โบลตัน วันเดอเรอร์ส ยังต้องดิ้นรนหนีการตกชั้นอย่างหนักต่อไปโดยล่าสุดเสมอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในบ้านตัวเอง 0-0 ขณะที่ เควิน คีแกน ควานหาชัยชนะนัดแรกกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เจอแล้วด้วยการบดเอาชนะ ฟูแล่ม 2-0 จากการยิงของ มาร์ค วิดูก้า และ ไมเคิล โอเว่น
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2551
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0 – 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ที่สนามรีบอค สเตเดี้ยม โบลตัน วันเดอเรอร์ส ลงเล่นในบ้านตัวเองฟาดเกือกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้ แกรี่ เม็กสัน ยังต้องส่ง อาลี อัล ฮับซี่ ลงเฝ้าเสาแทน ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น ต่อไป แต่ยังมี 3 แนวรุกตัวหลักอย่าง เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, แม็ทธิว เทย์เลอร์ และ เควิน เดวีส์ เป็นความหวังเช่นเคย
ด้านทีมเยือนจากแมนเชสเตอร์มีการเปลี่ยนนแปลงเล็กน้อย โดย สเวน โกรัน อีริคส์สัน ปรับหมากมาเล่นในระบบ 4-4-2 มี ดาริอุส วาสเซลล์ ยืนเป็นคู่ศูนย์หน้ากับ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี แต่แดนกลางดร็อป เอลาโน่ บลูแมร์ ไว้ที่ม้านั่งสำรองโดยให้ ไมเคิล จอห์นสัน เป็นตัวเดินเกมในแผงมิดฟิลด์
เริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 30 วินาที เดอะ ทร็อตเตอร์ส ก็มีโอกาสทักทายก่อนจากการยิงของ เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ แต่ยังไม่ผ่านมือของ โจ ฮาร์ท จากนั้นนาทีที่ 7 เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากลูกเตะมุมทางด้านซ้ายของ ดิยุฟ ที่เปิดมาเสาแรกให้ เกรตาร์ สไตน์สสัน โฉบเข้ามาโหม่งเต็มหน้าผาก ทว่าบอลไปกระแทกเสาชนิดดังสนั่นอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 16 เรือใบสีฟ้าได้โอกาสสร้างความหวาดเสียวบ้างจากลูกเตะมุมด้านซ้ายของ มาร์ติน เปตรอฟ ที่หลุดมาถึงหน้าเขตโทษ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ สอดเข้ามาวางเท้าฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้าย บอลพุ่งทำท่าจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่ ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ ที่ยืมคุมเสาอยู่โหม่งเคลียร์ทิ้งออกหลังไปได้อย่างน่าเสียวไส้
โบลตัน พยายามบุกกดดันอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 25 เควิน โนแลน กองกลางกัปตันทีมเจ้าบ้านพยายามพาบอลตะลุยเข้าหากรอบเขตโทษก่อนฝ่าแนวรับทีมเยือน 3-4 คนเข้าเข่นด้วยซ้ายระยะประมาณ 18 หลา แต่ลูกไปแฉลบบล็อกของ ไมเคิล จอห์นสัน ก่อนเข้ามือ โจ ฮาร์ท แบบไม่มีอันตราย จากนั้น ดิยุฟ ลองกดด้วยซ้ายจากนอกกรอบในนาทีที่ 36 แต่ก็ไม่เกินกำลังของ โจ ฮาร์ท ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง แกรี่ เม็กสัน ต้องเปลี่ยนเอา ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ แบ็กซ้ายจาเมกาที่โดนเสียบจนได้รับบาดเจ็บในช่วงท้ายครึ่งแรกออก โดยเป็น โจอี้ โอไบรอัน ได้รับโอกาสลงสนามแทน ก่อนที่ สเวน โกรัน อีริคส์สัน จะแก้เกมบ้างในนาทีที่ 58 ด้วยการส่ง เฟลิเป้ ไซเซโด้ กับ เอลาโน่ ลงมาแทน วาสเซลล์ และ ไอร์แลนด์
ผ่านมาถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม เรือใบสีฟ้าได้โอกาสโต้กลับอย่างน่ากลัว ไซเซโด้ เล่นชิ่งกับ เปตรอฟ ก่อนจ่ายขึ้นหน้าให้ เบนจานี่ พยายามลากบอลเข้าไปยิงเอง แต่ถูกกองหลังโบลตันขวางไว้ ทว่าบอลหลุดมาเข้าทาง เอลาโน่ ได้กดด้วยขวาในกรอบเขตโทษถูก อาลี อัล ฮับซี่ ย่อตัวปัดออกหลังไปได้ที่เสาแรก
