“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ออกอาการฝืดบุกเจ๊า “ช่างปั้นหม้อ” สโตค ซิตี 0-0 แม้ยังนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่พลาดโอกาสทองฉีกหนี “สิงห์บลูส์” เชลซี และ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สำเร็จ
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สโตค ซิตี 0-0 ลิเวอร์พูล
ราฟาเอล เบนิเตซ หวังนำทัพ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกจิกสามแต้มถึงถิ่น “ช่างปั้นหม้อ” สโตค ซิตี เพื่อทำคะแนนฉีกทั้ง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกไป แต่เกมนี้ทีมเยือนให้ทั้ง เฟอร์นานโด ตอร์เรส และ ร็อบบี คีน อยู่ข้างสนาม แต่แผงรับได้ มาร์ติน สเคอร์เทล ฟิตกลับมาค้ำ ด้านเจ้าถิ่นประเดิมใช้ แม็ทธิว เอเธอริงตัน ปีกซ้ายตัวใหม่ทันทีเพื่อโยนบอลให้ เดฟ คิตสัน กับ ริชาร์ด เครสส์เวลล์ ลุ้นสกอร์
เริ่มเกมการแข่งขันเป็น สโตค ซิตี ได้ลุ้นก่อนจากฟรีคิกระยะหวังผล 25 หลากลางประตูแต่ เกล็น วีแลน ที่ได้เล่นแทน ซาลิฟ ดิเยา ซึ่งบาดเจ็บช่วงวอร์มอัพปั่นบอลข้ามคานไป จากนั้นเป็น ลิเวอร์พูล ที่ค่อยๆ ครองเกมได้เหนือกว่าเกือบขึ้นนำในนาทีที่ 8 อัลเบิร์ต ริเอรา เปิดจากซ้ายให้ เดิร์ก เคาท์ โฉบโหม่งได้ก่อนที่จะถึง โธมัส โซเรนเซน แต่บอลหลุดกรอบไปไม่ห่าง แต่อีกสี่นาทีถัดมาแฟนๆ เจ้าถิ่นเกือบได้เฮ รอรี ดีแลป หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงจ่อๆ บอลกระแทกคานออกมาเต็มๆ
เกมผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก จังหวะสกัดบอลไม่ขาดของแผงหรับ “ช่างปั้นหม้อ” เกือบโดนลงโทษแต่ เคาท์ ยิงมุมแคบไปติดบล็อก โซเรนเซน ที่ปิดมุมได้ดี ครึ่งชั่วโมงพอดี “เดอะ ค็อป” เสียววูบเมื่อเห็น ไรอัน ชอว์ครอสส์ ขึ้นโหม่งโล่งๆ ในกรอบโทษเข้าประตูไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ “ช่างปั้นหม้อ” เสียก่อน จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังเสมอกัน 0-0 โดย สโตค มีฮึดสู้ได้ดีทีเดียว
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล เร่งเกมหวังเบิกประตูแรก แต่ความผิดพลาดของ โฮเซ เรนา ที่เตะเปิดบอลไม่ดีไปเข้าทาง เดฟ คิตสัน ลากแตะหลบนายทวารทีมเยือนก่อนปาดยิงบอลเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย เกมไม่ดีขึ้น ราฟาเอล เบนิเตซ สั่งการจากบนอัฒจันทร์ให้ปล่อย เฟอร์นานโด ตอร์เรส ลงมาล่าตาข่ายพร้อมกับถอด ริเอรา ที่ดูเงียบไปออกมา
นาทีที่ 67 “หงส์แดง” ได้ลุ้น เคาท์ กระดกบอลต่อเข้ากรอบโทษ ลูคัส เลวา หลุดกับดักล้ำหน้าแต่ดันไปโหม่งตั้งไปเสาสองให้ ซามี ฮูเปีย เติมมายิงไม่เข้ากรอบ ทั้งๆ ที่ตัวเองมีโอกาสจ่อๆ แล้ว สิบห้านาทีสุดท้ายทีเด็ดของ สโตค เกือบได้ผล ดีแลป ทุ่มไกลให้ คิตสัน โฉบโหม่งแต่บอลเฉียดคานไปแบบได้ลุ้นที่สุด จากนั้น เบนิเตซ ปรับหมากอีกครั้งใส่ ไรอัน บาเบล มาเพิ่มพลังรุกริมเส้นแทน ยอสซี เบนายูน
