xs
xsm
sm
md
lg

“ผี” ลุ้นหายฝืดรับมือ “เชลซี” / เซียนไก๋

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ริโอ ประกบติด อเนลกา
เกม พรีเมียร์ชิป นัดแรกของปี 2009 ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะ 2 ทีมลุ้นแชมป์ต้องมาตัดแต้มกันเอง คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด รับมือ เชลซี เตะเป็นคู่สุดท้ายของวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคมนี้ ส่วนที่นั่งยิ้มก็คือ “จ่าฝูง” ลิเวอร์พูล เพราะเจองานไม่หนักแข่งก่อนหนึ่งวันด้วยการบุกไปเยือน สโต๊ก ซิตี

เมื่อโปรแกรมเป็นใจเช่นนี้ ลิเวอร์พูล จึงมีโอกาสที่จะทิ้งห่างออกไปอีกจากเดิมที่นำ เชลซี อยู่ 3 แต้มจากการแข่งเท่ากัน 20 นัด และนำ แมนฯยูไนเต็ด 7 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 2 นัด ไม่ว่าผลการแข่งขันที่ “เธียเตอร์ ออฟ ดรีม” จะออกมาเช่นไรก็ตาม เว้นเสียแต่ “หงส์แดง” จะทำตัวเอง คือ ไม่ชนะ สโต๊ก เหมือนนัดแรกที่เสมอ 0-0 ที่ แอนฟิลด์ มาแล้ว

สำหรับนัดแรกของฤดูกาล แมนฯยู เกือบบุกไปชนะถึง สแตมฟอร์ด บริดจ์ แต่ว่าถูกลูกโหม่งของ ซาโลมอน กาลู ตีเสมอ 1-1 ทำให้ เชลซี ยังไม่แพ้ในบ้านในรอบ 4 ปี แต่ถึงกระนั้นก็ตามต้องมาเสียสถิตด้วยน้ำมือของ ลิเวอร์พูล และ อาร์เซนอล ในเดือนถัดมาแทน แต่ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คือ ในเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศเมื่อฤดูกาลที่แล้ว “ผีแดง” เป็นฝ่ายฝากรอยแค้นเอาไว้จากการเอาชนะจุดโทษที่ จอห์น เทอร์รี กัปตัน “สิงห์บลูส์” ลื่นล้มเป็นการสงเคราะห์ให้ด้วย

แมนฯยูไนเต็ด อยู่ในช่วงฟอร์มสุดฝืด เพราะ 6 นัดหลังสุดในลีกยิงได้แค่ 4 ประตูเท่านั้น แถมเป็นการเสมอ 0-0 ถึง 2 นัด แต่ที่อุ่นใจได้หน่อย คือ การที่ไม่เสียประตูมาแล้ว 7 นัดรวด 2 ลูกสุดท้ายที่เสีย คือ ในเกมบุกพ่าย อาร์เซนอล 1-2 เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว รวมถึงเป็นหนึ่งในสองทีมร่วมกับ ลิเวอร์พูล ที่ยังไม่แพ้ในรังปีนี้

ที่พอจะเชิดหน้าชูตาได้หน่อย ก็คือ ในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 3 ที่ถล่ม เซาแธมป์ตัน 3-0 แต่ล่าสุด ในศึก คาร์ลิง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อคืนวันพุธที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา มีอันต้องเสียหน้าอย่างแรง เมื่อจัดตัวแบบไม่สมดุล ทำให้บุกไปพ่าย ดาร์บี เคาน์ตี ทีมในเดอะแชมเปียนชิป 0-1 แต่โชคดีหน่อยที่ยังมีแก้ตัวอีกนัดที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด

หลังเกม เฟอร์กี ออกมาเผยว่า “นี่ถือว่าเราโชคดีแล้ว ความจริงน่าจะแพ้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ เพราะเราเล่นกันได้ย่ำแย่มาก และ ดาร์บี ก็พลาดโอกาสงามๆ ไปไม่น้อย แต่เราเชื่อว่าจะสามารถพลิกสถานการณ์จากที่ตามหลัง 0-1 กลับมาเอาชนะได้ในการเล่นที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด จากนี้เราคงจะต้องมุ่งเป้าไปที่เกมนัดหน้าที่จะพบกับ เชลซี ที่สำคัญไม่แพ้กัน”

นัดนี้บรรดาตัวจริงอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด, เวย์น รูนีย์ และ ไมเคิล คาร์ริค ที่ลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงครึ่งหลังเกมพ่าย ดาร์บี จะคืนทัพออกสตาร์ททั้งหมด เช่นเดียวกับ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ที่น่าจะได้รับโอกาส เนื่องจาก พอล สโคลส์ อาจล้าจากเกมวันพุธ รวมถึง ปาร์ค จี ซอง ที่คงได้ลงมาลากเลื้อย เพราะตอนนี้กลายเป็นลูกรักของ เฟอร์กี ไปแล้ว

