ลิเวอร์พูล ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องด้วยการบุกไปไล่ถลุง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด หมดสภาพ 5-1 โดย สตีเวน เจอร์ราร์ด เหมาทำคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้ทีมยึดบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ชิป อังกฤษ อย่างเหนียวแน่น
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2551
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-5 ลิเวอร์พูล
เกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีลงเตะนัดที่ 2 ในรอบ 3 วัน โดย นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เปิดสนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ต้อนรับ ลิเวอร์พูล นัดนี้เจ้าถิ่นมีปัญหาบาดเจ็บหลายคน ทำให้ เดวิด เอ็ดการ์ กับ สตีเวน เทย์เลอร์ ลงเป็นตัวจริงในแผงหลัง ส่วนคู่หน้าใช้ เดเมียน ดัฟฟ์ กับ ไมเคิล โอเวน ด้านทีมเยือนพัก ร็อบบี คีน ที่กำลังฟอร์มดีแล้วให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด ประสานงานกับ เดิร์ก เคาท์
เปิดฉากมาได้ 7 นาที หงส์แดงมีโอกาสทักทายเจ้าบ้านก่อน แต่ เจอร์ราร์ด ซัดจากนอกกรอบเขตโทษโด่งข้ามคาน ให้หลังมานาทีเดียว ฟาบริซิโอ โคลอชชินี เก็บตกแถวสองวอลเลย์เหินหลุดกรอบเช่นกัน ก่อนที่นาทีที่ 10 ทีมเยือนจะพาบอลขึ้นมาป้วนเปี้ยนในเขตโทษ และ เคาท์ ได้กดมุมแคบติดหน้าอก เชย์ กิฟเวน ที่เสาแรก บาเบล ตามซ้ำอีกที โฮเซ เอ็นริเก ยังบล็อกไว้ได้
จากนั้น ทีมเยือนเริ่มเป็นฝ่ายพาบอลบุกกดดันแทบจะข้างเดียว นาทีที่ 11 เจอร์ราร์ด ได้โอกาสล็อกหลบหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ กิฟเวน แต่นายทวารเจ้าถิ่นยังไม่หลงทางล้มตัวดักไว้ได้ ถัดมา 3 นาที เคาท์ แตะต่อให้ เจอร์ราร์ด เติมเข้ามายิงด้วยซ้าย แต่ กิฟเวน ยังปฏิกิริยาไวพุ่งปัดเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
สาลิกาดงยังโดนบุกกระหน่ำจนโงหัวไม่ขึ้น นาทีที่ 18 เจอร์ราร์ด เปิดฟรีคิกจากด้านซ้ายให้ ซามี ฮูเปีย โหม่งเฉี่ยวเสาแค่คืบ จากนั้น เอมิเลียโน อินซัว เติมขึ้นมาถึงเส้นหลังแล้วผ่านเข้ากลางให้ ดาเนียล แอกเกอร์ สะกิดบอลผ่านหน้าประตู เคาท์ ตามไปเก็บแล้วเปิดยัดเข้ามา ลูคัส เลวา ชาร์จจ่อๆ แต่โดนไม่เต็มเท้าจึงติด กิฟเวน
นาทีที่ 21 เจอร์ราร์ด โยนลูกเตะมุมด้านซ้ายมาตรงกลาง ลูคัส เลวา ขึ้นโขกย้อนศรทำท่าจะข้ามเส้นประตู แต่ กิฟเวน ยังโชว์ซูเปอร์เซฟเอื้อมมือไปปัดเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ ฮูเปีย จะได้ตวัดยิงจากลูกเตะมุมหนีมือ กิฟเวน ไปทางเสาสองแล้ว แต่ยังมี ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย ที่ยืนคุมเส้นอยู่หวดทิ้งออกไปแบบจวนเจียน
กระทั่งนาทีที่ 31 ทำนบของ เดอะ แม็กพายส์ ก็มาถูกทลายลงจนได้ เมื่อ ฮาเวียร์ มาสเชราโน จ่ายทะลุช่องให้ ยอสซี เบนายูน หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นมาทางขวาของเขตโทษ ก่อนจ่ายหักกลับมาให้ เจอร์ราร์ด กระทุ้งเน้นๆ ผ่านมือ กิฟเวน ชนเสาเข้าไปตุงตาข่ายชนิดสุดแรงเกิด ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0