แต่ยังเป็นเจ้าถิ่นที่ได้ลุ้น วีแลน ปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลาคราวนี้เฉียดสามเหลี่ยมไปนิดเดียว ท้ายเกม สตีเวน เจอร์ราร์ด ซึ่งเกมนี้ได้ปั้นเกมค่อนข้างน้อยซัดฟรีคิกกึ่งยิงกึ่งผ่านลอยไปแฉลบคานออกหลังไป ช่วงทดเจ็บ ตอร์เรส สบโอกาสโหม่งชงให้ เจอร์ราร์ด วิ่งเข้าไปจิ้มบอลชนเสาออกไป จนแล้วจนรอดครบ 90 นาที สโตค ทำสำเร็จยันเสมอ “หงส์แดง” จ่าฝูงแบบไม่มีใครทำประตูกันได้
จากผลเสมอนัดนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล มีเพิ่มเป็น 46 คะแนนจากการลงสนาม 21 นัด ขึ้นหน้า เชลซี รองจ่าฝูง 4 แต้มแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด โดยพรุ่งนี้ “สิงห์บลูส์” มีคิวเยือนถิ่น “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ของตาราง ด้าน สโตค ขยับขึ้นที่ 17 มีอยู่ 21 คะแนน แต่ลงแข่งมากกว่า “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับ 18 หนึ่งนัด
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
สโตค : โธมัส โซเรนเซน , แอนดี วิลกินสัน , ไรอัน ชอว์ครอสส์ , อับดูลาย ฟาย , แดนนี ฮิกกินบอตแธม , รอรี ดีแลป , เกล็น วีแลน , ออมดี ฟาย , แม็ทธิว เอเธอริงตัน , ริชาร์ด เครสส์เวลล์ , เดฟ คิตสัน
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , เจมี คาร์ราเกอร์ , ซามี ฮูเปีย , มาร์ติน สเคอร์เทล , ฟาบิโอ ออเรลิโอ , ยอสซี เบนายูน , ลูคัส เลวา , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , อัลเบิร์ต ริเอรา , สตีเวน เจอร์ราร์ด , เดิร์ค เคาท์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
แอสตัน วิลลา 2-1 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : เคอร์ติส เดวีส์ (น.18) , 2-0 : สกอตต์ คาร์สัน (ทำเข้าประตูตัวเอง น.41) , 2-1 : เจมส์ มอร์ริสัน (น.49)]
อาร์เซนอล 1-0 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[1-0 : นิคลาส เบนด์ทเนอร์ (น.84)]
เอฟเวอร์ตัน 2-0 ฮัลล์ ซิตี
[1-0 : มารูยาน เฟลไลนี (น.18) , 2-0 : มิเกล อาร์เตตา (น.45)]
มิดเดิลสโบรช์ 1-1 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 : อฟองโซ อัลเวส (น.45) , 2-0 : เคนวิน โจนส์ (น.82)]
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-2 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[1-0 : ไมเคิล โอเวน (น.19) , 1-1 : เคร็ก เบลลามี (น.29) , 1-2 : คาร์ตัน โคล (น.55) , 2-2 : แอนดรูว์ คาร์โรลล์ (น.78)]
