xs
xsm
sm
md
lg

“ทอฟฟี่” ล้างตา “หงส์” ศึกศักดิ์ศรีเมอร์ซีย์ไซด์ / เซียนไก๋

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตอร์เรส ฟอร์มฝืด
สาวก “เดอะ ค็อป” บ่นกันอุบอุตส่าห์ชนะคู่รักคู่แค้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่สัปดาห์ถัดมาเสมอ สโต๊ก ซิตี คาถิ่น เกมนัดนี้ ลิเวอร์พูล จึงต้องเรียกศรัทธาคืนมาเป็นการด่วน โดยมีงานใหญ่ต้องยกพลไปเยือน กูดิสัน ปาร์ค ของ เอฟเวอร์ตัน เพื่อทำศึก เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี แมตช์ ครั้งที่ 179 ในลีก เตะเป็นคู่แรกของวันเสาร์ที่ 27 กันยายนนี้

นัดนี้ ลิเวอร์พูล ต้องการชัยชนะอย่างยิ่ง เพราะหาก ราฟาเอล เบนเตซ นายใหญ่จอมแทกติกชาวสเปน เห็นว่า เล่นนอกบ้านเน้นเสมอเก็บ 1 แต้มเหมือนในเกมที่เจ๊า แอสตัน วิลลา 0-0 มีหวังโดนวิจารณ์ว่าไม่กล้าได้กล้าเสียอีกคงยากที่จะไปลุ้นแชมป์ ด้านเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ฤดูกาลนี้ออกสตาร์ทไม่ดี แถมแปลกตรง 7 แต้ม ที่เก็บได้จาก 5 นัด เป็นการชนะ 2 และเสมอ 1 นัดในการเป็นทีมเยือน ส่วนเล่นในบ้านนั้นแพ้รวด

อัลเบิร์ต ริเอรา ปีกตัวใหม่ของ ลิเวอร์พูล นำเข้าจากสเปน บอกแฟนบอลอย่าเพิ่งตระหนกกับผลเสมอในนัดล่าสุด “พรีเมียร์ ลีก เริ่มต้นมาได้ไม่กี่นัดเองและพวกเรายังมีเกมให้ลงเตะอีกหลายนัด ซึ่งมันมีความสำคัญกว่าเกมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มันเป็นการแข่งขันที่ยาวนานในหนึ่งฤดูกาลและเราต้องรับมือให้ได้ ผมแน่ใจว่าเราจะกลับมาดีขึ้น”

ล่าสุด ลิเวอร์พูล เพิ่งเอาชนะ ครูว์ อเล็กซานดรา 2-1 ในศึก คาร์ลิง คัพ รอบสาม แต่ว่าก็ต้องสังเวย ฟิลิปป์ เดเกน แบ็กขวาทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ที่ได้รับบาดเจ็บซี่โครงหัก 2 ซี่ แต่ไร้ปัญหาเพราะตำแหน่งตัวจริงตกเป็นของ อัลบาโร อาร์เบลัว นอกนั้นไม่มีอะไรน่ากังวล เฟอร์นานโด ตอร์เรส, ร็อบบี คีน และ เดิร์ก เคาท์ 3 กองหน้าที่ถูกวิจารณ์ว่าปืนฝืด และ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมขาลุย จะกลับมาเป็นตัวจริงพร้อมหน้าพร้อมตา

เอฟเวอร์ตัน ผลงานยังเอาแน่เอานอนไม่ได้เล่นในลีกบุกไปไล่ตีเสมอ ฮัลล์ ซิตี 2-2 ล่าสุด ในเกม คาร์ลิง คัพ พ่าย แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 0-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมาชนิดที่รูปเกมดีกว่าแต่ว่าเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้ ส่วนเกมนี้ เดวิด มอยส์ กุนซือ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ต้องลุ้นอาการบาดเจ็บของ มิเกล อาร์เตตา จอมทัพชาวสเปน ว่าพร้อมลงเปิดบอลได้หรือไม่ ส่วน ทิม เคฮิลล์ น่าจะฟิตออกสตาร์ท หลังเพิ่งเป็นตัวสำรองในเกมบอลถ้วยใบจิ๋ว

ฤดูกาลที่แล้ว ณ สนามแห่งนี้ ชัยชนะของ ลิเวอร์พูล เหนือเจ้าถิ่น 2-1 ถูกวิจารณ์ว่าได้มาเพราะการตัดสินอันคลางแคลงใจของกรรมการ มาร์ค แคลทแทนเบิร์ก ตั้งแต่แจกใบแดงไล่ โทนี ฮิบเบิร์ต ออกจากสนาม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำท่าชักใบเหลือง แต่เกิดเปลี่ยนใจหลัง เจอร์ราร์ด เข้ามาทักท้วง รวมไปถึงการที่ เคาท์ ที่ซัดสองจุดโทษ โดนแค่จดชื่อทั้งที่เสียบสองเท้าใส่ ฟิล เนวิลล์ และการไม่เป่าให้ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ได้จุดโทษหลัง โจลีออน เลสค็อตต์ ถูก เจมี คาร์ราเกอร์ เหนี่ยวล้มลงในเขตโทษ

ฟอร์มเอาแน่เอานอนไม่ได้เลยสำหรับ เอฟเวอร์ตัน แพ้ได้ทั้งหมดไม่ว่าในหรือนอกบ้าน แถมนักเตะตัวหลักอย่าง อาร์เตตา และ เคฮิลล์ ก็ไม่ฟิตเต็มร้อย อเย็กบินี ยาคูบู ดาวยิงคนสำคัญก็ฟอร์มฝืดอีก ด้าน มารัวเน เฟลลายนี กองกลางค่าตัวแพงก็ยังเล่นไม่คุ้มเงิน แต่ ลิเวอร์พูล ก็มีปัญหาฟอร์มนอกบ้านรวมถึงแนวรุกฝืด สุดท้ายจึงน่าจะแบ่งแต้มกันไป