หงส์แดงบวกอีกลูกเป็น 2-0 ในนาทีที่ 36 จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาของ เจอร์ราร์ด ที่โยนมาหน้าประตูให้ ฮูเปีย เบียด โคลอชชินี ขึ้นโขก ส่งบอลผ่านการป้องกันของ กิฟเวน และ เอ็นซอกเบีย เข้าไปสัมผัสตาข่าย จากนั้น ฮูเปีย เกือบบวกลูกที่ 2 ให้กับตัวเองได้จากการโขกลูกเตะมุม ทว่า กิฟเวน ยังเซฟได้เหนียวแน่น
ช่วงท้ายครึ่งแรก นิวคาสเซิล ได้ลุ้นเข้าทำบ้างโดย สตีเวน เทย์เลอร์ ได้โหม่งลูกคอร์เนอร์หลุดออกทางเสาสอง ก่อนที่เจ้าถิ่นจะตีไข่แตกได้ก่อนจบ 45 นาทีแรก เมื่อ แดนนี กัทธรี เปิดลูกเตะมุมมาที่เสาแรก เดวิด เอ็ดการ์ เทกตัวโขกชนิดไร้คนประกบเสียบมุมประตูให้สกอร์ขยับมาอยู่ที่ 1-2
ครึ่งหลังเจ้าถิ่นแก้เกมด้วยการส่ง โชลา อเมโอบี ลงมาแทน เอ็นริเก ทว่ากลับถูก ลิเวอร์พูล หนีห่างเป็น 3-1 ในนาทีที่ 50 จากลูกชุลมุนหน้าประตูที่กองหลังสาลิกาดงเคลียร์ไม่ขาดจนถูก ไรอัน บาเบล ซัดจังหวะสุดท้ายในระยะเผาขน ถึงนาทีที่ 60 เฌเรมี เอ็นฌิตัป ที่ลงมาแทน นิคกี บัตต์ ปั่นฟรีคิกไปชนสามเหลี่ยมชวดโอกาสตีตื้นขึ้นมา
เกมมาขาดเอาในนาทีที่ 66 โดย ลูคัส เลวา จ่ายทะลุช่องให้ เจอร์ราร์ด สปีดหนี โคลอชชินี ก่อนลากบอลเข้าไปชิปสวนตัว กิฟเวน อย่างเหนือชั้น ทำให้ ลิเวอร์พูล ตีปีกนำลิ่ว 4-1 ก่อนจะไหลมาอีกลูกเป็น 5-1 ในนาทีที่ 75 โดย เอ็ดการ์ ทำฟาวล์ ดาวิด เอ็นกอก เสียจุดโทษ ก่อนที่ ชาบี อลอนโซ จะสังหารไม่พลาด ทำให้จบเกมด้วยสกอร์นี้ ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 45 คะแนน การันตีจ่าฝูงแน่นอนแล้ว ส่วน นิวคาสเซิล มี 22 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด – เชย์ กิฟเวน, เดวิด เอ็ดการ์, สตีเวน เทย์เลอร์, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี, โฮเซ เอ็นริเก, โฮนาส กูเตียร์เรซ, นิคกี บัตต์, แดนนี กัทธรี, ชาร์ลส เอ็นซอกเบีย, เดเมียน ดัฟฟ์, ไมเคิล โอเวน
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, เจมี คาร์ราเกอร์, ซามี ฮูเปีย, ดาเนียล แอกเกอร์, เอมิเลียโน อินซัว, ลูคัส เลวา, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ยอสซี เบนายูน, ไรอัน บาเบล, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เดิร์ก เคาท์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 1-5 (สตีเวน เจอร์ราร์ด 0-1 น.31), (ซามี ฮูเปีย 0-2 น.36), (เดวิด เอ็ดการ์ 1-2 น.45), (ไรอัน บาเบล 1-3 น.50), (สตีเวน เจอร์ราร์ด 1-4 น.66), (ชาบี อลอนโซ 1-5 จุดโทษ น.75)
อาร์เซนอล ชนะ ปอร์ทสมัธ 1-0 (วิลเลียม กัลลาส 1-0 น.81)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส แพ้ วีแกน แอธเลติก 0-1 (อาเมอร์ ซากี 0-1 จุดโทษ น.44)
เอฟเวอร์ตัน ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0 (มิเกล อาร์เตตา 1-0 น.10), (มิเกล อาร์เตตา 2-0 น.27), (แดน กอสลิง 3-0 น.83)
ฟูแลม เสมอ เชลซี 2-2 (คลินท์ เดมพ์ซีย์ 1-0 น.10), (แฟรงค์ แลมพาร์ด 1-1 น.50), (แฟรงค์ แลมพาร์ด 1-2 น.73), (คลินท์ เดมพ์ซีย์ 2-2 น.90),
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-0 (โรมัน เบดนาร์ 1-0 น.83), (เคร็ก บีทตี 2-0 น.90)