สโตค ซิตี 0-0 ลิเวอร์พูล
หมายเหตุ : ฟูแลม – แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ ปอร์ทสมัธ – แมนเชสเตอร์ ซิตี (ยกเลิกการแข่งขัน สภาพสนามไม่พร้อมเพราะมีหิมะตกลงมาอย่างหนัก)
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สโตค ซิตี 0-0 ลิเวอร์พูล
ราฟาเอล เบนิเตซ หวังนำทัพ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกจิกสามแต้มถึงถิ่น “ช่างปั้นหม้อ” สโตค ซิตี เพื่อทำคะแนนฉีกทั้ง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกไป แต่เกมนี้ทีมเยือนให้ทั้ง เฟอร์นานโด ตอร์เรส และ ร็อบบี คีน อยู่ข้างสนาม แต่แผงรับได้ มาร์ติน สเคอร์เทล ฟิตกลับมาค้ำ ด้านเจ้าถิ่นประเดิมใช้ แม็ทธิว เอเธอริงตัน ปีกซ้ายตัวใหม่ทันทีเพื่อโยนบอลให้ เดฟ คิตสัน กับ ริชาร์ด เครสส์เวลล์ ลุ้นสกอร์
เริ่มเกมการแข่งขันเป็น สโตค ซิตี ได้ลุ้นก่อนจากฟรีคิกระยะหวังผล 25 หลากลางประตูแต่ เกล็น วีแลน ที่ได้เล่นแทน ซาลิฟ ดิเยา ซึ่งบาดเจ็บช่วงวอร์มอัพปั่นบอลข้ามคานไป จากนั้นเป็น ลิเวอร์พูล ที่ค่อยๆ ครองเกมได้เหนือกว่าเกือบขึ้นนำในนาทีที่ 8 อัลเบิร์ต ริเอรา เปิดจากซ้ายให้ เดิร์ก เคาท์ โฉบโหม่งได้ก่อนที่จะถึง โธมัส โซเรนเซน แต่บอลหลุดกรอบไปไม่ห่าง แต่อีกสี่นาทีถัดมาแฟนๆ เจ้าถิ่นเกือบได้เฮ รอรี ดีแลป หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงจ่อๆ บอลกระแทกคานออกมาเต็มๆ
เกมผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก จังหวะสกัดบอลไม่ขาดของแผงหรับ “ช่างปั้นหม้อ” เกือบโดนลงโทษแต่ เคาท์ ยิงมุมแคบไปติดบล็อก โซเรนเซน ที่ปิดมุมได้ดี ครึ่งชั่วโมงพอดี “เดอะ ค็อป” เสียววูบเมื่อเห็น ไรอัน ชอว์ครอสส์ ขึ้นโหม่งโล่งๆ ในกรอบโทษเข้าประตูไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ “ช่างปั้นหม้อ” เสียก่อน จบ 45 นาทีแรก สกอร์ยังเสมอกัน 0-0 โดย สโตค มีฮึดสู้ได้ดีทีเดียว
ลงมาลุยต่อครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล เร่งเกมหวังเบิกประตูแรก แต่ความผิดพลาดของ โฮเซ เรนา ที่เตะเปิดบอลไม่ดีไปเข้าทาง เดฟ คิตสัน ลากแตะหลบนายทวารทีมเยือนก่อนปาดยิงบอลเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย เกมไม่ดีขึ้น ราฟาเอล เบนิเตซ สั่งการจากบนอัฒจันทร์ให้ปล่อย เฟอร์นานโด ตอร์เรส ลงมาล่าตาข่ายพร้อมกับถอด ริเอรา ที่ดูเงียบไปออกมา
นาทีที่ 67 “หงส์แดง” ได้ลุ้น เคาท์ กระดกบอลต่อเข้ากรอบโทษ ลูคัส เลวา หลุดกับดักล้ำหน้าแต่ดันไปโหม่งตั้งไปเสาสองให้ ซามี ฮูเปีย เติมมายิงไม่เข้ากรอบ ทั้งๆ ที่ตัวเองมีโอกาสจ่อๆ แล้ว สิบห้านาทีสุดท้ายทีเด็ดของ สโตค เกือบได้ผล ดีแลป ทุ่มไกลให้ คิตสัน โฉบโหม่งแต่บอลเฉียดคานไปแบบได้ลุ้นที่สุด จากนั้น เบนิเตซ ปรับหมากอีกครั้งใส่ ไรอัน บาเบล มาเพิ่มพลังรุกริมเส้นแทน ยอสซี เบนายูน
