โรบินโญ กองหน้าบราซิเลียนช่วยชีวิต แมนเชสเตอร์ ซิตี ได้อีกครั้ง หลังหลุดเข้าไปพังประตูตีเสมอ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เป็น 2-2 ในช่วงทดเจ็บ ทั้งที่ตามหลังก่อน 2 ลูก เก็บ 1 แต้มกลับบ้านได้อย่างฉิวเฉียด
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2551
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2 – 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี
คู่สุดท้ายของเกมพรีเมียร์ลีกประจำวันอาทิตย์ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เฝ้าถิ่นอีวูด ปาร์ค ปะทะกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี เกมนี้ แซม อัลลาร์ไดซ์ กุนซือเจ้าบ้านยังไว้ใจในคู่หัวหอก เจสัน โรเบิร์ตส กับ เบนนี แม็คคาร์ธี ขณะที่ทีมเยือนก็ยึด โรบินโญ กับ เฟลิเป ไซเซโด คอยทำหน้าที่ล่าตาข่ายเหมือนนัดที่ถล่ม ฮัลล์ ซิตี 5-1
เริ่มเกมมาได้ไม่ทันไร กุหลาบไฟเกือบเสียท่าให้กับเรือใบสีฟ้าตั้งแต่นาทีที่ 2 จากลูกเตะมุมด้านซ้ายที่ ไมเคิล บอลล์ เปิดโค้งมาให้ เนดุม โอนัวฮา โหม่งชงต่อมาที่ ไซเซโด ทว่า หัวหอกชาวเอกวาดอร์กลับจิ้มบอลข้ามคานอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นนาทีที่ 9 เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน ปั่นฟรีคิกระยะหวังผลไปแฉลบแขน สตีเฟน ไอร์แลนด์ ในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสิน ฮาวเวิร์ค เว็บบ์ ยังนิ่ง แม้ผู้เล่นกุหลาบไฟจะพยายามประท้วงเอาจุดโทษก็ตาม ถัดมานาทีเดียว โรบินโญ พาบอลเข้าเขตโทษถูก อังเดร ออยเยอร์ แซะล้มลง แต่ เว็บบ์ ก็ปล่อยให้เกมดำเนินต่อไปอีกครั้ง
นาทีที่ 11 ไซเซโด ได้บอลตรงกลางสนามก่อนกระชากออกทางซ้ายจนถึงกรอบเขตโทษแล้วเปิดไปเสาสองให้ โรบินโญ สอดเข้ามาโหม่งหลุดกรอบออกหลังอย่างน่าหวาดเสียว จากนั้นนาทีที่ 23 แว็งซ็องต์ กอมปานี ล็อกหาช่องซัดจากแถวสองส่งลูกเหินข้ามคานไปไกล
เข้าสู่นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แบล็คเบิร์น ที่มีโอกาสจะแจ้งน้อยกว่ามาได้ประตูนำ 1-0 เริ่มจาก เอเมอร์ตัน ผ่านบอลจากกราบขวามาหน้าเขตโทษ เจสัน โรเบิร์ตส พยายามไขว้หลบกองหลัง แมนฯ ซิตี หวังพลิกเข้าไปยิง แต่ลูกมาเข้าทางปืนของ เบนนี แม็คคาร์ธี แปตามน้ำผ่านมือ โจ ฮาร์ท เสียบเสาแรก ก่อนจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาลุยต่อในครึ่งหลัง เรือใบสีฟ้าเกือบพังประตูตีเสมอได้ในนาทีที่ 51 เมื่อ เอลาโน บลูแมร์ วางบอลให้ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ โหม่งเช็ดตามน้ำส่งลูกไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ สตีเฟน ไอร์แลนด์ จะกดจากเส้นเขตโทษเหินข้ามคานในจังหวะต่อมา
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นลงไปเน้นตั้งรับเต็มสูบ ขณะที่ทีมเยือนก็โหมบุกอย่างหนักจนเกือบทวงคืนได้แบบโชคช่วยจากจังหวะที่ คริสโตเฟอร์ แซมบา เบียดมากับ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ก่อนจิ้มบอลเข้าหาประตูตัวเองแต่ยังเคราะห์ดีที่ลอยโด่งข้ามคาน
กุหลาบไฟหนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 84 จากจังหวะที่ แซมบา ขึ้นเบียดเอาบอลได้แถวหน้าเขตโทษก่อนกระดกต่อให้ โรเบิร์ตส โหม่งที่เสาสองตุงตาข่าย ทว่า สเตอร์ริดจ์ ตีไข่แตกให้ทีมเยือนเป็น 2-1 จากลูกวอลเลย์จังหวะเดียวอย่างเฉียบขาด หลัง อังเดร ออยเยอร์ โหม่งสกัดมาไม่ดี ก่อนที่ โรบินโญ จะเป็นฮีโร่ของ แมนฯ ซิตี หลังหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงตีเสมอ 2-2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เก็บ 1 คะแนนกลับออกมาได้อย่างใจหายใจคว่ำ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส – พอล โรบินสัน, อังเดร ออยเยอร์, ไรอัน เนลเซน, คริสโตเฟอร์ แซมบา, สตีเฟน วอร์น็อค, คีธ แอนดรูว์ส, ตูกาย เคริโมกลู, เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, มอร์เตน กัมสท์ พีเดอร์เซน, เบนนี แม็คคาร์ธี, เจสัน โรเบิร์ตส
