ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือจอมเทคติกแห่ง ลิเวอร์พูล เปิดเผยถึงอาการบาดเจ็บของ สตีเวน เจอร์ราร์ด มิดฟิลด์กัปตันทีมว่าต้องรอผลการสแกนจึงจะทราบว่ามีความรุนแรงมากน้อยเพียงใด พร้อมกล่าวถึงเกมเอฟเอ คัพ เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาซึ่ง “หงส์แดง” พ่าย เอฟเวอร์ตัน 0-1 จนตกรอบสี่ว่ารู้สึกผิดหวัง แต่มองในแง่ดีว่าจะได้กลับมามุ่งมั่นอยู่กับศึกพรีเมียร์ ลีก และยูฟา แชมเปียนส์ ลีก
เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (4 ก.พ.) ลิเวอร์พูล ออกเดินทางไปเยือนถิ่นกูดิสัน ปาร์ก ของ เอฟเวอร์ตัน เพื่อลงแข่งฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์ ผลปรากฏว่า “หงส์แดง” ต้องพบกับข่าวร้ายตั้งแต่นาทีที่ 16 เมื่อเจอร์ราร์ดมีอาการบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าจนถูกเปลี่ยนตัวออกไป โดยรูปเกมของทั้งสองทีมเป็นไปอย่างสูสีหาจังหวะทำประตูกันลำบาก แต่แล้วเมื่อถึงนาทีที่ 74 ทีมเยือนก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบตัวผู้เล่น เมื่อ ลูคัส มิดฟิลด์ชาวบราซิลได้รับใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงถูกไล่ออกไป แต่ยันไว้ได้กระทั่งจบเกม 90 นาทีด้วยผลเสมอจนต้องเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษและเป็น แดน กอสลิง กองหลังดาวรุ่งมาซัดประตูชัย 1-0 ในนาทีที่ 118 ให้ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เฉือนเอาชนะพร้อมผ่านเข้าสู่รอบ 5 ไปพบกับ แอสตัน วิลลา
ภายหลังการแข่งขัน เบนิเตซ ออกมาเปิดเผยถึงอาการบาดเจ็บของกัปตันทีมว่า “ผมไม่รู้ว่า สตีเวน ต้องพักนานเพียงใด เขารู้สึกเจ็บจึงปลี่ยนตัวออกจากสนาม เขาจะเข้ารับการสแกนดูอาการในวันพรุ่งนี้ เราได้แต่เพียงรอดูว่าผลเป็นเช่นไร”
กุนซือชาวสแปนิชกล่าวถึงเกมที่ผ่านมาด้วยว่ารู้สึกผิดหวังที่ประสบกับความพ่ายแพ้จนต้องตกรอบไป แต่มองในแง่ดีเช่นกันว่าจะได้กลับมามุ่งมั่นทำผลงานอยู่กับเกมพรีเมียร์ ลีก และ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก
“ผมรู้สึกผิดหวังจริงๆที่ตกรอบเอฟเอ คัพ จุดเปลี่ยนของเกมคือตอนที่ลูกทีมถูกไล่ออก แต่ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้มากนักเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของเกมฟุตบอล เราทำงานกันอย่างหนักด้วยผู้เล่นเพียง 10 คนเป็นระยะเวลานาน แต่การมาเสียประตูในช่วงท้ายเกมถือว่าเป็นฝันร้ายในตอนจบ” ผู้จัดการทีมวัย 49 ปีกล่าว
“แต่ตอนนี้เราจะได้มุ่งมั่นอยู่กับเกมพรีเมียร์ ลีก และ แชมเปียนส์ ลีก ดังนั้นยังมีเกมรออยู่ข้างหน้าอีกมากมาย ทั้งสองรายการมีความสำคัญมากและเราก็กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ดี” เบนิเตซ กล่าวปิดท้าย
เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (4 ก.พ.) ลิเวอร์พูล ออกเดินทางไปเยือนถิ่นกูดิสัน ปาร์ก ของ เอฟเวอร์ตัน เพื่อลงแข่งฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสี่ นัดรีเพลย์ ผลปรากฏว่า “หงส์แดง” ต้องพบกับข่าวร้ายตั้งแต่นาทีที่ 16 เมื่อเจอร์ราร์ดมีอาการบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าจนถูกเปลี่ยนตัวออกไป โดยรูปเกมของทั้งสองทีมเป็นไปอย่างสูสีหาจังหวะทำประตูกันลำบาก แต่แล้วเมื่อถึงนาทีที่ 74 ทีมเยือนก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบตัวผู้เล่น เมื่อ ลูคัส มิดฟิลด์ชาวบราซิลได้รับใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงถูกไล่ออกไป แต่ยันไว้ได้กระทั่งจบเกม 90 นาทีด้วยผลเสมอจนต้องเข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษและเป็น แดน กอสลิง กองหลังดาวรุ่งมาซัดประตูชัย 1-0 ในนาทีที่ 118 ให้ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เฉือนเอาชนะพร้อมผ่านเข้าสู่รอบ 5 ไปพบกับ แอสตัน วิลลา
ภายหลังการแข่งขัน เบนิเตซ ออกมาเปิดเผยถึงอาการบาดเจ็บของกัปตันทีมว่า “ผมไม่รู้ว่า สตีเวน ต้องพักนานเพียงใด เขารู้สึกเจ็บจึงปลี่ยนตัวออกจากสนาม เขาจะเข้ารับการสแกนดูอาการในวันพรุ่งนี้ เราได้แต่เพียงรอดูว่าผลเป็นเช่นไร”
กุนซือชาวสแปนิชกล่าวถึงเกมที่ผ่านมาด้วยว่ารู้สึกผิดหวังที่ประสบกับความพ่ายแพ้จนต้องตกรอบไป แต่มองในแง่ดีเช่นกันว่าจะได้กลับมามุ่งมั่นทำผลงานอยู่กับเกมพรีเมียร์ ลีก และ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก
“ผมรู้สึกผิดหวังจริงๆที่ตกรอบเอฟเอ คัพ จุดเปลี่ยนของเกมคือตอนที่ลูกทีมถูกไล่ออก แต่ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้มากนักเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของเกมฟุตบอล เราทำงานกันอย่างหนักด้วยผู้เล่นเพียง 10 คนเป็นระยะเวลานาน แต่การมาเสียประตูในช่วงท้ายเกมถือว่าเป็นฝันร้ายในตอนจบ” ผู้จัดการทีมวัย 49 ปีกล่าว
“แต่ตอนนี้เราจะได้มุ่งมั่นอยู่กับเกมพรีเมียร์ ลีก และ แชมเปียนส์ ลีก ดังนั้นยังมีเกมรออยู่ข้างหน้าอีกมากมาย ทั้งสองรายการมีความสำคัญมากและเราก็กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ดี” เบนิเตซ กล่าวปิดท้าย