แต่ยังเป็นเจ้าถิ่นที่ได้ลุ้น วีแลน ปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลาคราวนี้เฉียดสามเหลี่ยมไปนิดเดียว ท้ายเกม สตีเวน เจอร์ราร์ด ซึ่งเกมนี้ได้ปั้นเกมค่อนข้างน้อยซัดฟรีคิกกึ่งยิงกึ่งผ่านลอยไปแฉลบคานออกหลังไป ช่วงทดเจ็บ ตอร์เรส สบโอกาสโหม่งชงให้ เจอร์ราร์ด วิ่งเข้าไปจิ้มบอลชนเสาออกไป จนแล้วจนรอดครบ 90 นาที สโตค ทำสำเร็จยันเสมอ “หงส์แดง” จ่าฝูงแบบไม่มีใครทำประตูกันได้
จากผลเสมอนัดนี้ทำให้ ลิเวอร์พูล มีเพิ่มเป็น 46 คะแนนจากการลงสนาม 21 นัด ขึ้นหน้า เชลซี รองจ่าฝูง 4 แต้มแต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด โดยพรุ่งนี้ “สิงห์บลูส์” มีคิวเยือนถิ่น “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 4 ของตาราง ด้าน สโตค ขยับขึ้นที่ 17 มีอยู่ 21 คะแนน แต่ลงแข่งมากกว่า “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับ 18 หนึ่งนัด
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
สโตค : โธมัส โซเรนเซน , แอนดี วิลกินสัน , ไรอัน ชอว์ครอสส์ , อับดูลาย ฟาย , แดนนี ฮิกกินบอตแธม , รอรี ดีแลป , เกล็น วีแลน , ออมดี ฟาย , แม็ทธิว เอเธอริงตัน , ริชาร์ด เครสส์เวลล์ , เดฟ คิตสัน
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , เจมี คาร์ราเกอร์ , ซามี ฮูเปีย , มาร์ติน สเคอร์เทล , ฟาบิโอ ออเรลิโอ , ยอสซี เบนายูน , ลูคัส เลวา , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , อัลเบิร์ต ริเอรา , สตีเวน เจอร์ราร์ด , เดิร์ค เคาท์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันเสาร์
แอสตัน วิลลา 2-1 เวสต์บรอมวิช อัลเบียน
[1-0 : เคอร์ติส เดวีส์ (น.18) , 2-0 : สกอตต์ คาร์สัน (ทำเข้าประตูตัวเอง น.41) , 2-1 : เจมส์ มอร์ริสัน (น.49)]
อาร์เซนอล 1-0 โบลตัน วันเดอเรอร์ส
[1-0 : นิคลาส เบนด์ทเนอร์ (น.84)]
เอฟเวอร์ตัน 2-0 ฮัลล์ ซิตี
[1-0 : มารูยาน เฟลไลนี (น.18) , 2-0 : มิเกล อาร์เตตา (น.45)]
มิดเดิลสโบรช์ 1-1 ซันเดอร์แลนด์
[1-0 : อฟองโซ อัลเวส (น.45) , 2-0 : เคนวิน โจนส์ (น.82)]
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-2 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด
[1-0 : ไมเคิล โอเวน (น.19) , 1-1 : เคร็ก เบลลามี (น.29) , 1-2 : คาร์ตัน โคล (น.55) , 2-2 : แอนดรูว์ คาร์โรลล์ (น.78)]
สโตค ซิตี 0-0 ลิเวอร์พูล
หมายเหตุ : ฟูแลม – แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ ปอร์ทสมัธ – แมนเชสเตอร์ ซิตี (ยกเลิกการแข่งขัน สภาพสนามไม่พร้อมเพราะมีหิมะตกลงมาอย่างหนัก)