นิโกลาส์ อเนลกา ดาวยิงเลือดน้ำหอมผงาดนำโด่งในตำแหน่งผู้ทำประตูสูงสุดของพรีเมียร์ลีกเวลานี้ หลังกดเพิ่มอีก 2 เม็ดในชัยชนะของ เชลซี ที่บุกไปต้อน เวสต์บรอมวิช อัลเบียน แบบไม่ยากเย็น 3-0 เมื่อคืนวันเสาร์
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2551
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 0 – 3 เชลซี
เกมพรีเมียร์ลีกคู่ดึกของวันเสาร์ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน เปิดสนาม เดอะ ฮอว์ธอร์นส รับมือ เชลซี ทีมนำของตาราง นัดนี้ โทนี โมว์เบรย์ กุนซือเจ้าถิ่นปรับแนวรับด้วยการส่ง อับดูลาย เมอิเต มายืนเป็นปราการหลังตัวกลางแทน ไรอัน ดองค์ ส่วนอาคันตุกะจัด ซาโลมง กาลู กับ ฟลอร็องต์ มาลูดา ลงมาประสานงานในแนวรุกร่วมกับ นิโกลาส์ อเนลกา
เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาที เดอะ แบ็กกีส์ มีโอกาสได้คุกคามก่อนจากจังหวะที่ โรเบิร์ต โคเรน ไหลบอลให้ เจมส์ มอร์ริสัน ล็อกหลบ จอห์น โอบี มิเกล จนหัวทิ่มหัวตำแล้วซัดด้วยซ้าย บอลเหินข้ามคานไปเล็กน้อย จากนั้น นาทีที่ 15 บอร์ฆา บาเลโร พาบอลจากกลางสนามก่อนไหลให้ มิลเลอร์ กึ่งยิงกึ่งผ่านส่งลูกถากเสาไกลชนิดได้เสียว
อย่างไรก็ตาม สิงห์บลูส์ เริ่มคายพิษสงที่แท้จริงออกมา ก่อนจะเป็นฝ่ายเจาะประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 34 เมื่อ โฮเซ โบซิงวา เติมเกมขึ้นมาทางกราบขวาก่อนโยกหลบ โคเรน ตัดเข้าในแล้วสับไกด้วยซ้ายเต็มข้อ ลูกพุ่งเข้าหาสามเหลี่ยมเสาแรก แม้ สกอตต์ คาร์สัน จะปัดโดนปลายมือแต่ก็เอาไม่อยู่ บอลทะลักเข้าไปอย่างงดงาม
ให้หลังมาเพียง 4 นาที ทีมเศรษฐีจากลอนดอนก็หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่กองหลัง เวสต์บรอมฯ สกัดไม่ขาด ฟลอร็องต์ มาลูดา จึงพุ่งโหม่งทะลุช่องให้ อเนลกา สปีดหนี อับดูลาย เมอิเต เข้าไปชิปข้ามตัว คาร์สัน ที่พยายามออกมาบล็อกจมก้นตาข่ายอย่างเหนือชั้น
เท่านั้นไม่พอ เชลซี ยังมาทะยานนำไปไกลเป็น 3-0 ในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก โดย ซาโลมง กาลู แทงทะลุแนวรับเจ้าบ้านให้ อเนลกา เจ้าเก่าหลุดเข้าไปกดมุมแคบผ่านมือ คาร์สัน ไม่เหลือซาก เป็นประตูที่ 2 ของหัวหอกชาวฝรั่งเศสในเกมนี้ พร้อมทั้งนำโด่งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกที่ 12 ลูก
ล่วงเลยมาในช่วงครึ่งหลัง นาทีที่ 60 เดอะ แบ็กกีส์ เกือบตีไข่แตกได้จากจังหวะที่ เฟลิเป เตเซรา มิดฟิลด์ตัวสำรองลากบอลตัดจากริมเส้นด้านซ้ายเข้าหากรอบเขตโทษ ก่อนบรรจงปั่นไซด์โป้งด้วยขวา บอลโด่งข้ามคานออกไปเพียงนิดเดียว
ช่วงเวลาที่เหลือ เชลซี เริ่มผ่อนเกมก่อนเป็นฝ่ายรักษาสกอร์เอาชนะไปได้ในที่สุด 3-0 เก็บเพิ่มมาอีก 3 คะแนน รวมเป็น 32 แต้ม รักษาบัลลังก์จ่าฝูงเอาไว้ได้ ขณะที่ เวสต์บรอมวิช ไร้แต้มติดมือเป็นนัดที่ 6 ติดต่อกัน จมปลักอยู่อันดับสุดท้ายของตาราง มี 11 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน – สกอตต์ คาร์สัน, จานนี ซุยเฟอร์ลูน, อับดูลาย เมอิเต, โยนาส โอลส์สัน, พอล โรบินสัน, เจมส์ มอร์ริสัน, โจนาธาน กรีนนิง, บอร์ฆา บาเลโร, โรเบิร์ต โคเรน, โรมัน เบดนาร์, อิชมาเอล มิลเลอร์
