โจ โอซากิ กัปตันทีมเอเชียชาวญี่ปุ่น ยอมรับมีความสุขมากกับผลการแข่งขันที่ทีมเอเชียขึ้นนำ ยุโรป 3-1 หลังจบศึกรอยัล โทรฟี วันแรก จนเหมือนกำลังอยู่ในความฝันเลยทีเดียว
วันแรกของการแข่งขันกอล์ฟประเภททีมชายแบบแมตช์เพลย์ "รอยัล โทรฟี ครั้งที่ 3" ที่สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ จังหวัดชลบุรี ผลปรากฎว่า ทีมเอเชีย ที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้มาตลอด 2 ครั้งที่ผ่านมา มีโอกาสคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรก หลังขยับขึ้นนำ ยุโรป ไปก่อน 3-1 จากผลงานของ ชาร์ลี วี / เหลียง เหวิน-ชง, ฮิเดโตะ ทานิฮารา / เอส.เค. โฮ และ ประหยัด มากแสง / ธงชัย ใจดี
โดยภายหลังการแข่งขัน โจ โอซากิ กัปตันทีมเอเชียชาวญี่ปุ่น พอใจกับผลงานของลูกทีมเป็นอย่างมาก "ลูกทีมเล่นกันได้ดีมาก ตอนนี้ผมเหมือนกำลังอยู่ในความฝัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดถึงประสบการณ์ใน รอยัล โทรฟี ครั้งสุดท้ายของผม (โอซากิ นำทีมแพ้ ยุโรปขาดลอย 3.5-12.5 เมื่อปี 2007) แต่ตอนนี้ผมมีความสุขมาก และเชื่อว่าลูกทีมจะลงเล่นในอีก 2 วันที่เหลือด้วยความมั่นใจ หลังจากได้ผลการแข่งขันที่ดีในวันนี้"
"ผมคิดว่าบางทีอาจมาจากการที่ผู้เล่นทีมเราเคยเจอกันบ่อยอยู่แล้วทั้งใน เจแปน และ เอเชียน ทัวร์ ดังนั้นจึงมีความคุ้นเคยกันดี อีกทั้งปีนี้ผู้เล่นในทีมทุกคนยังมีความมุ่งมั่นมากเป็นพิเศษที่จะชนะยุโรปให้ได้อีกต่างหาก"
นอกจากนี้ โปรระดับตำนานของแดนปลาดิบ เจ้าของแชมป์ 35 รายการ ยังได้พูดถึงการที่เขาไม่เปลี่ยนแปลงผู้เล่นที่จะจับคู่กันในการเล่นแบบโฟร์บอลในวันพรุ่งนี้ว่า "ผมได้เรียนรู้มาจาก เซวี บาเยสเตรอส ในการเจอกันเมื่อปี 2007 ว่า หากทีมเล่นดีและมีคะแนนนำอยู่ก็ไม่ควรเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น"
ด้าน โฮเซ มาเรีย โอลาซาบัล กัปตันทีมยุโรปชาวสเปน กล่าวว่า "วันนี้ลูกทีมไม่สามารถแสดงศักยภาพที่มีออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่ผมยังเชื่อในตัวลูกทีมทุกคน ดังนั้นต้องเล่นให้ดีในอีก 2 วันที่เหลือ เราไม่ได้ประมาททีมเอเชียแต่อย่างใด จะเห็นได้ว่าเราให้ความเคารพต่อทีมเอเชียมาโดยตลอด และรู้ดีว่าพวกเขามีความสามารถมาก อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้เรามีงานหนักต้องทำ โดยแผนของผมคือต้องเปิดเกมบุกและตีคืนคะแนนกลับมาให้ได้ แต่ก็ต้องพยายามเล่นอย่างไม่กดดันตัวเองด้วย"
"ทั้งนี้เหตุที่ผมยังคงให้ทุกคนจับคู่กันเหมือนเดิมก็เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเปลี่ยนแปลง เนื่องจากผมคิดมาอยู่แล้วว่าพวกเขาน่าจะเล่นด้วยกันได้ดีและเหมาะสมกัน แต่หากจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องขึ้นอยู่กับลูกทีม แต่ถึงตอนนี้ทุกคนก็ยังพอใจในคู่ของตัวเองอยู่" กัปตันโอลลี อดีตแชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส 2 สมัย กล่าว
