทีที่ 26 โรนัลโด หาจังหวะยิงแบบเฉือนๆ บอลผ่านมือ ฮาวเวิร์ด แล้ว แต่ไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย เตเบซ ตามซ้ำดาบสอง แต่ก็ติดบล็อก ฮาวเวิร์ด อีกและเป็นจังหวะล้ำหน้าด้วย จากนั้น โรนัลโด มีโอกาสสับไกนอกเขตโทษในนาทีถัดมา ฮาวเวิร์ด ยังถอยกลับไปปัดข้ามคานได้อีกครั้ง
นาทีที่ 33 โรนัลโด งัดบอลข้าม ฟิล เนวิลล์ และ มิเกล อาร์เตตา ให้ ไมเคิล คาร์ริค พักอกแล้ววอลเลย์ในเขตโทษ ลูกเฉี่ยวเสาแบบน่าหวาดเสียว กระทั่งนาทีที่ 44 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะที่ อาร์เตตา ไปดัก คาร์ริค ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสิน มาร์ค ฮัลซีย์ เป่าเป็นจุดโทษ ซึ่ง โรนัลโด สังหารเข้าไปกลางประตู หลอก ฮาวเวิร์ด พุ่งผิดทาง ก่อนจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
เข้าสู่ครึ่งหลังได้ 2 นาทีเศษ ทอฟฟี่สีน้ำเงินมีลุ้นเอาคืนบ้างจากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษ แต่ อาร์เตตา ซัดหลุดกรอบชนิดไม่ใกล้เคียง ก่อนที่จะมีจังหวะปัญหาเกิดขึ้นในนาทีถัดมา เมื่อ โจลีออน เลสคอตต์ ไปกระแทก คาร์ริค ล้มลงในเขตโทษ แต่หนนี้ มาร์ค ฮัลซีย์ ไม่ให้จุดโทษกับเจ้าถิ่น
สตีเวน พีนาร์ พาบอลเข้าไปซัดในนาทีที่ 49 เข้าซอง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 3 นาทีให้หลัง ปาร์ค เปิดเรียดจากกราบขวา เตเบซ โฉบมาเอาบอลก่อนซัดที่เสาแรกออกหลัง จากนั้น เตเบซ มีโอกาสอีกครั้งในนาทีที่ 55 จากการวางเท้าแปนอกเขตโทษ ทว่าลูกเบาเกินไปถูก ฮาวเวิร์ด ล้มตัวตะครุบอยู่มือ
เกมผ่านมาครบหนึ่งชั่วโมง อาร์เตตา มีจังหวะกดฟรีคิกด้วยลูกเรียด แต่ยังไม่เกินกำลังของ ฟาน เดอร์ ซาร์ ข้ามมานาทีที่ 71 เตเบซ ได้ลองซัดฟรีคิกไปแฉลบกำแพง ทว่าบอลย้อยเข้าหากรอบจนเกือบจะเสียบใต้คาน ทำให้ ฮาวเวิร์ด ต้องออกแรงโดดปัดข้ามคานออกหลังไป
ถึงนาทีที่ 87 ปาร์ค ได้หลุดเข้าไปซัดเหน่งๆ ติดเซฟของ ฮาวเวิร์ด ก่อนที่ แมนฯ ยูไนเต็ด จะปิดเกมเอาชนะด้วยสกอร์ 1-0 เก็บเพิ่มเป็น 53 คะแนน ทิ้งห่าง เชลซี, ลิเวอร์พูล และ แอสตัน วิลลา เพิ่มเป็น 5 คะแนนโดยที่ยังมีโปรแกรมตกค้าง 1 นัด ส่วน เอฟเวอร์ตัน มี 37 คะแนนเท่าเดิม รั้งอันดับ 6 ของตาราง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, แกรี เนวิลล์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, จอห์น โอเชีย, คริสเตียโน โรนัลโด, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, ไมเคิล คาร์ริค, ปาร์ค จี-ซอง, คาร์ลอส เตเบซ, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
เอฟเวอร์ตัน – ทิม ฮาวเวิร์ด, โทนี ฮิบเบิร์ต, ฟิล ยากีลกา, โจลีออน เลสคอตต์, เลห์ตัน เบนส์, ลีออน ออสแมน, ฟิล เนวิลล์, มิเกล อาร์เตตา, สตีเวน พีนาร์, ทิม เคฮิลล์, มารูยาน เฟลไลนี
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
สโต๊ค ซิตี ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี 1-0 (เจมส์ บีทตี 1-0 น.45)
อาร์เซนอล เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-0
แอสตัน วิลลา เสมอ วีแกน แอธเลติก 0-0
โบลตัน วันเดอเรอร์ส ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-2 (เซบาสเตียง ปุยเกรอนิเยร์ 1-0 น.31), (เควิน เดวีส์ 2-0 น.63), (ดาร์เรน เบนท์ 2-1 น.73), (ดาร์เรน เบนท์ 2-2 น.75), (เควิน เดวีส์ 3-2 น.87)
ฟูแลม ชนะ ปอร์ทสมัธ 3-1 (แอนดี จอห์นสัน 1-0 น.14), (เอริก เนฟแลนด์ 2-0 น.71), (เอริก เนฟแลนด์ 3-0 น.80), (เดวิด นูเจนท์ 3-1 น.84)
ฮัลล์ ซิตี เสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 2-2 (แบร์กนาร์ เมนดี 1-0 น.44), (เจย์ ซิมป์สัน 1-1 น.53), (เคร็ก เฟแกน 2-1 น.69), (คริส บรันท์ 2-2 จุดโทษ น.73)
มิดเดิลสโบรช์ เสมอ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 0-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 (คริสเตียโน โรนัลโด 1-0 จุดโทษ น.44)