เชลซี – คาร์โล คูดิชินี, โฮเซ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี, เวย์น บริดจ์, จอห์น โอบี มิเกล, เดโก ซูซา, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ซาโลมง กาลู, ฟลอร็องต์ มาลูดา, นิโกลาส์ อเนลกา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
โบลตัน วันเดอเรอร์ส แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (เดิร์ก เคาท์ 0-1 น.28), (สตีเวน เจอร์ราร์ด 0-2 น.73)
อาร์เซนอล แพ้ แอสตัน วิลลา 0-2 (กาแอล กลิชี 0-1 ทำเข้าประตูตัวเอง น.70), (กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ 0-2 น.80)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 1-2 (คริสโตเฟอร์ แซมบา 1-0 น.45), (เคนวีน โจนส์ 1-1 น.49), (ฌิบริล ซิสเซ 1-2 น. 71)
ฟูแลม ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 (เออเรลโญ โกเมส 1-0 ทำเข้าประตูตัวเอง น.33), (แอนดี จอห์นสัน 2-0 น.70), (เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ 2-1 น.81)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ สโต๊ค ซิตี 5-0 (คริสเตียโน โรนัลโด 1-0 น.4), (ไมเคิล คาร์ริค 2-0 น.45), (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 3-0 น.48), (แดนนี เวลเบ็ค 4-0 น.84), (คริสเตียโน โรนัลโด 5-0 น.89)
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เสมอ วีแกน แอธเลติก 2-2 (ไรอัน เทย์เลอร์ 0-1 น.3), (ไมเคิล โอเวน 1-1 น.80), (โอบาเฟมี มาร์ตินส์ 2-1 น.87), (ไตตัส บรัมเบิล 2-2 น.89)
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เสมอ ปอร์ทสมัธ 0-0
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน แพ้ เชลซี 0-3 (โฮเซ โบซิงวา 0-1 น.34), (นิโกลาส์ อเนลกา 0-2 น.38), (นิโกลาส์ อเนลกา 0-3 น.45)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2551
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน 0 – 3 เชลซี
เกมพรีเมียร์ลีกคู่ดึกของวันเสาร์ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน เปิดสนาม เดอะ ฮอว์ธอร์นส รับมือ เชลซี ทีมนำของตาราง นัดนี้ โทนี โมว์เบรย์ กุนซือเจ้าถิ่นปรับแนวรับด้วยการส่ง อับดูลาย เมอิเต มายืนเป็นปราการหลังตัวกลางแทน ไรอัน ดองค์ ส่วนอาคันตุกะจัด ซาโลมง กาลู กับ ฟลอร็องต์ มาลูดา ลงมาประสานงานในแนวรุกร่วมกับ นิโกลาส์ อเนลกา
เริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาที เดอะ แบ็กกีส์ มีโอกาสได้คุกคามก่อนจากจังหวะที่ โรเบิร์ต โคเรน ไหลบอลให้ เจมส์ มอร์ริสัน ล็อกหลบ จอห์น โอบี มิเกล จนหัวทิ่มหัวตำแล้วซัดด้วยซ้าย บอลเหินข้ามคานไปเล็กน้อย จากนั้น นาทีที่ 15 บอร์ฆา บาเลโร พาบอลจากกลางสนามก่อนไหลให้ มิลเลอร์ กึ่งยิงกึ่งผ่านส่งลูกถากเสาไกลชนิดได้เสียว
อย่างไรก็ตาม สิงห์บลูส์ เริ่มคายพิษสงที่แท้จริงออกมา ก่อนจะเป็นฝ่ายเจาะประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 34 เมื่อ โฮเซ โบซิงวา เติมเกมขึ้นมาทางกราบขวาก่อนโยกหลบ โคเรน ตัดเข้าในแล้วสับไกด้วยซ้ายเต็มข้อ ลูกพุ่งเข้าหาสามเหลี่ยมเสาแรก แม้ สกอตต์ คาร์สัน จะปัดโดนปลายมือแต่ก็เอาไม่อยู่ บอลทะลักเข้าไปอย่างงดงาม
