ทันทีที่ทีมสเปนคว้าชัยชนะในการแข่งขันเดวิส คัพเป็นสมัยที่สาม พลันฝันของอาร์เจนติน่า ก็ล่มสลายเป็นครั้งที่สามเช่นกันและบทเรียนครั้งนี้เรียกได้ว่าเจ็บปวดนัก เพราะจอมหวดฟ้าขาวแทบจะเป็นต่อในทุกด้านด้วยฐานะของเจ้าบ้าน ไม่ว่าจะเป็นกำลังใจจากกองเชียร์ พื้นสนามสนามอินดอร์ฮาร์ดคอร์ต ที่อาร์เจนฯเลือกใช้ในการแข่งขัน และปัจจัยสำคัญที่สุดคือการขาดราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสหมายเลขหนึ่งโลกและเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมชาติสเปน
โดยผลการแข่งขันหลังจบเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (ตามวันและเวลาท้องถิ่น) ขุนพลเดวิสคัพสเปนนั้นมีชัยเหนืออาร์เจนติน่าด้วยสกอร์ 3-1 แมทช์โดยคู่ตัดสินคือการพบกันระหว่าง เฟอร์นานโด เวอร์ดาสโก และ โฮเซ่ อาคาซูโซ่ ที่ต่างขับเคี่ยวชนิดรู้ทันเชิงก่อนที่ เวอร์ดาสโก ซึ่งลงสนามในฐานะมวยแทนจะเก็บคะแนนสุดท้ายให้ สเปน คว้าแชมป์เดวิส คัพ ไปครอง ขณะที่อาร์เจนติน่า ซึ่งมีตุนไวhเพียงแค่นัดเดียวต้องปิดฉากการชิงชัยลงอย่างเจ็บปวดและนับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ของทีมเดวิสคัพอาร์เจนติน่าที่ต้องพ่ายในบ้านตนเอง
ก่อนหน้าที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น ทีมเดวิสคัพ สเปน ถูกวิเคราะห์ว่าเป็นรองเจ้าบ้านอยู่ไม่น้อย ส่วนหนึ่งเพราะพวกเขาขาด ราฟาเอล นาดาล แต่ด้วยการวางแผนที่ดีของกัปตันมันชินี ที่ตัดสินใจส่งเวอร์ดาสโก ลงแทน ดาวิด เฟร์เรย์ แม้ว่าฟอร์มจะค่อนข้างสูสี แต่ด้วยความนิ่งของเวอร์ดาสโก กลับเข่นอาคาซูโซ่ ลงในเวลา 3 ชั่วโมง 56 นาทีส่งให้สเปนคว้าแชมป์เทนนิสประเภททีมชายสมัยที่สามต่อจากครั้งแรกที่เอาชนะออสเตรเลียในปี 2000 และ สหรัฐฯ ในปี 2004
หลังทำคะแนนสุดท้ายปิดแมทช์การแข่งขัน เพื่อนร่วมทีมต่างกรูเข้ามาห้อมล้อมเวอร์ดาสโก และ พากันกอดคอแสดงความยินดี ขณะที่เจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังการแข่งขันว่า "นับเป็นชัยชนะครั้งสำคัญในชีวิตนักเทนนิส เพราะนี่คือเกมที่เราต่างทำผลงานเพื่อบ้านเกิด ที่สำคัญในนัดตัดสินผมสามารถเอาชนะนักเทนนิสมือดีได้อีกด้วย ทั้งหมดนี้คงเป็นเพราะพระเจ้าที่ทรงประทานพรให้กับพวกเรา"
ทางด้านผู้แพ้อย่าง อาร์เจนติน่า นั้นนอกจากความเจ็บช้ำที่ต้องพ่ายเป็นสมัยที่สามแล้วนี่ยังเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีนับตั้งแต่ปี 1998 ที่พวกเขาต้องพ่ายต่อหน้าเพื่อนร่วมชาติให้กับทีมสโลวาเกีย การได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศถึง 2 ครั้งในปี 1981 แต่พ่ายให้กับสหรัฐฯ และ ในปี 2006 พ่ายให้กับรัสเซีย และในครั้งนี้ก็พ่ายให้กับสเปน แต่ดูเหมือนว่านักเทนนิสของพวกเขาเฉื่อยชาเกินไป บรรดาสื่อในอาร์เจนติน่า พากันวิเคราะห์ว่าต่อจากนี้ วงการลูกสักหลาดฟ้าขาวคงต้องทบทวนปัญหาและแก้ไขจุดอ่อนของทีมให้เร็วที่สุด
ขณะที่กองเชียร์คนสำคัญของทีมสเปนอย่าง ราฟาเอล นาดาล ที่ชมการแข่งขันผ่านการถ่ายทอดสดกล่าวชมเพื่อนร่วมทีมผ่านสื่อว่า "นี่คือชัยชนะที่น่าประทับใจ การเอาชนะอาร์เจนติน่าได้ในบ้านทั้งที่ฝ่ายเราเป็นรองอยู่ไม่น้อยคือผลงานที่ทำให้คนสเปนทั้งประเทศจดจำไม่มีวันลืม" ส่วนเวอร์ดาสโก เองนั้นผลงานครั้งนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นแมทช์แจ้งเกิด ที่สำคัญเจ้าตัวยังแสดงน้ำใจนักกีฬาด้วยการยกความดีความชอบให้กับเพื่อนร่วมทีมที่พากันมาถึงรอบชิงชนะเลิศได้ รวมไปถึง ราฟาเอล นาดาล ทอมมี่ โรเบรโด และ นิโคลาส อัลมาโกร
ทางด้าน อัลเบอร์โต มันชินี่ กัปตันทีมเดวิสคัพของอาร์เจนติน่า กล่าวถึงความพ่ายแพ้ต่อหน้ากองเชียร์กว่า 10,000 คนว่า การสูญเสียผู้เล่นคนสำคัญอย่าง ฮวน มาร์ติน เดล ปอร์โตร ไปในเกมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามันเปรียบเสมือนการเปิดช่องว่างให้กับคู่แข่ง เพราะหลังจาก เดล ปอร์โตร ลงสนามไม่ได้โฉมหน้าของการแข่งขันเปลี่ยนไปเมื่อความได้เปรียบหวนกลับไปอยู่ในมือสเปน
สำหรับตำแหน่งแชมป์เดวิส คัพได้ทำให้สเปนขยับอันดับในเดวิสคัพจากที่ 4 ขึ้นไปอยู่ในลำดับที่ 2 ต่อจากรัสเซีย ขณะที่เจ้าบ้านอย่าง อาร์เจนติน่านี่คือบาดแผลที่บาดลึกยิ่งเพราะนอกจากจะพลาดแชมป์ ฝันที่เคยวาดหวังว่าจะขึ้นไปเป็นทีมอันดับหนึ่งของโลกก็มีอันพังทลาย เมื่อพวกเขาประสบความปราชัย ขณะที่สถิติในเดวิสคัพ ยังตอกให้ช้ำด้วยตัวเลขที่ว่าทีมสักหลาดฟ้าขาวคือทีมที่ 12 นับตั้งแต่ปี 1981 จากการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศทั้งหมด 28 ครั้งซึ่งเจ้าบ้านไม่สามารถเก็บถ้วยแชมป์เอาไว้ได้