พรีเมียร์ชิป ฤดูกาลนี้สุดจะเอาใจคอบอลเมื่อเสิร์ฟโปรแกรม “บิ๊กแมตช์” ตั้งแต่หัววันมาแล้ว 3 สัปดาห์ติดต่อกัน แต่เมนูเด็ดยังไม่หมดแค่นั้น เพราะในวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคมนี้ ลิเวอร์พูล ซึ่งฟอร์มกำลังแรง เจองานช้างจะต้องบุกรัง แมนเชสเตอร์ ซิตี ในเวลา 3 ทุ่มตรง เตะพร้อมกันกับ จ่าฝูง เชลซี ที่ไม่ง่าย เพราะต้องรับมือ แอสตัน วิลลา
ลิเวอร์พูล หมายมั่นปั้นมือกับแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้มากเป็นพิเศษ อีกทั้งยังออกสตาร์ทได้ดีนำร่วมกับ เชลซี ฟอร์มโดยรวมก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แถมหากนับรวมทุกรายการผลงานดีกว่าด้วย ล่าสุด ในลีกก็อัด เอฟเวอร์ตัน ในเกม เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บีแมตช์ ส่วนใน ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน 3-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
แถมมีข่าวดีอีกเมื่อ ราฟาเอล เบนิเตซ นายใหญ่ลิเวอร์พูล ประกาศจะเลิกใช้ระบบโรเตชันแล้ว “เรามีประสบการณ์มาแล้วจากฤดูกาลก่อน ผมจะไม่เปลี่ยนแปลงทีมมากเกินไป ถ้านักเตะบางคนยังทำผลงานได้ดี บางทีมันก็เป็นเรื่องดีที่จะปล่อยให้พวกเขาได้ลงสนามต่อไป โดยปกติแล้ว ทีมของเราจะดูที่สภาพร่างกายและความพร้อมของนักเตะรวมถึงเทคติกของทีม เราถึงจะค่อยตัดสินใจจัดทีม แต่ตอนนี้เราเริ่มต้นมาด้วยการทำอันดับที่ดี ดังนั้นผมคิดว่าผมไม่ควรจะเปลี่ยนแปลงทีมมากจนเกินไป”
นอกจากนี้ ยังมีสัญญาณที่ดีจากทั้ง เฟอร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิง 32 ประตูเมื่อฤดูกาลก่อน คลำเป้าเจอแล้วซัด 2 ลูกในเกมชนะ เอฟเวอร์ตัน ส่วน ร็อบบี คีน หอกค่าตัวแพงก็ประเดิมสกอร์แรกไปแล้วในถ้วยยุโรปที่ชนะ พีเอสวี เรียกได้ว่าเริ่มลงตัว เพราะว่าเกมรับก็ยังคงเหนียวแน่นสืบเนื่องมาจากฤดูกาลก่อนเสียน้อยที่สุดในลีกแค่ 2 ลูกเท่านั้น
เกมนี้ ลิเวอร์พูล น่าจะได้ ฮาเวียร์ มาสเชราโน กองกลางตัวตัดเกม หายเจ็บออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังคืนทัพเป็นตัวสำรองได้แล้วในเกมยุโรป นอกนั้นน่าจะเป็นชุดเดิม อัลเบิร์ต ริเอรา จะได้กระชากลากเลื้อยกราบซ้ายแทนที่ ไรอัน บาเบล ต่อไป โดยมี สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่ซัดครบ 100 ลูกในสีเสื้อ “หงส์แดง” ไปแล้ว นำทัพใหญ่
อย่างไรก็ตาม เกมนี้ ลิเวอร์พูล ห้ามประมาทเด็ดขาด เพราะสถิติเก่าในการมาเยือน เดอะ ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดียม คงวัดอะไรไม่ได้ เนื่องจาก แมนฯซิตี ในฤดูกาลนี้เปลี่ยนรูปโฉมจากหน้ามือเป็นหลังมือ และคาดว่า จะเปลี่ยนไปอีกในช่วงตลาดเปิดเดือนมกราคมนี้ หลังการมาของมหาเศรษฐีจากแถบตะวันออกกลาง
แมนฯซิตี เกาะอันดับ 8 ของตาราง ชนะ 3 และแพ้ 3 นัด ล่าสุด เสียหน้าไม่น้อย เพราะว่าเพิ่งตกรอบ คาร์ลิง คัพ ด้วยน้ำมือของ ไบรท์ตัน และแพ้ วีแกน แอธเลติก 1-2 ในเกม พรีเมียร์ชิป แถมต้องเจองานหนักกับ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้อีก ดังนั้น มาร์ก ฮิวจ์ส จะต้องโชว์กึ๋นกระตุ้นลูกทีมโดยเร็ว เพราะแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เงินไม่สามารถซื้อหามาได้
