โจ โอซากิ กัปตันทีมเอเชีย ยังคงไม่วางใจแม้ใกล้พาลูกทีมคว้าแชมป์ รอยัล โทรฟี ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ระบุเกมกอล์ฟอะไรก็เกิดขึ้นได้
ทีมเอเชียนำห่าง ยุโรป ถึง 6.5-1.5 หลังจบวันที่สองของการแข่งขันกอล์ฟประเภททีมชายแบบแมตช์เพลย์ "รอยัล โทรฟี ครั้งที่ 3" ที่สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ จังหวัดชลบุรี โดยการแข่งขันวันสุดท้ายแบบเดี่ยวอีก 8 แมตช์ในวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคมนี้ เอเชีย ต้องการอีก 2 แต้มก็จะเถลิงแชมป์ได้เป็นครั้งแรกทันที
อย่างไรก็ตาม โอซากิ โปรกอล์ฟระดับตำนานของแดนปลาดิบ ที่รับหน้าที่กัปตันทีมเอเชียลงสู้ศึก รอยัล โทรฟี ในปีนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ยังคงไม่ประมาท "ผมทั้งมีความสุขและภูมิใจที่ลูกทีมมีจิตใจที่อยากจะคว้าแชมป์ รอยัล โทรฟี รวมถึงสถานการณ์โดยรวมที่เป็นฝ่ายนำอยู่ โดยพรุ่งนี้ผมจะพยายามกระตุ้นลูกทีมทุกคนให้รักษาจังหวะการเล่นที่ดีแบบนี้เอาไว้ให้ได้ โดยเฉพาะการทำได้ดีในช่วง 9 หลุมหลัง และต้องการให้พวกเขารักษาการเล่นอันดุดันเช่นนี้เอาไว้ เนื่องจากในเกมกอล์ฟอะไรก็เกิดขึ้นได้"
นอกจากนี้ กัปตันโจ ยังพูดถึง เรียว อิชิกาวา โปรดาวรุ่งชาวญี่ปุ่น ที่มีแฟนกอล์ฟเข้ามาเชียร์อย่างล้นหลามว่า "การที่เราได้ เรียว มาร่วมทีมช่วยทำให้บรรยากาศภายในทีมคึกคัก เนื่องจากพอมีคนมาเชียร์เยอะ ก็ถือเป็นแรงผลักดันชั้นดีให้กับผู้เล่นทีมเอเชียทุกคนด้วยเช่นกัน"
ขณะที่ อิชิกาวา เจ้าของแชมป์ เจแปน ทัวร์ 2 รายการในวัย 17 ปี ซึ่งกำลังเป็นนักกอล์ฟที่โด่งดังที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ฝากขอบคุณแฟนกอล์ฟที่เข้ามาให้กำลังใจว่า "การมีแฟนๆ ตามมาเชียร์มากมายขนาดนี้ไม่ได้เป็นการรบกวนหรือสร้างความกดดันให้ผมเลย ยิ่งไปกว่านั้นมันยังช่วยทำให้ผมมีความฮึกเฮิมที่อยากจะโชว์ความสามารถให้ทุกคนได้เห็น ซึ่งผมต้องขอขอบคุณมากที่ตามมาให้กำลังใจ"
ด้าน โฮเซ มาเรีย โอลาซาบัล กัปตันทีมยุโรปชาวสเปน แสดงความเห็นว่าจุดเปลี่ยนของผลการแข่งขันอยู่ที่ความเด็ดขาดในการพัตต์ที่ทีมเอเชียทำได้ดีกว่า "ความจริงลูกทีมผมก็เล่นกันได้ดีตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ผมคิดว่าจุดเปลี่ยนอยู่ที่ลูกพัตต์ที่ตัดสินผลแพ้ชนะ จุดพลิกผันของการแข่งในวันนี้อยู่ที่ความเด็ดขาดในการพัตต์ของทีมเอเชีย"