ธงชัย ใจดี ยอดโปรชื่อดังของไทย อดีตแชมป์ในปี 2003 และ 2006 ตั้งเป้าคว้าแชมป์สมัยที่ 3 ปิดฉากศึก วอลโว มาสเตอร์ส ออฟ เอเชีย ชิงเงินรางวัลรวม 750,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 26 ล้านบาท) ระหว่างวันที่ 18-21 ธันวาคมนี้ หลังประสบปัญหาจากการป่วยและอาการบาดเจ็บในช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา
แม้ประสบปัญหาอาการบาดเจ็บหลายครั้งและมีอาการป่วยในช่วงต้นฤดูกาล แต่ ธงชัย ยังสามารถเรียกฟอร์มคืนกลับมาได้ด้วยการรั้งอันดับ 68 ของตารางเงินรางวัลสะสมยูโรเปี้ยน ทัวร์ ขณะที่การติดใน 25 อันดับแรกจากรายการ บาร์เคลย์ สิงคโปร์ โอเพน และยูบีเอส ฮองกง โอเพน ทำให้เขาขึ้นมารั้งอันดับ 28 ของตารางเงินรางวัลสะสมเอเชียน ทัวร์
ทั้งนี้ก่อนเข้าร่วมดวลวงสวิงศึก วอลโว มาสเตอร์ส ออฟ เอเชีย ธงชัย ยังมีอีก 2 รายการที่จะต้องลงแข่งขัน นั่นคือรายการ ฮานาแบงค์ เวียดนาม มาสเตอร์ส และรายการ จอห์นนี วอล์กเกอร์ แคมโบเดียน โอเพน ก่อนที่จะปิดฉากฤดูกาลการแข่งขันในรายการสุดท้ายที่ประเทศไทย
ธงชัย เจ้าของแชมป์ 8 รายการของ เอเชียน ทัวร์ กล่าวว่า “ที่ผ่านมาผมต้องลงแข่งที่สิงคโปร์และฮ่องกง รวมถึงการเดินทางไปแข่งขันที่เวียดนามและกัมพูชาในเร็วๆ นี้ จากนั้นจึงจะกลับมาแข่งขันรายการวอลโว่ มาสเตอร์ส ออฟ เอเชีย ผมชอบที่จะเล่นในเมืองไทยท่ามกลางกองเชียร์มากมายคอยให้กำลังใจ ผมจะพยายามคว้าชัยชนะรายการวอลโว่ มาสเตอร์ส ออฟ เอเชีย เป็นครั้งที่สามให้ได้ ซึ่งผมมีความสุขและภูมิใจมากที่ได้เป็นแชมป์ที่สนามบางกอก กอล์ฟ คลับ และที่สนามไทย คันทรี คลับ ที่ผ่านมา”
“ผมรู้สึกยินดีมากที่รายการนี้ได้จัดขึ้นที่สนามไทย คันทรี คลับ อีกครั้ง ซึ่งที่นั่นผมได้รับแรงสนับสนุนมากมาย อีกทั้งยังเป็นสนามที่สมบูรณ์แบบเสมอ และผมก็ชอบเลย์เอาท์สนามนี้มากครับ ผลงานของผมดีขึ้นจากการแข่งขัน 2-3 รายการที่ผ่านมา ซึ่งผมแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ แม้ที่ผ่านมาสภาพร่างกายของผมไม่ค่อยดีนัก แต่ตอนนี้ผมเป็นปกติดีแล้ว” ธงชัย ซึ่งกำลังจะเป็นคุณพ่อลูกสองในเร็ววันนี้ กล่าว
นอกจากนี้ ประหยัด มากแสง ซึ่งโชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้า 3 แชมป์ในเจแปน ทัวร์ และได้สิทธิลงแข่งขันรายการเมเจอร์ 3 รายการ จะกลับมาป้องกันตำแหน่ง ปะทะยอดนักกอล์ฟ 65 คนของเอเชียน ทัวร์ ที่ตบเท้าเข้าร่วมดวลวงสวิงที่สนามไทย คันทรี คลับ แห่งนี้
ทางด้าน จีฟ มิลก้า ซิงห์ โปรกอล์ฟชื่อดังชาวอินเดีย ว่าที่โปรมือหนึ่งของเอเชีย ยืนยันที่จะลงแข่งขันแมทช์ปิดฤดูกาลอย่างแน่นอน โดยการครองแชมป์รายการ บาร์เคลย์ สิงคโปร์ โอเพ่น ชิงเงินรางวัลรวม 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้อันดับเงินรางวัลสะสมของเขาตามติด มาร์ค บราวน์ โปรจากนิวซีแลนด์ ซึ่งครองตำแหน่งผู้นำของตารางมายาวนาน ก่อนที่ซิงห์จะเบียดขึ้นมาครองมือหนึ่งให้กับตัวเองได้สำเร็จเป็นครั้งที่สอง หลังจากคว้าอันดับ 11 ร่วมในรายการ ยูบีเอส ฮ่องกง โอเพ่น