นัดนี้ ฮิวจ์ส คงจะส่งนักเตะชุดใหญ่เต็มอัตราศึกนำทัพโดย 3 ประสานบราซิเลียน โช, เอลาโน บลูแมร์ และ โรบินโญ โดยมี ฌอน-ไรท์ ฟิลลิปส์ และ สตีเฟน ไอร์แลนด์ คอยสนับสนุนจากแถวสอง แต่ยังคงไม่มี มาร์ติน เปตรอฟ และ ไมเคิล จอห์นสัน 2 กองกลางคนสำคัญที่มีอาการบาดเจ็บ ดูจากสภาพทีม “เรือใบสีฟ้า” โดยรวมแล้วสุดจะเบียดกับ ลิเวอร์พูล ขาดเพียงแค่ความเก๋า แต่ก็มีสดเข้ามาทดแทน น่าจะสู้กันได้อย่างสนุก สุดท้ายแล้วมีโอกาสสูงที่จะแบ่งแต้มกันไป
อีกคู่ในวันและเวลาเดียวกัน เชลซี จะเปิด สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับมือ วิลลา ที่บินสูงออกสตาร์ทรั้งอันดับ 3 ณ เวลานี้ แม้ว่าทริปเปิลรองแชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้วจะเล่นในรังแต่ว่าการเจอกันของสองทีมนี้นับเฉพาะในลีก 5 ฤดูกาลหลัง สุดจะสูสี โดยเฉพาะ 2 ปีที่ผ่านมา “สิงห์ผงาด” บุกมาคว้าหนึ่งแต้มที่นี่ แถมปีที่แล้วยังเอาชนะได้ด้วยในถิ่น วิลลา ปาร์ค
ลูกทีมของ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี ยังคงเป็นตัวเต็งคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ แม้ล่าสุดจะทำได้แค่บุกไปเสมอ ซีเอฟอาร์ คูล์จ 0-0 ในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากการขาด 3 นักเตะตัวหลัก ทั้ง ริคาร์โด คาร์วัลโญ, เดโก และ มิคาเอล เอสเซียง ที่บาดเจ็บทั้งหมด
ส่วนในแดนหน้ายังต้องพึ่ง นิโกลาส์ อเนลกา คนเดียว เพราะว่า ดิดิเยร์ ดร็อกบา หอกมฤตยูดำ ที่ สโคลารี เชื่อว่า จะกลับมายิงถล่มทลายเหมือนเดิมในเดือนพฤศจิกายนนี้ ได้รับบาดเจ็บซ้ำในเกมเสมอ คูล์จ อาจต้องพักยาวอีก 2-3 เดือน ด้าน ซาโลมอน กาลู หลังยิงประตูสำคัญตีเสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้รับโอกาสต่อเนื่องถึง 3 นัด แต่ก็เงียบหายไป
วิลลา แม้จะกระเด็นตกรอบ คาร์ลิง คัพ อย่างพลิกความคาดหมาย แต่ก็ได้ทีมที่ลงตัวแล้ว หลังชนะมา 3 นัดรวดในลีก นำทัพโดย ยอห์น คาริว ดาวยิงร่างยักษ์ทีมชาตินอร์เวย์ ที่ฟอร์มเริ่มกลับมาแจ่มยิงไปแล้ว 4 ลูกเท่ากับคู่ขาในแดนหน้า คือ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ ส่วนมิดฟิลด์ สตีฟ ซิดเวลล์ อดเจอทีมเก่า แม้หายเจ็บเข่ากับน่องกลับมาซ้อมได้แล้ว
แม้ทั้งคู่เจอกันครั้งใดมักจะสู้กันได้อย่างสนุก แต่อาวุธของ วิลลา มีไม่มากนักนอกจาก คาริว กับ อักบอนลาฮอร์ ก็มีแค่ แอชลีย์ ยัง ปีกซ้ายทีมชาติอังกฤษ รวมถึงตัวสำรองก็ไม่มีศักยภาพพอจะลงมาเปลี่ยนเกมได้ น่าจะถูกจับทางได้ไม่ยาก ส่วน เชลซี มีทีเด็ดมากกว่าแถมได้เล่นในรังอีกด้วยดูเหนือกว่าทุกกระบวนท่าน่าจะเฉือนชนะไปได้อย่างสนุก
ฟันธง ตรงเผง โดย เซียนไก๋ เจริญกรุง
ซันเดอร์แลนด์ แพ้ อาร์เซนอล 1-2
เวสต์บรอมวิช เสมอ ฟูแลม 1-1
วีแกน ชนะ มิดเดิลสโบรช์ 2-1
แบล็กเบิร์น แพ้ แมนฯยู 1-2
เวสต์แฮม ชนะ โบลตัน 3-1
ปอร์ทสมัธ ชนะ สโต๊ก 2-0
สเปอร์ส ชนะ ฮัลล์ 2-0
เชลซี ชนะ วิลลา 2-1
แมนฯซิตี เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
เอฟเวอร์ตัน ชนะ นิวคาสเซิล 1-0
โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ชิป ช่วงสุดสัปดาห์นี้
วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2551
ซันเดอร์แลนด์ พบ อาร์เซนอล เวลา 21.00 น.
เวสต์ บรอม พบ ฟูแลม เวลา 21.00 น.
วีแกน พบ มิดเดิลสโบรช์ เวลา 21.00 น.
แบล็กเบิร์น พบ แมนฯยู เวลา 23.30 น.
วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2551
เวสต์แฮม พบ โบลตัน เวลา 19.30 น.
ปอร์ทสมัธ พบ สโต๊ค เวลา 21.00 น.
สเปอร์ส พบ ฮัลล์ เวลา 21.00 น.
เชลซี พบ วิลลา เวลา 21.00 น.
แมนฯซิตี พบ ลิเวอร์พูล เวลา 21.00 น.
เอฟเวอร์ตัน พบ นิวคาสเซิล เวลา 22.00 น.