สตีเวน เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีม "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เป็นฮีโรซัดประตูนาทีที่ 53 ช่วยให้ต้นสังกัดไล่ตามตีเสมอ "ทอฟฟีสีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน 1-1 จนต้องไปตัดสินหาผู้เข้ารอบต่อไปกันใหม่ที่บ้านของฝ่ายหลัง ในเกมเอฟเอ คัพ รอบสี่ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (25 ม.ค.)
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่
ลิเวอร์พูล 1-1 เอฟเวอร์ตัน
ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือของ ลิเวอร์พูล ตัดสินใจส่ง ฮาเวียร์ มาสเชราโน ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมนี้เช่นเดียวกับ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมหลังจากเพิ่งเดินทางไปขึ้นศาลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับกรณีเหตุทะเลาะวิวาทและทำลายร่างกายที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อน ขณะที่ เดวิด มอยส์ กุนซือของ เอฟเวอร์ตัน อดใช้งาน มารูยาน เฟลลายนี มิดฟิลด์ร่างโย่งที่ติดโทษแบน แต่ยังมี ทิม เคฮิลล์ ลงสนามเป็นตัวแสบของคู่แข่งเช่นเดิม
เริ่มเกมครึ่งแรก บรรยากาศภายในแอนฟิลด์เป็นไปอย่างเข้มข้นเผ็ดร้อนเมื่อแฟนบอลทั้งสองฝ่ายส่งเสียงเชียร์ทีมรักก้องไปทั้งสนาม หลังเขี่ยลูกมา อลอนโซ ลองยิงไกลก่อนเลยทันที แต่บอลไม่ตรงกรอบออกหลังไป มาถึงนาทีที่ 5 ทีมเยือนทำเกมขึ้นมาซึ่งเป็นการประสานงานกันระหว่าง พีนาร์ และ อนิเชเบ ก่อนที่จังหวะสุดท้ายฝ่ายหลังจะถูก อาร์เบลัว สกัดล้มลงแต่กรรมการไม่ว่าอะไร
เกมมาถึงนาทีที่ 11 "หงส์แดง" ได้ลูกเตะมุม เจอร์ราร์ด รับหน้าที่เปิดบอลเข้ามาและเป็น คาร์ราเกอร์ ที่เติมมาลุ้นทำประตูได้ยิงจังหวะสุดท้ายแต่บอลเพียงแค่เข้าข้างตาข่าย ต่อมา เอฟเวอร์ตัน โต้ตอบกลับบ้างจาก ออสมัน แต่ก็ไม่สร้างปัญหาให้แก่ เรนา แต่อย่างใด
ลิเวอร์พูล ครองบอลได้เหนือกว่าอย่างชัดเจนในเกมนี้ แต่แล้วเมื่อมาถึงนาทีที่ 28 แฟนบอลต้องช็อกกันทั้งสนามเมื่อ เอฟเวอร์ตัน กลับมาทำประตูออกนำไปก่อนจากจังหวะลูกเตะมุมและเป็น เลสคอตต์ เติมเกมมาโหม่งเข้าประตูไปให้ "ทอฟฟี" นำก่อน 1-0 หลังจากเสียประตูนี้ลูกทีมของ เบนิเตซ ก็โหมบุกหนักแต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถตามตีเสมอได้ทำให้จบ 45 นาทีแรกตามหลัง 0-1
เริ่มเกมครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล เปิดเกมรุกเข้าใส่เหมือนเดิม โดย เจอร์ราร์ด มีโอกาสได้ยิงในนาทีที่ 53 แต่เหินข้ามคานออกไป อย่างไรก็ตามมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษรายนี้ก็เป็นฮีโรของทีมในนาทีต่อมาเมื่อมาทำประตูตีเสมอให้ต้นสังกัดได้สำเร็จ จากจังหวะที่ได้บอลจาก ตอร์เรส หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนจะซัดเรียดผ่านมือ ฮาวเวิร์ด พา "หงส์แดง" ตามตีเสมอ 1-1