เกรตาร์ สไตน์สสัน แบ็กขวาเจ้าถิ่นมีลุ้นทำประตูมากกว่าใครในนัดนี้ โดยนาทีที่ 72 ได้โหม่งลูกเตะมุมไปติดบล็อก ริชาร์ด ดันน์ หน้าประตูออกหลัง ก่อนที่จะเก็บตกจากแถวสองแล้วซัดด้วยซ้ายเต็มเหนี่ยวไปแฉลบผู้เล่นเรือใบสีฟ้าหลุดเสาแรกเพียงนิดเดียว
ช่วง 10 นาทีสุดท้าย แมนฯ ซิตี้ ได้โอกาสงามๆ 2 ครั้ง เริ่มจาก เอลาโน่ ที่ตะบันด้วยซ้ายจากระยะ 20 หลาถูก อาลี อัล ฮับซี่ ทุบทิ้งออกมาได้ ก่อนที่ จอห์นสัน จะโหม่งชงให้ ไซเซโด้ ล้มตัวยิงเหน่งๆ กลางประตู แต่ไปติด โจอี้ โอไบรอัน ที่ยืนคุมเส้นอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ เปตรอฟ จะช่วยให้ทีมเยือนรอดพ้นความปราชัยแบบหวุดหวิดด้วยการเคลียร์ลูกโขกของ เควิน เดวีส์ คาบเส้นประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ครบ 90 นาที โบลตัน จึงเสมอกับ แมนฯ ซิตี้ ไป 0-0 ยังรั้งอันดับ 3 จากท้ายตาราง มี 26 คะแนน ส่วนเรือใบสีฟ้าอยู่อันดับ 9 มี 49 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โบลตัน วันเดอเรอร์ส – อาลี อัล ฮับซี่, เกรตาร์ สไตน์สสัน, แกรี่ เคฮิลล์, แอนดี้ โอไบรอัน, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์, อีบัน คัมโป้, เควิน โนแลน, แดนนี่ กัทธรี่, เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, แม็ทธิว เทย์เลอร์, เควิน เดวีส์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – โจ ฮาร์ท, เวดราน ชอร์ลูก้า, เนดุม โอนัวฮา, ริชาร์ด ดันน์, ฮาเบียร์ การ์ริโด้, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, เกลซง แฟร์นองเดส, ไมเคิล จอห์นสัน, มาร์ติน เปตรอฟ, ดาริอุส วาสเซลล์, เบนจานี่ เอ็มวารูวารี
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ชนะ ปอร์ทสมัธ 2-0 (ดาร์เรน เบนท์ 1-0 นาที 80), (เจมี่ โอฮาร่า 2-0 นาที 82)
แอสตัน วิลล่า แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 0-1 (ไมเคิล โชปรา 0-1 นาที 83)
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ วีแกน แอธเลติก 3-1 (โรเก้ ซานตา ครูซ 1-0 นาที 11), (มาร์ลอน คิง 1-1 จุดโทษ นาที 17), (เจสัน โรเบิร์ตส 2-1 นาที 45), (โรเก้ ซานตา ครูซ 3-1 นาที 63)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0
มิดเดิลสโบรช์ ชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 1-0 (ตุนกาย ซานลี่ 1-0 นาที 32)
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ชนะ ฟูแล่ม 2-0 (มาร์ค วิดูก้า 1-0 นาที 6), (ไมเคิล โอเว่น 2-0 นาที 83)
เรดดิ้ง ชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 2-1 (อังเดร บิเคย์ 1-0 นาที 31), (เมาโร ซาราเต้ 1-1 นาที 64), (อังเดร บิเคย์ 2-1 นาที 79)
เอฟเวอร์ตัน เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 (ยาคูบู อเย็กเบนี่ 1-0 นาที 8), (ดีน แอชตัน 1-1 นาที 68)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2551
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0 – 0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ที่สนามรีบอค สเตเดี้ยม โบลตัน วันเดอเรอร์ส ลงเล่นในบ้านตัวเองฟาดเกือกกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกมนี้ แกรี่ เม็กสัน ยังต้องส่ง อาลี อัล ฮับซี่ ลงเฝ้าเสาแทน ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น ต่อไป แต่ยังมี 3 แนวรุกตัวหลักอย่าง เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, แม็ทธิว เทย์เลอร์ และ เควิน เดวีส์ เป็นความหวังเช่นเคย