แมนเชสเตอร์ ซิตี – โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลตา, ริชาร์ด ดันน์, เนดุม โอนัวฮา, ไมเคิล บอลล์, แว็งซ็องต์ กอมปานี, เอลาโน บลูแมร์, สตีเฟน ไอร์แลนด์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, โรบินโญ, เฟลิเป ไซเซโด
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 1-5 (สตีเวน เจอร์ราร์ด 0-1 น.31), (ซามี ฮูเปีย 0-2 น.36), (เดวิด เอ็ดการ์ 1-2 น.45), (ไรอัน บาเบล 1-3 น.50), (สตีเวน เจอร์ราร์ด 1-4 น.66), (ชาบี อลอนโซ 1-5 จุดโทษ น.75)
อาร์เซนอล ชนะ ปอร์ทสมัธ 1-0 (วิลเลียม กัลลาส 1-0 น.81)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส แพ้ วีแกน แอธเลติก 0-1 (อาเมอร์ ซากี 0-1 จุดโทษ น.44)
เอฟเวอร์ตัน ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0 (มิเกล อาร์เตตา 1-0 น.10), (มิเกล อาร์เตตา 2-0 น.27), (แดน กอสลิง 3-0 น.83)
ฟูแลม เสมอ เชลซี 2-2 (คลินท์ เดมพ์ซีย์ 1-0 น.10), (แฟรงค์ แลมพาร์ด 1-1 น.50), (แฟรงค์ แลมพาร์ด 1-2 น.73), (คลินท์ เดมพ์ซีย์ 2-2 น.90),
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-0 (โรมัน เบดนาร์ 1-0 น.83), (เคร็ก บีทตี 2-0 น.90)
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ชนะ สโต๊ค ซิตี 2-1 (อับดูลาย ฟาย 0-1 น.4), (คาร์ลตัน โคล 1-1 น.51), (ดีเอโก ตริสตัน 2-1 น.88)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-2 (เบนนี แม็คคาร์ธี 1-0 น.45), (เจสัน โรเบิร์ตส 2-0 น.84), (ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ 2-1 น.88), (โรบินโญ 2-2 น.90)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2551
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 2 – 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี
คู่สุดท้ายของเกมพรีเมียร์ลีกประจำวันอาทิตย์ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เฝ้าถิ่นอีวูด ปาร์ค ปะทะกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี เกมนี้ แซม อัลลาร์ไดซ์ กุนซือเจ้าบ้านยังไว้ใจในคู่หัวหอก เจสัน โรเบิร์ตส กับ เบนนี แม็คคาร์ธี ขณะที่ทีมเยือนก็ยึด โรบินโญ กับ เฟลิเป ไซเซโด คอยทำหน้าที่ล่าตาข่ายเหมือนนัดที่ถล่ม ฮัลล์ ซิตี 5-1
เริ่มเกมมาได้ไม่ทันไร กุหลาบไฟเกือบเสียท่าให้กับเรือใบสีฟ้าตั้งแต่นาทีที่ 2 จากลูกเตะมุมด้านซ้ายที่ ไมเคิล บอลล์ เปิดโค้งมาให้ เนดุม โอนัวฮา โหม่งชงต่อมาที่ ไซเซโด ทว่า หัวหอกชาวเอกวาดอร์กลับจิ้มบอลข้ามคานอย่างน่าเสียดาย
จากนั้นนาทีที่ 9 เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน ปั่นฟรีคิกระยะหวังผลไปแฉลบแขน สตีเฟน ไอร์แลนด์ ในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสิน ฮาวเวิร์ค เว็บบ์ ยังนิ่ง แม้ผู้เล่นกุหลาบไฟจะพยายามประท้วงเอาจุดโทษก็ตาม ถัดมานาทีเดียว โรบินโญ พาบอลเข้าเขตโทษถูก อังเดร ออยเยอร์ แซะล้มลง แต่ เว็บบ์ ก็ปล่อยให้เกมดำเนินต่อไปอีกครั้ง
นาทีที่ 11 ไซเซโด ได้บอลตรงกลางสนามก่อนกระชากออกทางซ้ายจนถึงกรอบเขตโทษแล้วเปิดไปเสาสองให้ โรบินโญ สอดเข้ามาโหม่งหลุดกรอบออกหลังอย่างน่าหวาดเสียว จากนั้นนาทีที่ 23 แว็งซ็องต์ กอมปานี ล็อกหาช่องซัดจากแถวสองส่งลูกเหินข้ามคานไปไกล