ให้หลังมาเพียง 4 นาที ทีมเศรษฐีจากลอนดอนก็หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่กองหลัง เวสต์บรอมฯ สกัดไม่ขาด ฟลอร็องต์ มาลูดา จึงพุ่งโหม่งทะลุช่องให้ อเนลกา สปีดหนี อับดูลาย เมอิเต เข้าไปชิปข้ามตัว คาร์สัน ที่พยายามออกมาบล็อกจมก้นตาข่ายอย่างเหนือชั้น
เท่านั้นไม่พอ เชลซี ยังมาทะยานนำไปไกลเป็น 3-0 ในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก โดย ซาโลมง กาลู แทงทะลุแนวรับเจ้าบ้านให้ อเนลกา เจ้าเก่าหลุดเข้าไปกดมุมแคบผ่านมือ คาร์สัน ไม่เหลือซาก เป็นประตูที่ 2 ของหัวหอกชาวฝรั่งเศสในเกมนี้ พร้อมทั้งนำโด่งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกที่ 12 ลูก
ล่วงเลยมาในช่วงครึ่งหลัง นาทีที่ 60 เดอะ แบ็กกีส์ เกือบตีไข่แตกได้จากจังหวะที่ เฟลิเป เตเซรา มิดฟิลด์ตัวสำรองลากบอลตัดจากริมเส้นด้านซ้ายเข้าหากรอบเขตโทษ ก่อนบรรจงปั่นไซด์โป้งด้วยขวา บอลโด่งข้ามคานออกไปเพียงนิดเดียว
ช่วงเวลาที่เหลือ เชลซี เริ่มผ่อนเกมก่อนเป็นฝ่ายรักษาสกอร์เอาชนะไปได้ในที่สุด 3-0 เก็บเพิ่มมาอีก 3 คะแนน รวมเป็น 32 แต้ม รักษาบัลลังก์จ่าฝูงเอาไว้ได้ ขณะที่ เวสต์บรอมวิช ไร้แต้มติดมือเป็นนัดที่ 6 ติดต่อกัน จมปลักอยู่อันดับสุดท้ายของตาราง มี 11 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน – สกอตต์ คาร์สัน, จานนี ซุยเฟอร์ลูน, อับดูลาย เมอิเต, โยนาส โอลส์สัน, พอล โรบินสัน, เจมส์ มอร์ริสัน, โจนาธาน กรีนนิง, บอร์ฆา บาเลโร, โรเบิร์ต โคเรน, โรมัน เบดนาร์, อิชมาเอล มิลเลอร์
เชลซี – คาร์โล คูดิชินี, โฮเซ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี, เวย์น บริดจ์, จอห์น โอบี มิเกล, เดโก ซูซา, แฟรงค์ แลมพาร์ด, ซาโลมง กาลู, ฟลอร็องต์ มาลูดา, นิโกลาส์ อเนลกา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
โบลตัน วันเดอเรอร์ส แพ้ ลิเวอร์พูล 0-2 (เดิร์ก เคาท์ 0-1 น.28), (สตีเวน เจอร์ราร์ด 0-2 น.73)
อาร์เซนอล แพ้ แอสตัน วิลลา 0-2 (กาแอล กลิชี 0-1 ทำเข้าประตูตัวเอง น.70), (กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ 0-2 น.80)
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 1-2 (คริสโตเฟอร์ แซมบา 1-0 น.45), (เคนวีน โจนส์ 1-1 น.49), (ฌิบริล ซิสเซ 1-2 น. 71)
ฟูแลม ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 2-1 (เออเรลโญ โกเมส 1-0 ทำเข้าประตูตัวเอง น.33), (แอนดี จอห์นสัน 2-0 น.70), (เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ 2-1 น.81)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ สโต๊ค ซิตี 5-0 (คริสเตียโน โรนัลโด 1-0 น.4), (ไมเคิล คาร์ริค 2-0 น.45), (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 3-0 น.48), (แดนนี เวลเบ็ค 4-0 น.84), (คริสเตียโน โรนัลโด 5-0 น.89)
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เสมอ วีแกน แอธเลติก 2-2 (ไรอัน เทย์เลอร์ 0-1 น.3), (ไมเคิล โอเวน 1-1 น.80), (โอบาเฟมี มาร์ตินส์ 2-1 น.87), (ไตตัส บรัมเบิล 2-2 น.89)
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เสมอ ปอร์ทสมัธ 0-0
เวสต์บรอมวิช อัลเบียน แพ้ เชลซี 0-3 (โฮเซ โบซิงวา 0-1 น.34), (นิโกลาส์ อเนลกา 0-2 น.38), (นิโกลาส์ อเนลกา 0-3 น.45)