"โปรโจ๊ก" ชัพชัย นิราช โปรไทยหนึ่งในผู้นำร่วมหลังจบรอบสามศึก วอลโว มาสเตอร์ส ออฟ เอเชีย ลั่นร่างกายสมบูรณ์ฟิตเต็มร้อยพร้อมลงชิงชัยแชมป์ในรอบสุดท้ายวันพรุ่งนี้ ย้ำไม่ซ้ำรอยเหตุการณ์ในศึกสิงคโปร์ โอเพน อย่างแน่นอน ส่วน "แชมป์เก่า" ประหยัด มากแสง ก็ยังเชื่อว่าตนเองยังมีลุ้นป้องกันแชมป์ ตราบใดที่เกมการแข่งขันยังไม่จบ
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ชัพชัย นิราช ก้านเหล็กหนุ่มวัย 25 ปีของไทย ทำเพิ่มได้อีก 2 อันเดอร์พาร์ในรอบที่สาม ส่งผลให้สกอร์รวมมี 9 อันเดอร์พาร์ ขึ้นไปเป็นผู้นำร่วมกับ เชาวลิต ผลาผล อีกหนึ่งสวิงเจ้าถิ่น,เดวิด กลีสัน กับ มาร์คัส โบธ สองโปรจากออสเตรเลีย และ แลม ชี บิง จากสิงคโปร์
โดย ชัพชัย เจ้าของฉายาที่สื่อต่างประเทศตั้งให้ว่า "คิงคอง" ทำเบอร์ดีได้ในหลุมที่ 4, 7 และ 17 โดยไปเสียโบกีในหลุมที่ 9 โดยเฉพาะในหลุมที่ 4 กับ 7 ซึ่งเป็นหลุมพาร์ 5 นั้น "โปรโจ๊ก" เก็บเบอร์ดีได้ 3 วันรวด
ซึ่ง เจ้าของตำแหน่งอันดับ 2 บนตารางทำเงินสูงสุด เอเชียน ทัวร์ เมื่อปี 2007 จากผลงานการคว้าแชมป์ 2 รายการ กล่าวว่า "วันนี้ทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งก็คือการเน้นทำสกอร์ในพวกหลุมพาร์ 5 เนื่องจากเราได้เปรียบตรงสามารถตี 2 ช็อตออนกรีนได้ ส่วนในวันพรุ่งนี้จะเล่นตามแผนที่วางไว้กับแคดดี คือพยายามไม่สร้างความกดดันให้ตัวเอง เนื่องจากได้รับบทเรียนมาจากที่สิงคโปร์แล้ว นั่นคือการเป็นผู้นำแล้วเล่นเซฟมากจนเกินไป จนไม่อยู่ในเกมของตัวเอง และพยายามเล่นให้ได้แบบ 3 วันแรก นั่นคือไม่ได้ก็ต้องไม่เสีย"
ทั้งนี้เมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาในศึกใหญ่ สิงคโปร์ โอเพน ชิงเงินรางวัลรวมถึง 5 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 175 ล้านบาท ก่อนลงเล่นวันสุดท้าย ชัพชัย เป็นผู้นำอยู่ถึง 3 สโตรก แต่ปรากฏว่าในวันสุดท้ายกลับหลุดฟอร์มออกทะเลตีเกินไปถึง 7 โอเวอร์พาร์ ได้เพียงแค่อันดับ 7 ไปครองอย่างน่าเสียดาย ซึ่ง "โปรโจ๊ก" จะไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีกเด็ดขาด "สถานการณ์ในสัปดาห์นี้แตกต่างกัน เนื่องจากผมกรำศึกมาหนักก่อนลงแข่งที่สิงคโปร์ โดยเฉพาะในศึกเอชเอสบีซี แชมเปียนส์ ที่เมืองจีน ที่ผมเล่นรอบ 3 ไม่จบในวันเสาร์ จึงต้องมาแข่งต่ออีกถึง 7 หลุมในวันสุดท้าย ซึ่งทำให้ร่างกายเหนื่อยมาก แต่ก่อนมาแข่งวอลโวฯ ผมได้มาพักมาเต็มๆ หนึ่งสัปดาห์ ดังนั้นตอนนี้สภาพร่างกายของผมสมบูรณ์กว่า"
ด้าน "เจ้าช้าง" เชาวลิต ผลาผล ที่เป็นอีกหนึ่งโปรไทยที่เป็นผู้นำร่วม กล่าวว่า "วันนี้ลักษณะการเล่นของผมคล้ายเมื่อวานคือแม้จะไดร์ฟไม่ดี แต่ก็มีลูกสั้นทั้งการชิพและพัตต์มาช่วย ขณะที่เมื่อตีเหล็กได้ดีก็ช่วยให้มีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น แม้จะตีหัวไม้ดีบ้างไม่ดีบ้างก็ไม่เป็นไร ผมตีลูกสั้นดีมาตั้งแต่ศึก ฮองกง โอเพน, เวียดนาม มาสเตอร์ส แล้วก็ที่แคมโบเดียน โอเพน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว"
"ส่วนเกมการเล่นในวันพรุ่งนี้ก็คงเหมือนเดิม คือพยายามตีให้อยู่ในแฟร์เวย์ แต่ก็จะเปิดเกมบุกสู้มากไม่ได้เนื่องจากกรีนที่แข็ง แต่ผมจะเสียเปรียบอยู่ตรงที่เป็นคนตีไม่ไกล ดั้งนั้นจึงไม่ค่อยมีโอกาสเก็บสกอร์ในพวกหลุมพาร์ 5 เหมือนผู้เล่นคนอื่น" เชาวลิต ที่ได้แชมป์ครั้งสุดท้ายคือ บางกอก แอร์เวย์ส โอเพน ที่เกาะสมุย เมื่อปี 2006
ขณะที่ "โปรหมาย" ประหยัด มากแสง ที่วันนี้ทำสกอร์เพิ่มไม่ได้ ตีแค่อีเวนพาร์ สกอร์รวมยังมี 5 อันเดอร์พาร์ ตามหลังกลุ่มผู้นำอยู่ 4 สโตรก ยังเชื่อว่าตนเองมีลุ้นป้องกันแชมป์อยู่เหมือนกัน "วันนี้เล่น 9 หลุมหลังไม่ดีเลย ยอมรับว่าซ้อมก่อนลงแข่งมากไปเลยรู้สึกเหนื่อย วันนี้ซ้อมไปถึงชั่วโมงครั้ง เปรียบเทียบกับเมื่อวานซ้อมแค่ 40 นาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตามผมยังมีหวังที่จะป้องกันแชมป์ โดยในวันพรุ่งนี้ถ้าทุกคนยังเล่นไม่จบหลุม 18 อะไรก็เกิดขึ้นได้ เนื่องจากตอนนี้ผมตามแค่ 4 สโตรก หากพรุ่มนี้ผมตีสัก 6-7 อันเดอร์ฯ ก็ยังมีสิทธิ์"
สำหรับเมื่อปีที่แล้ว ประหยัด ลงเล่นรอบสุดท้ายด้วยการตามหลัง จูวิค พากุนสัน จากฟิลิปปินส์ ผู้นำอยู่ถึง 5 สโตรก แต่สุดท้ายก็สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาด้วยการทำ 3 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมมี 13 อันเดอร์พาร์ คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ เนื่องจาก พากุนสัน ตีเกินไปเองถึง 3 โอเวอร์พาร์