เกมมาถึงนาทีที่ 57 เจ้าถิ่นมีลุ้นอีกครั้งเมื่อ ฮาวเวิร์ด ออกมาตัดบอลพลาด บอลมาถึง เคาท์ ส่งต่อไปให้ ตอร์เรส ก่อนที่จังหวะสุดท้ายเป็นเจอร์ราร์ด ได้ยิงแต่นายทวารชาวอเมริกันแก้ตัวตามมาเซฟไว้ได้ทัน โดยรูปเกมหลังจากนี้ทั้งสองทีมเล่นกันอย่างระมัดระวังมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นการขับเคี่ยวกันในแดนกลางไม่มีโอกาสต่อบอลกันขึ้นมาส่องประตูคู่แข่งอย่างชัดเจน
เกมล่วงเลยมาถึงช่วง 10 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล มีโอกาสลุ้นทำประตูพลิกขึ้นนำ 2-3 จังหวะ เจอร์ราร์ด ทำเกมรุกขึ้นมาก่อนจ่ายให้ เคาท์ ยิงเต็มแรงแต่บอลพุ่งไปตรงตัว ฮาวเวิร์ด ป้องกันไว้ได้ นาทีต่อมาเป็นกัปตันทีมหงส์แดงอีกครั้งที่จ่ายบอลให้ ตอร์เรส ได้ง้างเท้ายิงแต่ถูก จากีลกา ตามมาบล็อกไว้ได้ทันอีก ทำให้สุดท้ายทั้งสองทีมก็ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้จบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องกลับไปแข่งใหม่ที่สนาม กูดิสัน ปาร์ก ของเอฟเวอร์ตัน
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี คาร์ราเกอร์, อันเดรีย ดอสเซนา, ชาบี อลอนโซ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เดิร์ก เคาท์, ไรอัน บาเบล เฟอร์นานโด ตอร์เรส
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาเวิร์ด, โทนี ฮิบเบิร์ต, โจเลียน เลสคอตต์, เลห์ตัน เบนส์, ฟิล เนวิลล์, ฟิล จากีลกา, เซกุนโด คาสติลโญ ,เลออน ออสมัน, สตีเวน พีนาร์, ทิม เคฮิลล์, วิคเตอร์ อานิเชเบ
ผลการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่
ลิเวอร์พูล 1-1 เอฟเวอร์ตัน
ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือของ ลิเวอร์พูล ตัดสินใจส่ง ฮาเวียร์ มาสเชราโน ลงสนามเป็นตัวจริงในเกมนี้เช่นเดียวกับ สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีมหลังจากเพิ่งเดินทางไปขึ้นศาลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับกรณีเหตุทะเลาะวิวาทและทำลายร่างกายที่เกิดขึ้นเมื่อปีก่อน ขณะที่ เดวิด มอยส์ กุนซือของ เอฟเวอร์ตัน อดใช้งาน มารูยาน เฟลลายนี มิดฟิลด์ร่างโย่งที่ติดโทษแบน แต่ยังมี ทิม เคฮิลล์ ลงสนามเป็นตัวแสบของคู่แข่งเช่นเดิม
เริ่มเกมครึ่งแรก บรรยากาศภายในแอนฟิลด์เป็นไปอย่างเข้มข้นเผ็ดร้อนเมื่อแฟนบอลทั้งสองฝ่ายส่งเสียงเชียร์ทีมรักก้องไปทั้งสนาม หลังเขี่ยลูกมา อลอนโซ ลองยิงไกลก่อนเลยทันที แต่บอลไม่ตรงกรอบออกหลังไป มาถึงนาทีที่ 5 ทีมเยือนทำเกมขึ้นมาซึ่งเป็นการประสานงานกันระหว่าง พีนาร์ และ อนิเชเบ ก่อนที่จังหวะสุดท้ายฝ่ายหลังจะถูก อาร์เบลัว สกัดล้มลงแต่กรรมการไม่ว่าอะไร
