ทีม"สิงโตน้ำเงินคราม"เชลซี ทำคะแนนไล่จี้ทีม"ปิศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงเหลือเพียงแค่ 2 คะแนนเท่านั้น หลังจากบุกไปจมทีม"เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คาถิ่น 2-0 ด้าน"แมวดำ"ซันเดอร์แลนด์ ก็โชว์ฟอร์มเยี่ยมเช่นกันเมื่อบุกไปอัดฟูแล่มคาบ้าน 3-1 ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 5 เมษายน
แมนฯซิตี 0-2 เชลซี
เกมพรีเมียร์ลีกประจำวันเสาร์ที่ 5 เมษายน ทีม"เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 9 ของตารางเปิด ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ รับการมาเยือนของ"สิงโตน้ำเงินคราม"เชลซี โดยเกมในวันนี้ สเวน โกรัน อีริคส์สัน ผู้จัดการทีม"เรือใบสีฟ้า"หมดสิทธิ์ใช้ไมก้า ริชาร์ด ปราการหลังตัวเก่งเช่นเคย เพราะยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ โดยในแดนหน้าวางให้ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ยืนเป็นหัวหอกเดี่ยว ด้าน เชลซี ของ อัฟราม แกรนท์ นั้นพักผู้เล่นในบางตำแหน่ง โดยใช้ นิโกล่าส์ อเนลก้า ยืนเป็นหัวหอกคู่กับ โซโลมอน กาลู
เริ่มเกมมาแค่ 5 นาที "สิงห์บูลส์"ก็มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว เมื่อ มิคาเอล เอสเซียง ไหลบอลออกทางด้านกราบขวาให้ นิโกล่าส์ อเนลก้า ปาดเรียดมาที่หน้าประตูหมายจะคืนบอลให้กับ เอสเซียงเข้าชาร์จ แต่ ริชาร์ด ดันน์ พุ่งมาสไลด์บอลตัดหน้า เอสเซียง เข้าประตูตัวเองไป "สิงโตน้ำเงินคราม"คำรามนำ 1-0
เมื่อได้ประตูขึ้นนำไปแล้ว เชลซี ก็ยังคงเปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่องนาทีที่ 11 เอสเซียง แทงบอลให้ อเนลก้า หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษอีกครั้ง แต่จังหวะที่"นิโก้"สับไกนั้น เนดุม โอนูโอฮา มาบล็อกไว้ได้ทันเวลา
เข้าสู่ 20 นาทีแรกของเกม แมนฯซิตี้ เริ่มต่อเกมทำเกมรุกได้บ้าง มาร์ติน เปตรอฟ เปิดจากทางด้านซ้ายให้ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ได้ทะยานโขกในกรอบเขตโทษคนเดียวเหน่งๆ แต่บอลข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
หลังจากนั้นไม่นาน"เรือใบสีฟ้า"ก็พลาดโอกาสที่จะได้ประตูตีเสมอถึง 2 จังหวะติดๆกัน จังหวะแรกเป็นลูกยิงของ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ จากการหักมาให้ของ เบนจานี่ แต่บอลไปติด จูเลียโน เบลเล็ตติ ที่ขวางอยู่หน้าประตูออกหลังไป จังหวะถัดมา เปตรอฟ ลากตัดจากกราบขวาเข้ามาก่อนตัดสินใจยิงเต็มแรงจากระยะ 30 หลา บอลทำท่าจะเสียบสามเหลี่ยมอยู่แล้ว แต่ คาร์โล คูดิชินี่ ยังเหินปัดข้ามคานออกไปได้