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ชนะ สโต๊ค ซิตี 2-1 (อับดูลาย ฟาย 0-1 น.4), (คาร์ลตัน โคล 1-1 น.51), (ดีเอโก ตริสตัน 2-1 น.88)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-2 (เบนนี แม็คคาร์ธี 1-0 น.45), (เจสัน โรเบิร์ตส 2-0 น.84), (ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ 2-1 น.88), (โรบินโญ 2-2 น.90)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2551
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-5 ลิเวอร์พูล
เกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีลงเตะนัดที่ 2 ในรอบ 3 วัน โดย นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เปิดสนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ต้อนรับ ลิเวอร์พูล นัดนี้เจ้าถิ่นมีปัญหาบาดเจ็บหลายคน ทำให้ เดวิด เอ็ดการ์ กับ สตีเวน เทย์เลอร์ ลงเป็นตัวจริงในแผงหลัง ส่วนคู่หน้าใช้ เดเมียน ดัฟฟ์ กับ ไมเคิล โอเวน ด้านทีมเยือนพัก ร็อบบี คีน ที่กำลังฟอร์มดีแล้วให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด ประสานงานกับ เดิร์ก เคาท์
เปิดฉากมาได้ 7 นาที หงส์แดงมีโอกาสทักทายเจ้าบ้านก่อน แต่ เจอร์ราร์ด ซัดจากนอกกรอบเขตโทษโด่งข้ามคาน ให้หลังมานาทีเดียว ฟาบริซิโอ โคลอชชินี เก็บตกแถวสองวอลเลย์เหินหลุดกรอบเช่นกัน ก่อนที่นาทีที่ 10 ทีมเยือนจะพาบอลขึ้นมาป้วนเปี้ยนในเขตโทษ และ เคาท์ ได้กดมุมแคบติดหน้าอก เชย์ กิฟเวน ที่เสาแรก บาเบล ตามซ้ำอีกที โฮเซ เอ็นริเก ยังบล็อกไว้ได้
จากนั้น ทีมเยือนเริ่มเป็นฝ่ายพาบอลบุกกดดันแทบจะข้างเดียว นาทีที่ 11 เจอร์ราร์ด ได้โอกาสล็อกหลบหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ กิฟเวน แต่นายทวารเจ้าถิ่นยังไม่หลงทางล้มตัวดักไว้ได้ ถัดมา 3 นาที เคาท์ แตะต่อให้ เจอร์ราร์ด เติมเข้ามายิงด้วยซ้าย แต่ กิฟเวน ยังปฏิกิริยาไวพุ่งปัดเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
สาลิกาดงยังโดนบุกกระหน่ำจนโงหัวไม่ขึ้น นาทีที่ 18 เจอร์ราร์ด เปิดฟรีคิกจากด้านซ้ายให้ ซามี ฮูเปีย โหม่งเฉี่ยวเสาแค่คืบ จากนั้น เอมิเลียโน อินซัว เติมขึ้นมาถึงเส้นหลังแล้วผ่านเข้ากลางให้ ดาเนียล แอกเกอร์ สะกิดบอลผ่านหน้าประตู เคาท์ ตามไปเก็บแล้วเปิดยัดเข้ามา ลูคัส เลวา ชาร์จจ่อๆ แต่โดนไม่เต็มเท้าจึงติด กิฟเวน
นาทีที่ 21 เจอร์ราร์ด โยนลูกเตะมุมด้านซ้ายมาตรงกลาง ลูคัส เลวา ขึ้นโขกย้อนศรทำท่าจะข้ามเส้นประตู แต่ กิฟเวน ยังโชว์ซูเปอร์เซฟเอื้อมมือไปปัดเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ ฮูเปีย จะได้ตวัดยิงจากลูกเตะมุมหนีมือ กิฟเวน ไปทางเสาสองแล้ว แต่ยังมี ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย ที่ยืนคุมเส้นอยู่หวดทิ้งออกไปแบบจวนเจียน
กระทั่งนาทีที่ 31 ทำนบของ เดอะ แม็กพายส์ ก็มาถูกทลายลงจนได้ เมื่อ ฮาเวียร์ มาสเชราโน จ่ายทะลุช่องให้ ยอสซี เบนายูน หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นมาทางขวาของเขตโทษ ก่อนจ่ายหักกลับมาให้ เจอร์ราร์ด กระทุ้งเน้นๆ ผ่านมือ กิฟเวน ชนเสาเข้าไปตุงตาข่ายชนิดสุดแรงเกิด ลิเวอร์พูล ออกนำ 1-0
หงส์แดงบวกอีกลูกเป็น 2-0 ในนาทีที่ 36 จากลูกเตะมุมทางฝั่งขวาของ เจอร์ราร์ด ที่โยนมาหน้าประตูให้ ฮูเปีย เบียด โคลอชชินี ขึ้นโขก ส่งบอลผ่านการป้องกันของ กิฟเวน และ เอ็นซอกเบีย เข้าไปสัมผัสตาข่าย จากนั้น ฮูเปีย เกือบบวกลูกที่ 2 ให้กับตัวเองได้จากการโขกลูกเตะมุม ทว่า กิฟเวน ยังเซฟได้เหนียวแน่น