วันแรกของการแข่งขันกอล์ฟประเภททีมชายแบบแมตช์เพลย์ "รอยัล โทรฟี ครั้งที่ 3" ที่สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ จังหวัดชลบุรี ผลปรากฎว่า ทีมเอเชีย ที่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้มาตลอด 2 ครั้งที่ผ่านมา มีโอกาสคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรก หลังขยับขึ้นนำ ยุโรป ไปก่อน 3-1 จากผลงานของ ชาร์ลี วี / เหลียง เหวิน-ชง, ฮิเดโตะ ทานิฮารา / เอส.เค. โฮ และ ประหยัด มากแสง / ธงชัย ใจดี
โดยภายหลังการแข่งขัน โจ โอซากิ กัปตันทีมเอเชียชาวญี่ปุ่น พอใจกับผลงานของลูกทีมเป็นอย่างมาก "ลูกทีมเล่นกันได้ดีมาก ตอนนี้ผมเหมือนกำลังอยู่ในความฝัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคิดถึงประสบการณ์ใน รอยัล โทรฟี ครั้งสุดท้ายของผม (โอซากิ นำทีมแพ้ ยุโรปขาดลอย 3.5-12.5 เมื่อปี 2007) แต่ตอนนี้ผมมีความสุขมาก และเชื่อว่าลูกทีมจะลงเล่นในอีก 2 วันที่เหลือด้วยความมั่นใจ หลังจากได้ผลการแข่งขันที่ดีในวันนี้"
"ผมคิดว่าบางทีอาจมาจากการที่ผู้เล่นทีมเราเคยเจอกันบ่อยอยู่แล้วทั้งใน เจแปน และ เอเชียน ทัวร์ ดังนั้นจึงมีความคุ้นเคยกันดี อีกทั้งปีนี้ผู้เล่นในทีมทุกคนยังมีความมุ่งมั่นมากเป็นพิเศษที่จะชนะยุโรปให้ได้อีกต่างหาก"
นอกจากนี้ โปรระดับตำนานของแดนปลาดิบ เจ้าของแชมป์ 35 รายการ ยังได้พูดถึงการที่เขาไม่เปลี่ยนแปลงผู้เล่นที่จะจับคู่กันในการเล่นแบบโฟร์บอลในวันพรุ่งนี้ว่า "ผมได้เรียนรู้มาจาก เซวี บาเยสเตรอส ในการเจอกันเมื่อปี 2007 ว่า หากทีมเล่นดีและมีคะแนนนำอยู่ก็ไม่ควรเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น"
ด้าน โฮเซ มาเรีย โอลาซาบัล กัปตันทีมยุโรปชาวสเปน กล่าวว่า "วันนี้ลูกทีมไม่สามารถแสดงศักยภาพที่มีออกมาได้อย่างเต็มที่ แต่ผมยังเชื่อในตัวลูกทีมทุกคน ดังนั้นต้องเล่นให้ดีในอีก 2 วันที่เหลือ เราไม่ได้ประมาททีมเอเชียแต่อย่างใด จะเห็นได้ว่าเราให้ความเคารพต่อทีมเอเชียมาโดยตลอด และรู้ดีว่าพวกเขามีความสามารถมาก อย่างไรก็ตามพรุ่งนี้เรามีงานหนักต้องทำ โดยแผนของผมคือต้องเปิดเกมบุกและตีคืนคะแนนกลับมาให้ได้ แต่ก็ต้องพยายามเล่นอย่างไม่กดดันตัวเองด้วย"
"ทั้งนี้เหตุที่ผมยังคงให้ทุกคนจับคู่กันเหมือนเดิมก็เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องเปลี่ยนแปลง เนื่องจากผมคิดมาอยู่แล้วว่าพวกเขาน่าจะเล่นด้วยกันได้ดีและเหมาะสมกัน แต่หากจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องขึ้นอยู่กับลูกทีม แต่ถึงตอนนี้ทุกคนก็ยังพอใจในคู่ของตัวเองอยู่" กัปตันโอลลี อดีตแชมป์ เดอะ มาสเตอร์ส 2 สมัย กล่าว