หลังมหากาพย์วิมเบิลดัน 2008 จบลงด้วยชัยชนะของหนุ่มพลังช้างอย่าง ราฟาเอล นาดาล ที่ปีนี้นอกจากจะตอกย้ำความเป็นราชาคอร์ตดินได้อีกหนึ่งสมัยจากเฟรนช์ โอเพ่นแล้วเจ้าตัวยังคงร้อนแรงพอที่จะปราบ แร็กเก็ตเทพอย่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ด้วยสกอร์ 3-2 เซตนับเป็นการดวลที่ดุเดือดที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมาขณะที่ทิม เฮนแมน ซึ่งรับหน้าที่ผู้บรรยายให้กับบีบีซีในการแข่งขันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาถึงกับออกปากว่า "นัดชิงชนะเลิศในวิมเบิลดันครั้งนี้นับเป็นแมทช์ที่ดีที่สุดที่ผมเคยชมการแข่งขันมาเลย"
คำถามที่ตามมาต่อจากนี้เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องช่องว่างระหว่างนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งและสองของโลก เพราะดูเหมือนว่าช่องว่างของทั้งคู่ได้ถูกบีบเข้ามาจนเหลืออีกเพียงไม่กี่ก้าว โดยการประมวลผลล่าสุดนั้น นาดาลตาม เฟด-เอ็กซ์ ห่างเพียง 545 โดยมือหนึ่งของโลกมีคะแนนรวมอยู่ที่ 6,600 คะแนน ขณะที่มือสองขึ้นมาเป็น 6,055 คะแนน โดยก่อนหน้าที่จะได้แชมป์ วิมเบิลดันนั้นกระทิงดุจากสเปนมีคะแนนตามหลัง เฟเดอเรอร์ อยู่ 1,145 คะแนน
แม้ช่องว่างจะแคบลง แต่โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ในฐานะรองแชมป์ประจำปีนี้ยังคงเป็นนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของโลกต่อไป และนับเป็นสัปดาห์ที่ 232 ที่แร็กเก็ตเทพ จากสวิตเซอร์แลนด์รายนี้ได้ครองบัลลังก์มือหนึ่งวงการลูกสักหลาดได้ติดต่อกัน ขณะที่ ราฟาเอล นาดาล ยังคงอยู่ในฐานะนักเทนนิสหมายเลขสองของโลกเป็นสัปดาห์ที่ 155 ติดต่อกัน
ทั้งนี้บทวิเคราะห์ของ ทิม เฮนแมน อดีตนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของอังกฤษและปัจจุบันทำหน้าที่ผู้บรรยายกีฬาพิเศษให้กับสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษได้วิเคราะห์ความเปลี่ยนแปลงหลังจบวิมเบิลดันในครั้งนี้ ไว้อย่างน่าสนใจว่า “แม้เฟเดอเรอร์ ยังคงเป็นนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของโลกต่อไป แต่สำหรับนาดาลในเวลานี้ได้ชื่อว่าเป็นนักเทนนิสที่ดีที่สุดในโลกสำหรับฤดูกาล 2008 และมีโอกาสไม่น้อยที่ กระทิงหนุ่มจากสเปนรายนี้จะเป็นผู้จบเส้นทางอันแสนมหัศจรรย์ของเฟด-เอ็กซ์ในฐานะนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งของโลก”
“จากการคำนวณคะแนนของพวกเขาทั้งนี้จะพบว่าแชมป์วิมเบิลดันคนใหม่จะยังไม่สามารถแย่งตำแหน่งนักเทนนิสหมายเลขหนึ่งโลกมาจาก เฟเดอเรอร์ ได้ในช่วงระยะเวลา 12 เดือนนับจากนี้แต่ถ้าหมดช่วงเวลาดังกล่าวหากนาดาลไม่สามารถขึ้นเป็นมือหนึ่งโลกได้ก็คงจะเป็นเรื่องน่าแปลกใจมิใช่น้อย”
นอกจากนี้ ทิม เฮนแมน ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงชัยชนะของนาดาลในวิมเบิลดันที่ผ่านมาว่า "ส่วนตัวแล้วผมคิดว่าตอนนี้วงการเทนนิสเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแล้ว และเวลานี้นับว่าเหมาะสมมากที่สุดแม้ว่าอันดับโลกจะยังไม่ได้บ่งบอกคำตอบอะไรออกมาก็ตาม แต่ผลงานของนักเทนนิสอย่างนาดาล แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาคือผู้ที่สามารถหยุดนักเทนนิสที่ชื่อ "โรเจอร์ เฟเดอเรอร์" ได้
สำหรับฟเดอเรอร์ นั้น หลังจากไม่สามารถทำสถิติทำลายตำนานอย่าง บิยอร์น บอร์ก กับแชมป์วิมเบิลดันสมัยที่ 6 ได้หลายคนบอกว่านี่อาจเป็นช่วงเวลาขาลงของจอมหวดชาวสวิสฯแต่สำหรับ เฮนแมน แล้วมองว่าเฟเดอเรอร์ ยังคงมีความสามารถสมกับเป็นมือหนึ่งของโลก แต่ความพ่ายแพ้ต่อราฟาเอล นาดาล ในแกรนด์สแลม สองรายการติดต่อกันจากเฟรนช์ โอเพ่น และ วิมเบิลดัน น่าจะทำให้ความมั่นใจของนักเทนนิสวัย 26 ปีชาวสวิสฯผู้นี้ลดน้อยลง ถึงเวลานี้สิ่งที่เฟเดอเรอร์ ต้องการมิใช่การเปลี่ยนรูปเกมหากแต่เป็นนักจิตวิทยาที่จะช่วยให้เขาฟื้นฟูจิตใจให้กลับมามีความมั่นใจมากเท่าเดิม"
ส่วนนาดาล นั้นทิม เฮนแมน วิเคราะห์ว่า "ในอีกสองสามปีข้างหน้านี้ผมไม่คิดว่า นาดาล จะสามารถทำผลงานในวิมเบิลดันได้ดีเท่ากับ เฟเดอเรอร์ หากแต่หนุ่มวัย 22 จากสเปนรายนี้จะเป็นจอมแกร่งที่ใครก็โค่นเขาได้ยาก ที่สำคัญพัฒนาการที่สามารถปรับเกมการเล่นของตนเองบนคอร์ตหญ้าจนสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จนั้นนับเป็นเรื่องน่าจับตาและบรรดานักเทนนิสชายในเอทีพีทัวร์ก็ต้องเกรงบารมีเขาอยู่มิใช่น้อย"
ถึงเวลานี้ชัยชนะของราฟาเอล นาดาล ในวิมเบิลดัน 2008 ได้ทำให้ท้องฟ้าของสนาม ออลอิงแลนด์ เทนนิสคลับที่นับตั้งแต่ปี 2003 – 2007 ซึ่งถูกครอบครองโดย โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ได้ถูกเปิดออก และต่อเชื่อว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญวงการเทนนิสชายในเอทีพีทัวร์เลยทีเดียว