เข้าสู่นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก แบล็คเบิร์น ที่มีโอกาสจะแจ้งน้อยกว่ามาได้ประตูนำ 1-0 เริ่มจาก เอเมอร์ตัน ผ่านบอลจากกราบขวามาหน้าเขตโทษ เจสัน โรเบิร์ตส พยายามไขว้หลบกองหลัง แมนฯ ซิตี หวังพลิกเข้าไปยิง แต่ลูกมาเข้าทางปืนของ เบนนี แม็คคาร์ธี แปตามน้ำผ่านมือ โจ ฮาร์ท เสียบเสาแรก ก่อนจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้
กลับมาลุยต่อในครึ่งหลัง เรือใบสีฟ้าเกือบพังประตูตีเสมอได้ในนาทีที่ 51 เมื่อ เอลาโน บลูแมร์ วางบอลให้ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ โหม่งเช็ดตามน้ำส่งลูกไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ สตีเฟน ไอร์แลนด์ จะกดจากเส้นเขตโทษเหินข้ามคานในจังหวะต่อมา
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่นลงไปเน้นตั้งรับเต็มสูบ ขณะที่ทีมเยือนก็โหมบุกอย่างหนักจนเกือบทวงคืนได้แบบโชคช่วยจากจังหวะที่ คริสโตเฟอร์ แซมบา เบียดมากับ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ก่อนจิ้มบอลเข้าหาประตูตัวเองแต่ยังเคราะห์ดีที่ลอยโด่งข้ามคาน
กุหลาบไฟหนีห่างเป็น 2-0 ในนาทีที่ 84 จากจังหวะที่ แซมบา ขึ้นเบียดเอาบอลได้แถวหน้าเขตโทษก่อนกระดกต่อให้ โรเบิร์ตส โหม่งที่เสาสองตุงตาข่าย ทว่า สเตอร์ริดจ์ ตีไข่แตกให้ทีมเยือนเป็น 2-1 จากลูกวอลเลย์จังหวะเดียวอย่างเฉียบขาด หลัง อังเดร ออยเยอร์ โหม่งสกัดมาไม่ดี ก่อนที่ โรบินโญ จะเป็นฮีโร่ของ แมนฯ ซิตี หลังหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปยิงตีเสมอ 2-2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เก็บ 1 คะแนนกลับออกมาได้อย่างใจหายใจคว่ำ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส – พอล โรบินสัน, อังเดร ออยเยอร์, ไรอัน เนลเซน, คริสโตเฟอร์ แซมบา, สตีเฟน วอร์น็อค, คีธ แอนดรูว์ส, ตูกาย เคริโมกลู, เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, มอร์เตน กัมสท์ พีเดอร์เซน, เบนนี แม็คคาร์ธี, เจสัน โรเบิร์ตส
แมนเชสเตอร์ ซิตี – โจ ฮาร์ท, ปาโบล ซาบาเลตา, ริชาร์ด ดันน์, เนดุม โอนัวฮา, ไมเคิล บอลล์, แว็งซ็องต์ กอมปานี, เอลาโน บลูแมร์, สตีเฟน ไอร์แลนด์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, โรบินโญ, เฟลิเป ไซเซโด
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 1-5 (สตีเวน เจอร์ราร์ด 0-1 น.31), (ซามี ฮูเปีย 0-2 น.36), (เดวิด เอ็ดการ์ 1-2 น.45), (ไรอัน บาเบล 1-3 น.50), (สตีเวน เจอร์ราร์ด 1-4 น.66), (ชาบี อลอนโซ 1-5 จุดโทษ น.75)
อาร์เซนอล ชนะ ปอร์ทสมัธ 1-0 (วิลเลียม กัลลาส 1-0 น.81)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส แพ้ วีแกน แอธเลติก 0-1 (อาเมอร์ ซากี 0-1 จุดโทษ น.44)
เอฟเวอร์ตัน ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0 (มิเกล อาร์เตตา 1-0 น.10), (มิเกล อาร์เตตา 2-0 น.27), (แดน กอสลิง 3-0 น.83)
ฟูแลม เสมอ เชลซี 2-2 (คลินท์ เดมพ์ซีย์ 1-0 น.10), (แฟรงค์ แลมพาร์ด 1-1 น.50), (แฟรงค์ แลมพาร์ด 1-2 น.73), (คลินท์ เดมพ์ซีย์ 2-2 น.90),
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-0 (โรมัน เบดนาร์ 1-0 น.83), (เคร็ก บีทตี 2-0 น.90)
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ชนะ สโต๊ค ซิตี 2-1 (อับดูลาย ฟาย 0-1 น.4), (คาร์ลตัน โคล 1-1 น.51), (ดีเอโก ตริสตัน 2-1 น.88)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-2 (เบนนี แม็คคาร์ธี 1-0 น.45), (เจสัน โรเบิร์ตส 2-0 น.84), (ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ 2-1 น.88), (โรบินโญ 2-2 น.90)