ช่วงท้ายครึ่งแรก นิวคาสเซิล ได้ลุ้นเข้าทำบ้างโดย สตีเวน เทย์เลอร์ ได้โหม่งลูกคอร์เนอร์หลุดออกทางเสาสอง ก่อนที่เจ้าถิ่นจะตีไข่แตกได้ก่อนจบ 45 นาทีแรก เมื่อ แดนนี กัทธรี เปิดลูกเตะมุมมาที่เสาแรก เดวิด เอ็ดการ์ เทกตัวโขกชนิดไร้คนประกบเสียบมุมประตูให้สกอร์ขยับมาอยู่ที่ 1-2
ครึ่งหลังเจ้าถิ่นแก้เกมด้วยการส่ง โชลา อเมโอบี ลงมาแทน เอ็นริเก ทว่ากลับถูก ลิเวอร์พูล หนีห่างเป็น 3-1 ในนาทีที่ 50 จากลูกชุลมุนหน้าประตูที่กองหลังสาลิกาดงเคลียร์ไม่ขาดจนถูก ไรอัน บาเบล ซัดจังหวะสุดท้ายในระยะเผาขน ถึงนาทีที่ 60 เฌเรมี เอ็นฌิตัป ที่ลงมาแทน นิคกี บัตต์ ปั่นฟรีคิกไปชนสามเหลี่ยมชวดโอกาสตีตื้นขึ้นมา
เกมมาขาดเอาในนาทีที่ 66 โดย ลูคัส เลวา จ่ายทะลุช่องให้ เจอร์ราร์ด สปีดหนี โคลอชชินี ก่อนลากบอลเข้าไปชิปสวนตัว กิฟเวน อย่างเหนือชั้น ทำให้ ลิเวอร์พูล ตีปีกนำลิ่ว 4-1 ก่อนจะไหลมาอีกลูกเป็น 5-1 ในนาทีที่ 75 โดย เอ็ดการ์ ทำฟาวล์ ดาวิด เอ็นกอก เสียจุดโทษ ก่อนที่ ชาบี อลอนโซ จะสังหารไม่พลาด ทำให้จบเกมด้วยสกอร์นี้ ลิเวอร์พูล เก็บเพิ่มเป็น 45 คะแนน การันตีจ่าฝูงแน่นอนแล้ว ส่วน นิวคาสเซิล มี 22 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด – เชย์ กิฟเวน, เดวิด เอ็ดการ์, สตีเวน เทย์เลอร์, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี, โฮเซ เอ็นริเก, โฮนาส กูเตียร์เรซ, นิคกี บัตต์, แดนนี กัทธรี, ชาร์ลส เอ็นซอกเบีย, เดเมียน ดัฟฟ์, ไมเคิล โอเวน
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, เจมี คาร์ราเกอร์, ซามี ฮูเปีย, ดาเนียล แอกเกอร์, เอมิเลียโน อินซัว, ลูคัส เลวา, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, ยอสซี เบนายูน, ไรอัน บาเบล, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เดิร์ก เคาท์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ ลิเวอร์พูล 1-5 (สตีเวน เจอร์ราร์ด 0-1 น.31), (ซามี ฮูเปีย 0-2 น.36), (เดวิด เอ็ดการ์ 1-2 น.45), (ไรอัน บาเบล 1-3 น.50), (สตีเวน เจอร์ราร์ด 1-4 น.66), (ชาบี อลอนโซ 1-5 จุดโทษ น.75)
อาร์เซนอล ชนะ ปอร์ทสมัธ 1-0 (วิลเลียม กัลลาส 1-0 น.81)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส แพ้ วีแกน แอธเลติก 0-1 (อาเมอร์ ซากี 0-1 จุดโทษ น.44)
เอฟเวอร์ตัน ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0 (มิเกล อาร์เตตา 1-0 น.10), (มิเกล อาร์เตตา 2-0 น.27), (แดน กอสลิง 3-0 น.83)
ฟูแลม เสมอ เชลซี 2-2 (คลินท์ เดมพ์ซีย์ 1-0 น.10), (แฟรงค์ แลมพาร์ด 1-1 น.50), (แฟรงค์ แลมพาร์ด 1-2 น.73), (คลินท์ เดมพ์ซีย์ 2-2 น.90),
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-0 (โรมัน เบดนาร์ 1-0 น.83), (เคร็ก บีทตี 2-0 น.90)
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ชนะ สโต๊ค ซิตี 2-1 (อับดูลาย ฟาย 0-1 น.4), (คาร์ลตัน โคล 1-1 น.51), (ดีเอโก ตริสตัน 2-1 น.88)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-2 (เบนนี แม็คคาร์ธี 1-0 น.45), (เจสัน โรเบิร์ตส 2-0 น.84), (ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ 2-1 น.88), (โรบินโญ 2-2 น.90)