เพิ่งจะจบปี 2008 ไปหมาดๆ โลกก็หมุนเข้าสู่ปี 2009 อย่างรวดเร็ว สำหรับแวดวงกีฬานั้นในปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีแจ้งเกิดของเหล่าบรรดาผู้เล่นดาวรุ่งมากมาย ในหลายชนิดกีฬา โดยผู้เล่นที่มีรายชื่อเหล่านี้ได้รับการคาดหวังว่าจะสร้างผลงานสุดยอดในปีใหม่นี้
เซบาสเตียน เวทเทล
หนุ่มนักขับชาวเยอรมนีรายนี้ได้รับการจับตามองอย่างมากจากสื่อมวลชนในเมืองเบียร์ เมื่อสามารถคว้าแชมป์ฟอร์มูลา บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิป ในปี 2004 ด้วยการขึ้นโพเดียมในอันดับ 1 ถึง 18 สนาม จากทั้งหมด 20 สนาม ก่อนจะขยับข้ามรุ่นมาสร้างชื่อในฟอร์มูลา 3 กระทั่งจบฤดูกาล 2007 ด้วยอันดับคะแนนสะสมเป็นที่ 5 ของ "เวิลด์ซีรีย์ส"
จากจุดนี้ทำให้ถูกดึงตัวมาร่วมทีม "โตโร รอสโซ" ในศึกฟอร์มูลาวัน 2007 เป็นฤดูกาลแรก และหนุ่มน้อยรายนี้ก็ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยสนามแรกคือ สหรัฐฯ กรังปรีซ์ ในอินเดียนา ด้วยการเข้าป้ายในอันดับที่ 8 อย่างสวยงาม ก่อนจะจบฤดูกาลนั้นด้วยคะแนนสะสมเป็นอันดับที่ 14 ของโลก
แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2008 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ 2 ของตัวเองในระดับฟอร์มูลา 1 ซึ่ง “เบบีชูมี” สามารถคว้าแชมป์รายการอิตาเลียนกรังด์ปรีซ์ พร้อมสร้างสถิติคว้าแชมป์โลกประจำสนามอายุที่น้อยที่สุดในวัย 21 ปี 74 วัน ลบสถิติของ เฟอร์นานโด อลอนโซ ที่ทำไว้เมื่อปี 2003 ลงราบคาบ ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมในปี 2008 ทำให้ เวทเทล เก็บไปได้ 35 คะแนน ในฤดูกาลนี้ พร้อมกับครองตำแหน่งนักขับอันดับ 8 ของโลกได้สำเร็จ
ขณะที่ในฤดูกาล 2009 ดูเหมือนว่าทีม โตโร รอสเซ จะเล็กเกินไปสำหรับ เวทเทล เสียแล้ว ล่าสุดนักขับดาวรุ่งตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม เรดบลู เรซซิง เพื่อแทนที่การอำลาวงการของ เดวิด คูลธาร์ด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รอรี แมคอิลรอย
เส้นทางการก้าวสู่ความสำเร็จและชื่อเสียงของโปรดาวรุ่งวัย 19 ปี เริ่มขึ้นจากการเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมยุโรปชุดที่คว้าแชมป์กอล์ฟจูเนียร์ ไรเดอร์ คัพ 2004 จากนั้นยังคว้าแชมป์ระดับอเมเจอร์ อีก 5 รายการในปี 2005 และ 2006