นาทีที่ 31 "เรือใบสีฟ้า"น่าจะได้ประตูตีเสมออย่างที่สุด เมื่อ ไมเคิล จอห์นสัน ทำชิ่งกับ ไอร์แลนด์ หลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษทางด้านซ้าย บอลไปพุ่งไปติดบล็อกของ เบลเล็ตติ ย้อยผ่าน คูดิชินี่ ไปแล้ว แต่ แอชลี่ย์ โคล สกัดบอลออกจากเส้นได้อย่างหวุดหวิด ครบ 45 นาทีแรก "สิงโตน้ำเงินคราม"ยังนำอยู่ 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาได้ 8 นาที เชลซีก็มาได้ประตูที่สองหนีห่างไป จากการเล่นชิ่งกันหน้ากรอบของ เอสเซียง กับ กาลู ก่อนที่ มิดฟิลด์กาน่าจะแทงทะลุให้กับกับ กาลู หลุดไปแตะหลบ โจ ฮาร์ท และแปบอลเข้าไปอย่างสบายๆ "สิงห์บูลส์"นำห่าง 2-0 และหลังจากที่ทีมเยือนทำประตูที่ 2 ได้เพียงแค่ 2 นาทีก็เกือบมาได้ประตูที่ 3 อีก จากจังหวะที่ อเนลก้า ได้โขกจ่อๆในกรอบเขตโทษ แต่ โจ ฮาร์ท ยังบินปัดบอลเอาไว้ได้
นาทีที่ 65 สเวน โกรัน อีริคส์สัน ต้องแก้เกมเพื่อทวงประตูคืน โดย ส่ง ดาริอุส วาสเซลล์ ลงมาเล่นแทน เอลาโน่ ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก และแม้ว่าจะมีการแก้เกมแล้วแต่"เรือใบสีฟ้า"ก็ไม่สามารถทำประตูคืนได้ ครบ 90 นาที "สิงโตน้ำเงินคราม"เอาชนะ แมนฯซิตี้ไปได้ 2-0 เก็บ 3 คะแนนเต็มไล่จี้ทีม"ปิศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงเหลือแค่ 2 คะแนนแล้ว
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้ง 2 ทีม
แมนฯซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ริชาร์ด ดันน์, ไมเคิล บอลล์, โนดุม โอนูโอฮา, เวดราน คอร์ลูก้า, มาร์ติน เปตรอฟ, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, เอลาโน่ บลูแมร์, ไมเคิล จอห์นสัน, เกลสัน เฟอร์นานเดส, เบนจานี่ เอ็มวารูวารี
เชลซี : คาร์โล คูดิชินี่, จูเลียโน่ เบลเล็ตติ, แอชลี่ย์ โคล, จอห์น เทอร์รี่, อเล็กซ์, ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, มิคาเอล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, นิโกล่าส์ อเนลก้า, โซโลมอน กาลู
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 5 เมษายน
อาร์เซนอล เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (ปีเตอร์ เคร้าช์ 0-1 นาที 42), (นิคลาส เบนด์ทเนอร์ 1-1 นาที 54)
แอสตัน วิลล่า ชนะ โบลตัน 4-0 (แกเร็ธ แบร์รี่ 1-0 นาที 9), (กาเบรียบ อักบอนลาฮอร์ 2-0 นาที 56), (แกเร็ธ แบร์รี่ 3-0 นาที 60), (มาร์ลอน แฮร์วูด 4-0 นาที 85)
แบล็คเบิร์น เสมอ สเปอร์ส 1-1 (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 0-1 นาที 7), (มอร์เท่น แกมส์ท พีเดอร์เซ่น 1-1 นาที 30)
ฟูแล่ม แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 1-3 (แดนนี่ คอลลินส์ 0-1 นาที 45), (ไมเคิล โชปรา 0-2 นาที 54), (ดาวิด ฮีลี่ 1-2 นาที 74), (เคลวิน โจนส์ 1-3 นาที 76)
นิวคาสเซิล ชนะ เร้ดดิ้ง 3-0 (โอบาเฟมี่ มาริติน 1-0 นาที 18), (ไมเคิล โอเว่น 2-0 นาที 43), (มาร์ค วิดูก้า 3-0 นาที 58)