ทางด้านอาคันตุกะ เชลซี มาเยือนในสภาพที่เป็นรองทุกรูปแบบ สถิติการเล่นนอกบ้านที่เคยชนะ 8 นัดรวด ล่าสุด ก็ทำได้แค่บุกไปเสมอกับ ฟูแลม 2-2 ถือเป็นการเก็บหนึ่งแต้ม 3 ใน 4 นัดหลังสุด จึงถูก ลิเวอร์พูล ทิ้งห่างไป 3 แต้ม นัดล่าสุดที่ลงเล่นเป็นในศึก เอฟเอ คัพ รอบสาม ที่ทำได้แค่เสมอกับทีมรองบ่อนอย่าง เซาธ์เอนด์ ยูไนเต็ด 1-1

แฟรงก์ แลมพาร์ด กองกลางห้องเครื่อง เชลซี จึงต้องออกมากระตุ้นเพื่อนร่วมค่าย เพราะรู้ดีว่าเกมนี้จะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด “การเจอกับ แมนฯยู มักจะเป็นการขับเคี่ยว เพื่อแย่งตำแหน่งทีมนำ แต่เรารู้ดีแก่ใจว่าทำแต้มหลุดมือง่ายๆ ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนั้น ที่ที่เราอยู่เวลานี้จึงจำเป็นต้องได้รับการผลการแข่งขันที่ต้องการ เราจะไปเยือนพวกเขาในแบบที่ต้องชนะหรือไม่แพ้ จริงอยู่แม้หนทางที่เหลือยังอีกไกล แต่ว่านี่คือเกมที่สำคัญมาก”

เกมนี้ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี นายใหญ่ชาวบราซิเลียน จะปรับ เชลซี เล่นในระบบ 4-5-1 หลังจากลอง 4-4-2 แล้วไม่ได้ผล นิโกลาส์ อเนลกา ที่ซัดไปแล้ว 14 ประตู จะกลับมายืนเป็นหอกหน้าเป้าอีกครั้ง ส่วน ดิดิเยร์ ดร็อกบา คงจะหลุดไปเป็นสำรอง หลังจากฟอร์มเก่งหดหาย รวมถึงออกมาวิพากษ์วิจารณ์ทีมจนถูกปรับเงินก้อนโต

นัดนี้ เชลซี จะได้ จอห์น เทอร์รี กองหลังกัปตันทีมพ้นโทษแบนกลับมาบัญชาการแนวรับ แต่ต้องลุ้น โฮเซ โบซิงวา แบ็กขวาจอมลุย ที่มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วน ซาโลมอน กาลู น่าจะถูกโยกมาเล่นในตำแหน่งปีก เพราะทีมกำลังประสบปัญหานักเตะบาดเจ็บหลายคน ส่วน เดโก ห้องเครื่องโปรตุเกส ไม่แน่ว่าจะได้ลงเล่นเพราะว่าฟอร์มตก

ฤดูกาลที่แล้วที่ทั้งคู่พบกันนับเฉพาะในลีก แมนฯยู เอาชนะได้ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 2-0 ในยุคของ อัฟราม แกรนท์ ครั้งสุดท้ายที่ เชลซี บุกมาคว้าชัยต้องย้อนไปในฤดูกาล 2004-2005 ด้วยสกอร์ 3-1 ส่วนหนนี้ถือเป็นการเจอกันของทีมที่เล่นในบ้านและนอกบ้านดีที่สุด แต่บรรดาแนวรุกของ “ผีแดง” ยังจูนกันไม่ลงตัว ทำให้ผลิตสกอร์ได้น้อยจนน่าใจหาก ถ้ายังแก้ปัญหานี้ไม่ตกเกมนี้คงยากที่จะเอาชนะผู้มาเยือน

ฟันธง ตรงเผง โดย เซียนไก๋ เจริญกรุง
วิลลา ชนะ เวสต์บรอม 2-0
เอฟเวอร์ตัน ชนะ ฮัลล์ 2-1
ฟูแลม เสมอ แบล็กเบิร์น 0-0
มิดเดิลสโบรช์ เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 1-1
นิวคาสเซิล ชนะ เวสต์แฮม 2-0
ปอร์ทสมัธ แพ้ แมนฯซิตี 1-2
อาร์เซนอล ชนะ โบลตัน 1-0
สโต๊ก แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2
วีแกน ชนะ สเปอร์ส 2-1
แมนฯยู เสมอ เชลซี 1-1

โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ชิป ช่วงสุดสัปดาห์นี้
วันเสาร์ที่ 10 มกราคม 2552
วิลลา พบ เวสต์บรอม เวลา 19.45 น.
เอฟเวอร์ตัน พบ ฮัลล์ เวลา 22.00 น.
ฟูแลม พบ แบล็กเบิร์น เวลา 22.00 น.
มิดเดิลสโบรช์ พบ ซันเดอร์แลนด์ เวลา 22.00 น.
นิวคาสเซิล พบ เวสต์แฮม เวลา 22.00 น.
ปอร์ทสมัธ พบ แมนฯซิตี เวลา 22.00 น.
อาร์เซนอล พบ โบลตัน เวลา 22.00 น.
สโต๊ก พบ ลิเวอร์พูล เวลา 00.30 น.

วันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม 2552
วีแกน พบ สเปอร์ส เวลา 20.30 น.
แมนฯยู พบ เชลซี เวลา 23.00 น.
ปาร์ค ยึดตัวจริงผีแล้ว
เฟลทเชอร์ ห้ำหั่นกับ แลมพาร์ด
กำลังโหลดความคิดเห็น