ก่อนจะเลื่อนชั้นขึ้นเทิร์นโปรในปี 2007 ซึ่งในปีนี้นี่เองที่ แมคอิลรอย สร้างผลงานยอดเยี่ยมด้วยด้วยการสวิงมาถึงอันดับที่ 3 รายการ อัลเฟรด ดันฮิลล์ ลิงค์ส ที่ นิค โดเฮอร์ตี คว้าแชมป์ด้วยสกอร์ที่ห่างกับอันดับโปรดาวรุ่งเพียง 3 สโตรกเท่านั้น จากนั้นในรายการ มาดริด โอเพ่น โปรไอร์แลนด์เหนือยังโชว์ฟอร์มได้ดีเมื่อตีมาเป็นอันดับที่ 4 หลังจบรายการ พร้อมกับจบตำแหน่งอันดับทำเงินในยูโรเปียนทัวร์ 2007 ด้วยอันดับ 95 ทำเงินรางวัลไป 277,255 ยูโร
เข้าสู่ฤดูกาล 2008 แม้จะไม่มีแชมป์ยูโรเปียนทัวร์ติดมือ แต่ แมคอิลรอย ก็ยังทำผลงานดีต่อเนื่อง โดยสามารถคว้าอันดับ 2 ในรายการ โอเมกา ยูโรเปียน มาสเตอร์ ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากพลาดท่าในช่วงดวลเพลย์ออฟให้กับ ฌอง ฟรานซิส ลูแซง พร้อมทั้งยังก้าวไปติด 10 อันดับแรกได้ถึง 6 รายการ และติด 25 อันดับแรกถึง 10 รายการ ส่งผลให้โปรไอริชก้าวมารั้งอันดับทำเงินในปีนี้ที่ 696,335 ยูโร และรั้งอันดับที่ 36 ของยูโรเปียนทัวร์
ฮวน มาร์ติน เดล ปอโตร
นักเทนิสหนุ่มที่เริ่มจับแร็กเกตในวัย 7 ขวบ ก่อนจะเทิร์นโปรในปี 2005 ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นเด็กหนุ่มวัย 15 ปี เมื่อลงเล่นในระดับไอทีเอฟ ซึ่งในช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นเส้นทางสายนักหวดอาชีพ เดล ปอโตร ไม่ได้มีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นมากนัก แม้จะเคยผ่านการควอลิฟายด์ในศึกแกรนด์สแลม เฟรนช์โอเพ่น ในปี 2006 รวมถึง ยูเอส โอเพ่นในปีเดียวกัน
อย่างไรก็ตามความอดทน และพัฒนาการมีส่วนช่วยหวดหนุ่มชาวอาร์เจนตินาเป็นอย่างมาก ผ่านเข้าสู่รอบควอเตอร์ไฟนอลในศึกแกรนด์สแลมรายการยูเอส โอเพ่น ปี 2008 นอกจากนี้ เดล ปอโตร ยังประกาศศักดาด้วยการคว้าแชมป์เอทีพีทัวร์มาครองได้ถึง 4 รายการในปีเดียวกัน ประกอบด้วย เมอร์เซเดส คัพ, ออสเตรียน โอเพ่น, ครันทรีไวด์ คลาสสิค และ เลกก์เมสัน เทนนิส คลาสิก ซึ่งจากผลงานดังกล่าวส่งผลให้หวดหนุ่มวัย 20 ปี ได้รับคัดเลือกเข้าสู่ทีมเดวิสคัพ ของ "ฟ้า-ขาว" อีกด้วย แม้จะคว้าได้เพียงตำแหน่งรองแชมป์ในท้ายที่สุดก็ตาม
นอกจากนี้ เดล ปอโตร ที่พูดได้ถึง 3 ภาษา ยังขยับตัวจากอันดับที่ 50 ของโลกเมื่อต้นปี ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้เล่นอันดับ 9 ของเอทีพีทัวร์ หลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้รับการจับตาว่าจะเป็นคลื่นลูกใหม่ในวงการหวดโลกสำหรับปี 2009 อีกด้วย
นพวรรณ เลิศชีวการต์
สาวน้อยนักหวดชาวจังหวัดเชียงใหม่ สร้างชื่อให้กับตัวเองเมื่อสามารถคว้าตำแหน่งรองแชมป์เทนนิสแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน ในระดับเยาวชนได้ในปี 2008