วีแกน ชนะ เบอร์มิ่งแฮม 2-0 (ไรอัน เทย์เลอร์ 1-0 นาที 15), (ไรอัน เทย์เลอร์ 2-0 นาที 55)
แมนฯซิตี้ แพ้ เชลซี 0-2 (ริชาร์ด ดันน์ ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 6), (โซโลมอน กาลู 0-2 นาที 53)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 5 เมษายน
แมนฯซิตี 0-2 เชลซี
เกมพรีเมียร์ลีกประจำวันเสาร์ที่ 5 เมษายน ทีม"เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 9 ของตารางเปิด ซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ รับการมาเยือนของ"สิงโตน้ำเงินคราม"เชลซี โดยเกมในวันนี้ สเวน โกรัน อีริคส์สัน ผู้จัดการทีม"เรือใบสีฟ้า"หมดสิทธิ์ใช้ไมก้า ริชาร์ด ปราการหลังตัวเก่งเช่นเคย เพราะยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ โดยในแดนหน้าวางให้ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ยืนเป็นหัวหอกเดี่ยว ด้าน เชลซี ของ อัฟราม แกรนท์ นั้นพักผู้เล่นในบางตำแหน่ง โดยใช้ นิโกล่าส์ อเนลก้า ยืนเป็นหัวหอกคู่กับ โซโลมอน กาลู
เริ่มเกมมาแค่ 5 นาที "สิงห์บูลส์"ก็มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว เมื่อ มิคาเอล เอสเซียง ไหลบอลออกทางด้านกราบขวาให้ นิโกล่าส์ อเนลก้า ปาดเรียดมาที่หน้าประตูหมายจะคืนบอลให้กับ เอสเซียงเข้าชาร์จ แต่ ริชาร์ด ดันน์ พุ่งมาสไลด์บอลตัดหน้า เอสเซียง เข้าประตูตัวเองไป "สิงโตน้ำเงินคราม"คำรามนำ 1-0
เมื่อได้ประตูขึ้นนำไปแล้ว เชลซี ก็ยังคงเปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่องนาทีที่ 11 เอสเซียง แทงบอลให้ อเนลก้า หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษอีกครั้ง แต่จังหวะที่"นิโก้"สับไกนั้น เนดุม โอนูโอฮา มาบล็อกไว้ได้ทันเวลา
เข้าสู่ 20 นาทีแรกของเกม แมนฯซิตี้ เริ่มต่อเกมทำเกมรุกได้บ้าง มาร์ติน เปตรอฟ เปิดจากทางด้านซ้ายให้ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ได้ทะยานโขกในกรอบเขตโทษคนเดียวเหน่งๆ แต่บอลข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
หลังจากนั้นไม่นาน"เรือใบสีฟ้า"ก็พลาดโอกาสที่จะได้ประตูตีเสมอถึง 2 จังหวะติดๆกัน จังหวะแรกเป็นลูกยิงของ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ จากการหักมาให้ของ เบนจานี่ แต่บอลไปติด จูเลียโน เบลเล็ตติ ที่ขวางอยู่หน้าประตูออกหลังไป จังหวะถัดมา เปตรอฟ ลากตัดจากกราบขวาเข้ามาก่อนตัดสินใจยิงเต็มแรงจากระยะ 30 หลา บอลทำท่าจะเสียบสามเหลี่ยมอยู่แล้ว แต่ คาร์โล คูดิชินี่ ยังเหินปัดข้ามคานออกไปได้
นาทีที่ 31 "เรือใบสีฟ้า"น่าจะได้ประตูตีเสมออย่างที่สุด เมื่อ ไมเคิล จอห์นสัน ทำชิ่งกับ ไอร์แลนด์ หลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษทางด้านซ้าย บอลไปพุ่งไปติดบล็อกของ เบลเล็ตติ ย้อยผ่าน คูดิชินี่ ไปแล้ว แต่ แอชลี่ย์ โคล สกัดบอลออกจากเส้นได้อย่างหวุดหวิด ครบ 45 นาทีแรก "สิงโตน้ำเงินคราม"ยังนำอยู่ 1-0
