สปอร์ตบีสซิเนสเจอร์นัล(Sportsbusines Journal) สื่อชั้นนำสัญชาติอเมริกันออกมาเปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้ว เอเตียน เดอ วิลลิเยร์ส ประธานบริหารเอทีพี ทัวร์ (ATP Tour)หรือ สมาคมเทนนิสชายอาชีพ ประกาศขึ้นค่าจ้างตนเองและทีมบริหารทั้งหมดเป็นเงินจำนวนมหาศาล ทั้งๆที่ทาง เอทีพี ประสบภาวะขาดทุนหลายสิบล้านบาท
เดอ วิลลิเยร์ส ประธานเอทีพีชาวแอฟริกาใต้กำลังจะก้าวลงจากตำแหน่งสิ้นเดือนธันวาคมนี้ แต่ไม่วายโดนสื่อมะกันออกมาปูดข่าวฉาวว่า ตัวเขาได้ทำการขึ้นเงินค่าจ้างตนเองถึง 33 เปอร์เซนต์จาก 764,000 เหรียญสหรัฐฯ(26 ล้านบาท)ในปี 2006 เป็น 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(34ล้านบาท)ในปี 2007
ขณะที่กรรมการบริหารคนอื่นๆต่างได้รับค่าจ้างมหาศาลกันถ้วนหน้าไม่ว่าจะเป็น ฟิลลิป กัลโลเวย์ ประธานปฏิบัติการรับเต็มๆ 495,275 เหรียญ(17ล้านบาท) , มาร์ค ยัง ประธานที่ปรึกษาได้ 475,287 เหรียญ(16ล้านบาท) และ แบรด ดรูเวตต์ ประธานภูมิภาคเอเชียได้ค่าจ้าง 475,275 เหรียญ(16ล้านบาท) โดยเอทีพีสูญเงินค่าจ้างรวมทั้งหมดเพิ่มจากปี 2006 ถึง 9 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือราว 306 ล้านบาท
นอกจากสิ้นเปลืองด้านเงินค่าจ้างแล้ว ในปี 2007 เอทีพี ต้องจ่ายเงินจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(34ล้านบาท)เป็นค่าภาษีสนามแข่งขันทั่วโลก รวมทั้งต้องจ่ายอีก 4.4 ล้านเหรียญ(150 ล้านบาท)เป็นค่าต่อสู้คดีกับฝ่ายจัดการแข่งขันฮัมบูร์ก มาสเตอร์ส แต่เงินตรงส่วนนี้ เอทีพี สามารถเรียกคืนหลังชนะคดีและลดระดับฮัมบูร์กทัวร์นาเมนต์ไปเป็น มาสเตอร์ส 500 ได้สำเร็จในปีหน้า
สำหรับตัวเต็งที่จะมาทำหน้าที่ประธานเอทีพีคนใหม่มี ดรูเวตต์ คนสนิท(สื่อหลายสำนักโจมตีว่าเป็นนอมินี)ของ เดอ วิลลิเยร์ส , พอล แม็คนามี อดีตซีอีโอของออสเตรเลียน โอเพน ,ลาร์รี สกอตต์ ซีอีโอ ของ ดับเบิลยูทีเอ หรือสมาคมเทนนิสหญิงอาชีพ
เดอ วิลลิเยร์ส ประธานเอทีพีชาวแอฟริกาใต้กำลังจะก้าวลงจากตำแหน่งสิ้นเดือนธันวาคมนี้ แต่ไม่วายโดนสื่อมะกันออกมาปูดข่าวฉาวว่า ตัวเขาได้ทำการขึ้นเงินค่าจ้างตนเองถึง 33 เปอร์เซนต์จาก 764,000 เหรียญสหรัฐฯ(26 ล้านบาท)ในปี 2006 เป็น 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(34ล้านบาท)ในปี 2007
ขณะที่กรรมการบริหารคนอื่นๆต่างได้รับค่าจ้างมหาศาลกันถ้วนหน้าไม่ว่าจะเป็น ฟิลลิป กัลโลเวย์ ประธานปฏิบัติการรับเต็มๆ 495,275 เหรียญ(17ล้านบาท) , มาร์ค ยัง ประธานที่ปรึกษาได้ 475,287 เหรียญ(16ล้านบาท) และ แบรด ดรูเวตต์ ประธานภูมิภาคเอเชียได้ค่าจ้าง 475,275 เหรียญ(16ล้านบาท) โดยเอทีพีสูญเงินค่าจ้างรวมทั้งหมดเพิ่มจากปี 2006 ถึง 9 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือราว 306 ล้านบาท
นอกจากสิ้นเปลืองด้านเงินค่าจ้างแล้ว ในปี 2007 เอทีพี ต้องจ่ายเงินจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ(34ล้านบาท)เป็นค่าภาษีสนามแข่งขันทั่วโลก รวมทั้งต้องจ่ายอีก 4.4 ล้านเหรียญ(150 ล้านบาท)เป็นค่าต่อสู้คดีกับฝ่ายจัดการแข่งขันฮัมบูร์ก มาสเตอร์ส แต่เงินตรงส่วนนี้ เอทีพี สามารถเรียกคืนหลังชนะคดีและลดระดับฮัมบูร์กทัวร์นาเมนต์ไปเป็น มาสเตอร์ส 500 ได้สำเร็จในปีหน้า
สำหรับตัวเต็งที่จะมาทำหน้าที่ประธานเอทีพีคนใหม่มี ดรูเวตต์ คนสนิท(สื่อหลายสำนักโจมตีว่าเป็นนอมินี)ของ เดอ วิลลิเยร์ส , พอล แม็คนามี อดีตซีอีโอของออสเตรเลียน โอเพน ,ลาร์รี สกอตต์ ซีอีโอ ของ ดับเบิลยูทีเอ หรือสมาคมเทนนิสหญิงอาชีพ