นอกจากนี้ในปีเดียวกันยังจับคู่กับ ซานดรา โรมา นักหวดสาวชาวสวีเดน คว้าแชมป์เทนนิสหญิงคู่ในศึกแกรนด์สแลมยูเอสโอเพ่น ที่สหรัฐอเมริกาอีก ส่งผลให้ชื่อของ "น้องนก" ก้าวขึ้นไปติดทำเนียบนักหวดหญิงระดับเยาวชนยอดเยี่ยมของ สหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือ ไอทีเอฟ พร้อมกับการก้าวขึ้นเป็นหวดมือ 1 หญิงของโลกในระดับเยาวชนเมื่อจบปี 2008 อีกด้วย
แม้ในฤดูกาล 2009 นักหวดวัย 17 ปี ยังไม่คิดก้าวขึ้นสู่การแข่งขันระดับ "ดับเบิลยูทีเอ" อย่างเต็มตัว ทว่าโอกาสที่จะพัฒนาของหวดสาวไทยรายนี้มีสูงยิ่ง โดยเจ้าตัวถึงกับตั้งเป้าว่าเมื่อถึงอายุ 21 ปี ขอก้าวไปติดท็อป 20 ของโลกให้ได้
เซอร์จิโอ อกูเอโร
นักเตะดาวเด่นของ "ตราหมี" แอตเลธิโก มาดริด เริ่มต้นค้าแข้งกับสโมสรอินดิเพนเดนเตในบ้านเกิด เมื่อวัยเพียง 15 ปีเท่านั้น ก่อนสร้างผลงานกระหึ่มลีกอาร์เจนตินา ด้วยการซัลโว 23 ประตู จาก 50 เกม ก่อนโยกย้ายมาเล่นในถิ่นบิเซนเตกัลเดลอน เมื่อช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา
แม้ผลงานกับ แอต. มาดริด จะยังไม่โดดเด่น ทว่าด้วยลีลาการเล่น บวกกับความสามารถเฉพาะตัวที่ยอดเยี่ยม "เอลกุน" ก็สามารถนำพาทีมชาติอาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟีฟ่า เวิลด์คัพ ชุด ยู 20 มาได้ถึง 2 สมัยคือปี 2005 และ 2007 รวมทั้งคว้าแชมป์ฟุตบอลโอลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่งได้เช่นกัน จากผลงานดังกล่าวส่งผลให้บรรดาทีมยักษ์ใหญ่จ้องมองสถานการณ์ของดาวเตะวัย 20 ปีอย่างไม่กระพริบตาเลยทีเดียว
เซบาสเตียน เวทเทล
หนุ่มนักขับชาวเยอรมนีรายนี้ได้รับการจับตามองอย่างมากจากสื่อมวลชนในเมืองเบียร์ เมื่อสามารถคว้าแชมป์ฟอร์มูลา บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปียนชิป ในปี 2004 ด้วยการขึ้นโพเดียมในอันดับ 1 ถึง 18 สนาม จากทั้งหมด 20 สนาม ก่อนจะขยับข้ามรุ่นมาสร้างชื่อในฟอร์มูลา 3 กระทั่งจบฤดูกาล 2007 ด้วยอันดับคะแนนสะสมเป็นที่ 5 ของ "เวิลด์ซีรีย์ส"
จากจุดนี้ทำให้ถูกดึงตัวมาร่วมทีม "โตโร รอสโซ" ในศึกฟอร์มูลาวัน 2007 เป็นฤดูกาลแรก และหนุ่มน้อยรายนี้ก็ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยสนามแรกคือ สหรัฐฯ กรังปรีซ์ ในอินเดียนา ด้วยการเข้าป้ายในอันดับที่ 8 อย่างสวยงาม ก่อนจะจบฤดูกาลนั้นด้วยคะแนนสะสมเป็นอันดับที่ 14 ของโลก