เริ่มครึ่งหลังมาได้ 8 นาที เชลซีก็มาได้ประตูที่สองหนีห่างไป จากการเล่นชิ่งกันหน้ากรอบของ เอสเซียง กับ กาลู ก่อนที่ มิดฟิลด์กาน่าจะแทงทะลุให้กับกับ กาลู หลุดไปแตะหลบ โจ ฮาร์ท และแปบอลเข้าไปอย่างสบายๆ "สิงห์บูลส์"นำห่าง 2-0 และหลังจากที่ทีมเยือนทำประตูที่ 2 ได้เพียงแค่ 2 นาทีก็เกือบมาได้ประตูที่ 3 อีก จากจังหวะที่ อเนลก้า ได้โขกจ่อๆในกรอบเขตโทษ แต่ โจ ฮาร์ท ยังบินปัดบอลเอาไว้ได้
นาทีที่ 65 สเวน โกรัน อีริคส์สัน ต้องแก้เกมเพื่อทวงประตูคืน โดย ส่ง ดาริอุส วาสเซลล์ ลงมาเล่นแทน เอลาโน่ ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก และแม้ว่าจะมีการแก้เกมแล้วแต่"เรือใบสีฟ้า"ก็ไม่สามารถทำประตูคืนได้ ครบ 90 นาที "สิงโตน้ำเงินคราม"เอาชนะ แมนฯซิตี้ไปได้ 2-0 เก็บ 3 คะแนนเต็มไล่จี้ทีม"ปิศาจแดง"แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงเหลือแค่ 2 คะแนนแล้ว
รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้ง 2 ทีม
แมนฯซิตี้ : โจ ฮาร์ท, ริชาร์ด ดันน์, ไมเคิล บอลล์, โนดุม โอนูโอฮา, เวดราน คอร์ลูก้า, มาร์ติน เปตรอฟ, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, เอลาโน่ บลูแมร์, ไมเคิล จอห์นสัน, เกลสัน เฟอร์นานเดส, เบนจานี่ เอ็มวารูวารี
เชลซี : คาร์โล คูดิชินี่, จูเลียโน่ เบลเล็ตติ, แอชลี่ย์ โคล, จอห์น เทอร์รี่, อเล็กซ์, ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, มิคาเอล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, นิโกล่าส์ อเนลก้า, โซโลมอน กาลู
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 5 เมษายน
อาร์เซนอล เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 (ปีเตอร์ เคร้าช์ 0-1 นาที 42), (นิคลาส เบนด์ทเนอร์ 1-1 นาที 54)
แอสตัน วิลล่า ชนะ โบลตัน 4-0 (แกเร็ธ แบร์รี่ 1-0 นาที 9), (กาเบรียบ อักบอนลาฮอร์ 2-0 นาที 56), (แกเร็ธ แบร์รี่ 3-0 นาที 60), (มาร์ลอน แฮร์วูด 4-0 นาที 85)
แบล็คเบิร์น เสมอ สเปอร์ส 1-1 (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 0-1 นาที 7), (มอร์เท่น แกมส์ท พีเดอร์เซ่น 1-1 นาที 30)
ฟูแล่ม แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 1-3 (แดนนี่ คอลลินส์ 0-1 นาที 45), (ไมเคิล โชปรา 0-2 นาที 54), (ดาวิด ฮีลี่ 1-2 นาที 74), (เคลวิน โจนส์ 1-3 นาที 76)
นิวคาสเซิล ชนะ เร้ดดิ้ง 3-0 (โอบาเฟมี่ มาริติน 1-0 นาที 18), (ไมเคิล โอเว่น 2-0 นาที 43), (มาร์ค วิดูก้า 3-0 นาที 58)
วีแกน ชนะ เบอร์มิ่งแฮม 2-0 (ไรอัน เทย์เลอร์ 1-0 นาที 15), (ไรอัน เทย์เลอร์ 2-0 นาที 55)
แมนฯซิตี้ แพ้ เชลซี 0-2 (ริชาร์ด ดันน์ ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 6), (โซโลมอน กาลู 0-2 นาที 53)