เกมมาถึงนาทีที่ 11 "หงส์แดง" ได้ลูกเตะมุม เจอร์ราร์ด รับหน้าที่เปิดบอลเข้ามาและเป็น คาร์ราเกอร์ ที่เติมมาลุ้นทำประตูได้ยิงจังหวะสุดท้ายแต่บอลเพียงแค่เข้าข้างตาข่าย ต่อมา เอฟเวอร์ตัน โต้ตอบกลับบ้างจาก ออสมัน แต่ก็ไม่สร้างปัญหาให้แก่ เรนา แต่อย่างใด
ลิเวอร์พูล ครองบอลได้เหนือกว่าอย่างชัดเจนในเกมนี้ แต่แล้วเมื่อมาถึงนาทีที่ 28 แฟนบอลต้องช็อกกันทั้งสนามเมื่อ เอฟเวอร์ตัน กลับมาทำประตูออกนำไปก่อนจากจังหวะลูกเตะมุมและเป็น เลสคอตต์ เติมเกมมาโหม่งเข้าประตูไปให้ "ทอฟฟี" นำก่อน 1-0 หลังจากเสียประตูนี้ลูกทีมของ เบนิเตซ ก็โหมบุกหนักแต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถตามตีเสมอได้ทำให้จบ 45 นาทีแรกตามหลัง 0-1
เริ่มเกมครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล เปิดเกมรุกเข้าใส่เหมือนเดิม โดย เจอร์ราร์ด มีโอกาสได้ยิงในนาทีที่ 53 แต่เหินข้ามคานออกไป อย่างไรก็ตามมิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษรายนี้ก็เป็นฮีโรของทีมในนาทีต่อมาเมื่อมาทำประตูตีเสมอให้ต้นสังกัดได้สำเร็จ จากจังหวะที่ได้บอลจาก ตอร์เรส หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนจะซัดเรียดผ่านมือ ฮาวเวิร์ด พา "หงส์แดง" ตามตีเสมอ 1-1
เกมมาถึงนาทีที่ 57 เจ้าถิ่นมีลุ้นอีกครั้งเมื่อ ฮาวเวิร์ด ออกมาตัดบอลพลาด บอลมาถึง เคาท์ ส่งต่อไปให้ ตอร์เรส ก่อนที่จังหวะสุดท้ายเป็นเจอร์ราร์ด ได้ยิงแต่นายทวารชาวอเมริกันแก้ตัวตามมาเซฟไว้ได้ทัน โดยรูปเกมหลังจากนี้ทั้งสองทีมเล่นกันอย่างระมัดระวังมากขึ้น ส่วนใหญ่เป็นการขับเคี่ยวกันในแดนกลางไม่มีโอกาสต่อบอลกันขึ้นมาส่องประตูคู่แข่งอย่างชัดเจน
เกมล่วงเลยมาถึงช่วง 10 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล มีโอกาสลุ้นทำประตูพลิกขึ้นนำ 2-3 จังหวะ เจอร์ราร์ด ทำเกมรุกขึ้นมาก่อนจ่ายให้ เคาท์ ยิงเต็มแรงแต่บอลพุ่งไปตรงตัว ฮาวเวิร์ด ป้องกันไว้ได้ นาทีต่อมาเป็นกัปตันทีมหงส์แดงอีกครั้งที่จ่ายบอลให้ ตอร์เรส ได้ง้างเท้ายิงแต่ถูก จากีลกา ตามมาบล็อกไว้ได้ทันอีก ทำให้สุดท้ายทั้งสองทีมก็ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้จบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องกลับไปแข่งใหม่ที่สนาม กูดิสัน ปาร์ก ของเอฟเวอร์ตัน
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : เปเป เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี คาร์ราเกอร์, อันเดรีย ดอสเซนา, ชาบี อลอนโซ, ฮาเวียร์ มาสเชราโน, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เดิร์ก เคาท์, ไรอัน บาเบล เฟอร์นานโด ตอร์เรส
เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาเวิร์ด, โทนี ฮิบเบิร์ต, โจเลียน เลสคอตต์, เลห์ตัน เบนส์, ฟิล เนวิลล์, ฟิล จากีลกา, เซกุนโด คาสติลโญ ,เลออน ออสมัน, สตีเวน พีนาร์, ทิม เคฮิลล์, วิคเตอร์ อานิเชเบ