แต่เมื่อเข้าสู่ปี 2008 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ 2 ของตัวเองในระดับฟอร์มูลา 1 ซึ่ง “เบบีชูมี” สามารถคว้าแชมป์รายการอิตาเลียนกรังด์ปรีซ์ พร้อมสร้างสถิติคว้าแชมป์โลกประจำสนามอายุที่น้อยที่สุดในวัย 21 ปี 74 วัน ลบสถิติของ เฟอร์นานโด อลอนโซ ที่ทำไว้เมื่อปี 2003 ลงราบคาบ ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมในปี 2008 ทำให้ เวทเทล เก็บไปได้ 35 คะแนน ในฤดูกาลนี้ พร้อมกับครองตำแหน่งนักขับอันดับ 8 ของโลกได้สำเร็จ
ขณะที่ในฤดูกาล 2009 ดูเหมือนว่าทีม โตโร รอสเซ จะเล็กเกินไปสำหรับ เวทเทล เสียแล้ว ล่าสุดนักขับดาวรุ่งตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม เรดบลู เรซซิง เพื่อแทนที่การอำลาวงการของ เดวิด คูลธาร์ด เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
รอรี แมคอิลรอย
เส้นทางการก้าวสู่ความสำเร็จและชื่อเสียงของโปรดาวรุ่งวัย 19 ปี เริ่มขึ้นจากการเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมยุโรปชุดที่คว้าแชมป์กอล์ฟจูเนียร์ ไรเดอร์ คัพ 2004 จากนั้นยังคว้าแชมป์ระดับอเมเจอร์ อีก 5 รายการในปี 2005 และ 2006
ก่อนจะเลื่อนชั้นขึ้นเทิร์นโปรในปี 2007 ซึ่งในปีนี้นี่เองที่ แมคอิลรอย สร้างผลงานยอดเยี่ยมด้วยด้วยการสวิงมาถึงอันดับที่ 3 รายการ อัลเฟรด ดันฮิลล์ ลิงค์ส ที่ นิค โดเฮอร์ตี คว้าแชมป์ด้วยสกอร์ที่ห่างกับอันดับโปรดาวรุ่งเพียง 3 สโตรกเท่านั้น จากนั้นในรายการ มาดริด โอเพ่น โปรไอร์แลนด์เหนือยังโชว์ฟอร์มได้ดีเมื่อตีมาเป็นอันดับที่ 4 หลังจบรายการ พร้อมกับจบตำแหน่งอันดับทำเงินในยูโรเปียนทัวร์ 2007 ด้วยอันดับ 95 ทำเงินรางวัลไป 277,255 ยูโร
เข้าสู่ฤดูกาล 2008 แม้จะไม่มีแชมป์ยูโรเปียนทัวร์ติดมือ แต่ แมคอิลรอย ก็ยังทำผลงานดีต่อเนื่อง โดยสามารถคว้าอันดับ 2 ในรายการ โอเมกา ยูโรเปียน มาสเตอร์ ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หลังจากพลาดท่าในช่วงดวลเพลย์ออฟให้กับ ฌอง ฟรานซิส ลูแซง พร้อมทั้งยังก้าวไปติด 10 อันดับแรกได้ถึง 6 รายการ และติด 25 อันดับแรกถึง 10 รายการ ส่งผลให้โปรไอริชก้าวมารั้งอันดับทำเงินในปีนี้ที่ 696,335 ยูโร และรั้งอันดับที่ 36 ของยูโรเปียนทัวร์
ฮวน มาร์ติน เดล ปอโตร
นักเทนิสหนุ่มที่เริ่มจับแร็กเกตในวัย 7 ขวบ ก่อนจะเทิร์นโปรในปี 2005 ตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นเด็กหนุ่มวัย 15 ปี เมื่อลงเล่นในระดับไอทีเอฟ ซึ่งในช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นเส้นทางสายนักหวดอาชีพ เดล ปอโตร ไม่ได้มีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นมากนัก แม้จะเคยผ่านการควอลิฟายด์ในศึกแกรนด์สแลม เฟรนช์โอเพ่น ในปี 2006 รวมถึง ยูเอส โอเพ่นในปีเดียวกัน