สัปดาห์นี้บิ๊กโฟร์จะแข่งวันเสาร์ทั้งหมดเนื่องจากกลางสัปดาห์หน้ามีเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก นัดสอง โดยเราขอมองข้าม อาร์เซนอล จ่าฝูงที่จะเปิดรังรับมือ ฮัลล์ ซิตี รวมถึง เชลซี รองจ่าฝูงและรองแชมป์เก่าที่จะไปเยือน สโต๊ก เพราะทั้งคู่น่าจะกำชัยได้ไม่ยาก จึงอยากโฟกัสมาที่ “แชมป์เก่า” แมนฯยูไนเต็ด ที่จะเปิดบ้านพบกับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส

ฟอร์มเก่งของ แมนฯยู น่าจะกลับมาได้แล้ว หลังจากเกือบหยุดสถิติไม่ปราชัยในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เอาไว้ที่ 84 นัด ด้วยการถูก เชลซี ไล่ตีเสมอ 1-1 นัด ล่าสุดก็เล่นในรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด อัด มิดเดิลสโบรช์ 3-1 ในเกม คาร์ลิง คัพ รอบสาม อาวุธหนักอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด ที่กระทุ้งไป 42 ประตูเมื่อฤดูกาลที่แล้วออกสตาร์ทเป็นตัวจริงนัดแรกพร้อมกับทำประตูแรกได้แล้ว

ส่วนแดนกลาง แมนฯยู จะไม่มี ไมเคิล คาร์ริค ที่กระดูกเท้าแตกในเกมแพ้ ลิเวอร์พูล ต้องพัก 4-6 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ดาร์เรน เฟลตเชอร์ และ โอเวน ฮาร์กรีฟส์ พร้อมลงเป็นผึ้งงานคอยไล่บอลในแดนกลางอยู่แล้ว ที่น่ากังวลคือ แดนหน้าว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะจัดทัพเช่นไร เพราะ 2 นัดที่ผ่านมาดร็อป คาร์ลอส เตเบซ กองหน้าจอมขยันเอาไว้เป็นแค่ตัวสำรอง ปล่อย เวย์น รูนีย์ และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ลงมาเค้นฟอร์มและเร่งความฟิตตามลำดับ

ทางฝั่งอาคันตุกะ โบลตัน ออกสตาร์ทฤดูกาลนี้วนเวียนอยู่ในโซนตกชั้นตามระเบียบ เกมนี้น่าจะสดเต็มที่เพราะได้พักยาวเนื่องจากตกรอบ คาร์ลิง คัพ ไปตั้งแต่หัววันแล้ว แถมยังน่าจะได้ โยฮัน เอลมานเดอร์ แนวรุกชาวสวีดิช ที่ค่าตัวแพงเป็นสถิติสโมสร คืนทัพ หลังได้รับบาดเจ็บหายหน้าไปร่วมเดือน รวมถึง แม็ทธิว เทย์เลอร์ ที่จะกลับมาสร้างความดุดันในแผงกองกลางอีกด้วย

แมนฯยู มีสถิติเจอกับ โบลตัน ในถิ่นตัวเองค่อนข้างสวยหรูชนะรวดมา 5 ฤดูกาลติดต่อกันแล้ว ปีนี้ก็น่าจะเข้าอีหรอบเดิม เพราะเจ้าถิ่นได้ โรนัลโด กลับมาช่วยเพิ่มความกระชุ่มกระช่วยในทีมอีก น่าจะคว้าชัยแรกในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นครั้งแรกของฤดูกาลนี้ได้เสียที

ฟันธงตรงเผง โดย เซียนไก๋ เจริญกรุง
เอฟเวอร์ตัน เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
ฟูแลม เสมอ เวสต์แฮม 1-1
แมนฯยู ชนะ โบลตัน 2-0
มิดเดิลสโบรช์ ชนะ เวสต์บรอมวิช 2-0
นิวคาสเซิล เสมอ แบล็กเบิร์น 0-0
สโต๊ก แพ้ เชลซี 0-2
วิลลา ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-1
อาร์เซนอล ชนะ ฮัลล์ 3-0
ปอร์ทสมัธ ชนะ สเปอร์ส 2-1
วีแกน แพ้ แมนฯซิตี 1-2

โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ชิป สุดสัปดาห์นี้
วันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2551
เอฟเวอร์ตัน พบ ลิเวอร์พูล เวลา 18.45 น.
ฟูแลม พบ เวสต์ แฮม เวลา 21.00 น.
แมนฯยู พบ โบลตัน เวลา 21.00 น.
มิดเดิลสโบรช์ พบ เวสต์ บรอม เวลา 21.00 น.
นิวคาสเซิล พบ แบล็คเบิร์น เวลา 21.00 น.
สโต๊ก พบ เชลซี เวลา 21.00 น.
วิลลา พบ ซันเดอร์แลนด์ เวลา 21.00 น.
อาร์เซนอล พบ ฮัลล์ เวลา 23.30 น.

วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2551
ปอร์ทสมัธ พบ สเปอร์ส เวลา 19.30 น.
วีแกน พบ แมนฯซิตี เวลา 22.00 น.
หงส์ต้องพึ่ง เจอร์ราร์ด
ลีออน ออสมัน (หน้า) กับ เคฮิลล์
ยาคูบู ไม่ฮอตเหมือนเก่า
กำลังโหลดความคิดเห็น