ได้เวลา “ผี” ล่าเก้าอี้จ่าฝูง / เซียนไก๋

“แชมป์เก่า” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสที่จะขึ้นนั่งบัลลังก์จ่าฝูง พรีเมียร์ชิป อังกฤษ เป็นครั้งแรกของฤดูกาล หากบุกไปเอาชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ถึงถิ่น รีบอค สเตเดียม ในวันเสาร์ที่ 17 มกราคมนี้ เพื่อโยนความกดดันไปให้กับ ลิเวอร์พูล ที่จะลงเล่นทีหลังในคืนมันเดย์ไนท์ พบกับอริร่วมเมือง เอฟเวอร์ตัน

เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา แมนฯยู เพิ่งเก็บ 3 แต้มเต็มจากนัดตกค้างนัดแรกด้วยการเปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด เฉือนชนะ วีแกน แอธเลติก 1-0 จากประตูชัยของ เวย์น รูนีย์ ดาวยิงตัวเก่งตั้งแต่ 57 วินาทีแรก ก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกเนื่องจากเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาที่จะต้องพักนานถึง 3 สัปดาห์เลยทีเดียว จากการเปิดเผยของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

“คือ อาการบาดเจ็บต้นขา ซึ่งเป็นปัญหาที่คุณไม่สามารถทำอะไรได้ ดังนั้น พวกเราจะรอดูอาการเพียงอย่างเดียว แต่คาดว่า รูนีย์ น่าจะพักฟื้นอย่างน้อย 3 สัปดาห์ หลังเกมนี้ พวกเราต้องเดินหน้าต่อไป ตอนนี้เรากำลังอยู่บนเส้นทางที่จะบรรลุไปสู่เป้าหมาย ในวันเสาร์นี้พวกเราจะพบกับ โบลตัน และนั้นจะเป็นอีกเกมที่ยากลำบาก” เฟอร์กี กล่าวว่า

การขาด รูนีย์ โอกาสจึงไปตกอยู่กับ คาร์ลอส เตเบซ แต่เมื่อดูฟอร์มของดาวยิงอาร์เจนไตน์ ที่ลงมาสำรองในเกมกับ วีแกน แล้ว ก็ไม่น่าแปลกใจเลย หาก เฟอร์กี จะไม่เซ็นสัญญาแบบถาวร นอกจากนี้ แมนฯยู ยังไม่มี ปาทริซ เอฟรา แบ็กซ้ายที่ต้องพัก 3 สัปดาห์ ส่วนอาการของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังจอมแกร่ง ยังต้องลุ้น หลังวืดมาแล้ว 6 นัดติด

แม้จะขาดตัวหลักหลายคน แต่เกมรับของ แมนฯยู ยังสุดแกร่งไม่เสียประตู 9 นัดติด ขออีกแค่ 2 นัดก็จะทำลายสถิติ เชลซี ทันที อย่างไรก็ตาม เกมนี้ห้ามประมาท โบลตัน เพราะเมื่อฤดูกาลที่แล้ว “ผีแดง” ก็พลาดท่าแพ้ที่สนามแห่งนี้มาแล้วด้วยสกอร์ 0-1 โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ลูกทีมของ เฟอร์กี มีสถิติเล่นนอกบ้านที่ไม่ดีเสียด้วย

ทางด้านเจ้าถิ่น โบลตัน กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มสุดห่วยแพ้มาแล้ว 3 นัดรวด แต่ตุนมาดีจึงเกาะอันดับที่ 12 ของตาราง อย่างไรก็ตาม จะชะล่าใจไม่ได้ เพราะโซนท้ายตารางคะแนนไม่ห่างกันมากนัก ซึ่งที่ผ่านมา ก็ต้องบอกว่าโชคร้ายที่เจอโปรแกรมสุดโหด เพราะหากนับเจอกับ แมนฯยู แมตช์นี้ ก็เป็นการเตะกับท็อปไฟว์ 5 ใน 7 นัดหลังสุดเข้าให้แล้ว

แกรี เม็กสัน กุนซือ โบลตัน ประสบปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายคน เกมล่าสุดที่บุกไปพ่าย อาร์เซนอล 0-1 ก็ส่งตัวสำรองลงไปแค่ 4 คนเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม เกมนี้มีลุ้นได้ แกรี เคฮิลล์ ปราการหลังคนสำคัญคืนทัพ หลังจากเจ็บสะโพกวืดลงเล่นในช่วง 3 นัดหลังสุด แต่ถึงกระนั้นเกมนี้ก็น่าจะต้าน แมนฯยู ที่มีเป้าหมายชัดเจนค่อนข้างยาก

ถัดมาอีกคู่ในคืนมันเดย์ไนท์ “จ่าฝูง” ลิเวอร์พูล ที่กำลังอยู่ภายใต้ความกดดันแสนสาหัส เกมนี้จะลงสนามหลัง แมนฯยูไนเต็ด ซึ่งต้องลุ้นว่าเมื่อถึงตอนนั้นจะตกจากบัลลังก์หรือยัง โดยจะเปิดรัง แอนฟิลด์ ทำศึก เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บีแมตช์ ครั้งที่ 209 กับ เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 6 ที่ฟอร์มกำลังดีวันดีคืน

ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ ลิเวอร์พูล โดนสงครามประสาทของ เฟอร์กี เล่นงานจนนัดล่าสุดทำได้แค่เสมอ สโต๊ก ซิตี 0-0 แต่ต้องบอกว่า ราฟา วางแผนผิดพลาดเองจนทำให้สาวก “เดอะ ค็อป” บ่นกันอุบ กับปัญหาเดิมๆ คือ ร็อบบี คีน ฟอร์มกำลังเข้าฝักกลับไม่ส่งลงสนาม และการปล่อยให้ ลูคัส วาดลวดลายสะเปะสะปะจนกระทั่งจบเกม

เกมนี้จึงต้องเดาการจัดตัวของ ราฟา อีกครั้ง อาจจะเป็น 4-5-1 ด้วยการส่งกองกลาง 5 คนไปบู๊เกมหนักกับ เอฟเวอร์ตัน ตอร์เรส คนที่ยิงประตูชัยในเกมที่ทั้งคู่พบกันที่นี่เมื่อฤดูกาลที่แล้ว คงถึงเวลาที่ต้องเป็นตัวจริงได้แล้ว ส่วน คีน น่าจะต้องนั่งสำรองต่อไป ส่วน ชาบี อลอนโซ กองกลางตัวเก็บบอลน่าจะยังไม่หายเจ็บพร้อมในเกมนี้

ฝั่ง เอฟเวอร์ตัน ฟอร์มกำลังสุดบรรเจิดไม่แพ้มาแล้ว 5 นัดรวด แถมเป็นการชนะถึง 4 นัด ทำให้พุ่งขึ้นมามีลุ้นแย่ง แอสตัน วิลลา และ อาร์เซนอล ไปลุยศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า โดยเวลานี้ห่างจาก วิลลา อันดับ 4 อยู่ 6 คะแนน อีกทั้งปีนี้เล่นบอกบ้านดีเหลือเกินชนะ 7 จาก 10 นัดเลยทีเดียว

เดวิด มอยส์ กุนซือ เอฟเวอร์ตัน มีปัญหากองหน้านัดกันเดี้ยง ทำให้เกมล่าสุดที่อัด ฮัลล์ ซิตี 2-0 ต้องดัน ทิม เคฮิลล์ และ มารัวเน เฟลลายนี สองกองกลางขึ้นไปเล่นเป็นกองหน้าคู่กัน โดยเฉพาะรายหลังที่ยิงประตูได้ด้วย แต่ว่ามิดฟิลด์เบลเยี่ยมที่กดไปแล้ว 4 ประตู สะสมใบเหลือครบ 10 ใบ ในเกมดังกล่าวจึงถูกแบนอดวัดแข้งกับ ลิเวอร์พูล

ช่วงหลัง ลิเวอร์พูล มักทำได้เยี่ยมเสมอยามเจอกับอริร่วมเมืองชนะมาแล้ว 4 นัดรวด แต่หากจะนับเฉพาะที่ แอนฟิลด์ ก็ไม่แพ้มาแล้ว 8 ฤดูกาลติดต่อกัน ส่วนเกมนี้มีโอกาสสูงที่จะออกมาเสมอกัน อย่างไรก็ตาม “หงส์แดง” ในฐานะเจ้าถิ่นมีตัวเลือกที่หลากหลายในแนวรุก น่าจะเบียดชนะ เอฟเวอร์ตัน ที่ขาดนักเตะตัวหลักหลายคน ไปแบบสุดหืด

ฟันธง ตรงเผง โดย เซียนไก๋ เจริญกรุง
แบล็กเบิร์น เสมอ นิวคาสเซิล 1-1
โบลตัน แพ้ แมนฯยู 0-2
เชลซี ชนะ สโต๊ก 2-0
แมนฯซิตี ชนะ วีแกน 3-2
ซันเดอร์แลนด์ แพ้ วิลลา 1-2
เวสต์ บรอม แพ้ มิดเดิลสโบรช์ 0-1
ฮัลล์ เสมอ อาร์เซนอล 0-0
เวสต์แฮม ชนะ ฟูแลม 1-0
สเปอร์ส เสมอ ปอร์ทสมัธ 2-2
ลิเวอร์พูล ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1

โปรแกรมฟุตบอล "พรีเมียร์ชิป" ช่วงสุดสัปดาห์นี้
วันเสาร์ที่ 17 มกราคม 2552
แบล็คเบิร์น พบ นิวคาสเซิล เวลา 22.00น.
โบลตัน พบ แมนฯยู เวลา 22.00น.
เชลซี พบ สโต๊ค เวลา 22.00น.
แมนฯซิตี พบ วีแกน เวลา 22.00น.
ซันเดอร์แลนด์ พบ วิลลา เวลา 22.00น.
เวสต์ บรอม พบ มิดเดิลสโบรช์ เวลา 22.00น.
ฮัลล์ พบ อาร์เซนอล เวลา 00.30น.
วันอาทิตย์ที่ 18 มกราคม 2552
เวสต์ แฮม พบ ฟูแลม เวลา 20.30น.
สเปอร์ส พบ ปอร์ทสมัธ เวลา 23.00น.
วันจันทร์ที่ 19 มกราคม 2552
ลิเวอร์พูล พบ เอฟเวอร์ตัน เวลา 03.00น.