อย่างไรก็ตามความอดทน และพัฒนาการมีส่วนช่วยหวดหนุ่มชาวอาร์เจนตินาเป็นอย่างมาก ผ่านเข้าสู่รอบควอเตอร์ไฟนอลในศึกแกรนด์สแลมรายการยูเอส โอเพ่น ปี 2008 นอกจากนี้ เดล ปอโตร ยังประกาศศักดาด้วยการคว้าแชมป์เอทีพีทัวร์มาครองได้ถึง 4 รายการในปีเดียวกัน ประกอบด้วย เมอร์เซเดส คัพ, ออสเตรียน โอเพ่น, ครันทรีไวด์ คลาสสิค และ เลกก์เมสัน เทนนิส คลาสิก ซึ่งจากผลงานดังกล่าวส่งผลให้หวดหนุ่มวัย 20 ปี ได้รับคัดเลือกเข้าสู่ทีมเดวิสคัพ ของ "ฟ้า-ขาว" อีกด้วย แม้จะคว้าได้เพียงตำแหน่งรองแชมป์ในท้ายที่สุดก็ตาม
นอกจากนี้ เดล ปอโตร ที่พูดได้ถึง 3 ภาษา ยังขยับตัวจากอันดับที่ 50 ของโลกเมื่อต้นปี ขึ้นสู่ตำแหน่งผู้เล่นอันดับ 9 ของเอทีพีทัวร์ หลังจบฤดูกาลที่ผ่านมา อีกทั้งยังได้รับการจับตาว่าจะเป็นคลื่นลูกใหม่ในวงการหวดโลกสำหรับปี 2009 อีกด้วย
นพวรรณ เลิศชีวการต์
สาวน้อยนักหวดชาวจังหวัดเชียงใหม่ สร้างชื่อให้กับตัวเองเมื่อสามารถคว้าตำแหน่งรองแชมป์เทนนิสแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน ในระดับเยาวชนได้ในปี 2008
นอกจากนี้ในปีเดียวกันยังจับคู่กับ ซานดรา โรมา นักหวดสาวชาวสวีเดน คว้าแชมป์เทนนิสหญิงคู่ในศึกแกรนด์สแลมยูเอสโอเพ่น ที่สหรัฐอเมริกาอีก ส่งผลให้ชื่อของ "น้องนก" ก้าวขึ้นไปติดทำเนียบนักหวดหญิงระดับเยาวชนยอดเยี่ยมของ สหพันธ์เทนนิสนานาชาติ หรือ ไอทีเอฟ พร้อมกับการก้าวขึ้นเป็นหวดมือ 1 หญิงของโลกในระดับเยาวชนเมื่อจบปี 2008 อีกด้วย
แม้ในฤดูกาล 2009 นักหวดวัย 17 ปี ยังไม่คิดก้าวขึ้นสู่การแข่งขันระดับ "ดับเบิลยูทีเอ" อย่างเต็มตัว ทว่าโอกาสที่จะพัฒนาของหวดสาวไทยรายนี้มีสูงยิ่ง โดยเจ้าตัวถึงกับตั้งเป้าว่าเมื่อถึงอายุ 21 ปี ขอก้าวไปติดท็อป 20 ของโลกให้ได้
เซอร์จิโอ อกูเอโร
นักเตะดาวเด่นของ "ตราหมี" แอตเลธิโก มาดริด เริ่มต้นค้าแข้งกับสโมสรอินดิเพนเดนเตในบ้านเกิด เมื่อวัยเพียง 15 ปีเท่านั้น ก่อนสร้างผลงานกระหึ่มลีกอาร์เจนตินา ด้วยการซัลโว 23 ประตู จาก 50 เกม ก่อนโยกย้ายมาเล่นในถิ่นบิเซนเตกัลเดลอน เมื่อช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา
แม้ผลงานกับ แอต. มาดริด จะยังไม่โดดเด่น ทว่าด้วยลีลาการเล่น บวกกับความสามารถเฉพาะตัวที่ยอดเยี่ยม "เอลกุน" ก็สามารถนำพาทีมชาติอาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟีฟ่า เวิลด์คัพ ชุด ยู 20 มาได้ถึง 2 สมัยคือปี 2005 และ 2007 รวมทั้งคว้าแชมป์ฟุตบอลโอลิมปิก 2008 ที่ปักกิ่งได้เช่นกัน จากผลงานดังกล่าวส่งผลให้บรรดาทีมยักษ์ใหญ่จ้องมองสถานการณ์ของดาวเตะวัย 20 ปีอย่างไม่กระพริบตาเลยทีเดียว