ด้านทีมเยือนจากแมนเชสเตอร์มีการเปลี่ยนนแปลงเล็กน้อย โดย สเวน โกรัน อีริคส์สัน ปรับหมากมาเล่นในระบบ 4-4-2 มี ดาริอุส วาสเซลล์ ยืนเป็นคู่ศูนย์หน้ากับ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี แต่แดนกลางดร็อป เอลาโน่ บลูแมร์ ไว้ที่ม้านั่งสำรองโดยให้ ไมเคิล จอห์นสัน เป็นตัวเดินเกมในแผงมิดฟิลด์
เริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 30 วินาที เดอะ ทร็อตเตอร์ส ก็มีโอกาสทักทายก่อนจากการยิงของ เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ แต่ยังไม่ผ่านมือของ โจ ฮาร์ท จากนั้นนาทีที่ 7 เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากลูกเตะมุมทางด้านซ้ายของ ดิยุฟ ที่เปิดมาเสาแรกให้ เกรตาร์ สไตน์สสัน โฉบเข้ามาโหม่งเต็มหน้าผาก ทว่าบอลไปกระแทกเสาชนิดดังสนั่นอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 16 เรือใบสีฟ้าได้โอกาสสร้างความหวาดเสียวบ้างจากลูกเตะมุมด้านซ้ายของ มาร์ติน เปตรอฟ ที่หลุดมาถึงหน้าเขตโทษ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ สอดเข้ามาวางเท้าฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้าย บอลพุ่งทำท่าจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่ ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ ที่ยืมคุมเสาอยู่โหม่งเคลียร์ทิ้งออกหลังไปได้อย่างน่าเสียวไส้
โบลตัน พยายามบุกกดดันอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 25 เควิน โนแลน กองกลางกัปตันทีมเจ้าบ้านพยายามพาบอลตะลุยเข้าหากรอบเขตโทษก่อนฝ่าแนวรับทีมเยือน 3-4 คนเข้าเข่นด้วยซ้ายระยะประมาณ 18 หลา แต่ลูกไปแฉลบบล็อกของ ไมเคิล จอห์นสัน ก่อนเข้ามือ โจ ฮาร์ท แบบไม่มีอันตราย จากนั้น ดิยุฟ ลองกดด้วยซ้ายจากนอกกรอบในนาทีที่ 36 แต่ก็ไม่เกินกำลังของ โจ ฮาร์ท ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง แกรี่ เม็กสัน ต้องเปลี่ยนเอา ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ แบ็กซ้ายจาเมกาที่โดนเสียบจนได้รับบาดเจ็บในช่วงท้ายครึ่งแรกออก โดยเป็น โจอี้ โอไบรอัน ได้รับโอกาสลงสนามแทน ก่อนที่ สเวน โกรัน อีริคส์สัน จะแก้เกมบ้างในนาทีที่ 58 ด้วยการส่ง เฟลิเป้ ไซเซโด้ กับ เอลาโน่ ลงมาแทน วาสเซลล์ และ ไอร์แลนด์
ผ่านมาถึงหนึ่งชั่วโมงเต็ม เรือใบสีฟ้าได้โอกาสโต้กลับอย่างน่ากลัว ไซเซโด้ เล่นชิ่งกับ เปตรอฟ ก่อนจ่ายขึ้นหน้าให้ เบนจานี่ พยายามลากบอลเข้าไปยิงเอง แต่ถูกกองหลังโบลตันขวางไว้ ทว่าบอลหลุดมาเข้าทาง เอลาโน่ ได้กดด้วยขวาในกรอบเขตโทษถูก อาลี อัล ฮับซี่ ย่อตัวปัดออกหลังไปได้ที่เสาแรก
เกรตาร์ สไตน์สสัน แบ็กขวาเจ้าถิ่นมีลุ้นทำประตูมากกว่าใครในนัดนี้ โดยนาทีที่ 72 ได้โหม่งลูกเตะมุมไปติดบล็อก ริชาร์ด ดันน์ หน้าประตูออกหลัง ก่อนที่จะเก็บตกจากแถวสองแล้วซัดด้วยซ้ายเต็มเหนี่ยวไปแฉลบผู้เล่นเรือใบสีฟ้าหลุดเสาแรกเพียงนิดเดียว
ช่วง 10 นาทีสุดท้าย แมนฯ ซิตี้ ได้โอกาสงามๆ 2 ครั้ง เริ่มจาก เอลาโน่ ที่ตะบันด้วยซ้ายจากระยะ 20 หลาถูก อาลี อัล ฮับซี่ ทุบทิ้งออกมาได้ ก่อนที่ จอห์นสัน จะโหม่งชงให้ ไซเซโด้ ล้มตัวยิงเหน่งๆ กลางประตู แต่ไปติด โจอี้ โอไบรอัน ที่ยืนคุมเส้นอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ เปตรอฟ จะช่วยให้ทีมเยือนรอดพ้นความปราชัยแบบหวุดหวิดด้วยการเคลียร์ลูกโขกของ เควิน เดวีส์ คาบเส้นประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ครบ 90 นาที โบลตัน จึงเสมอกับ แมนฯ ซิตี้ ไป 0-0 ยังรั้งอันดับ 3 จากท้ายตาราง มี 26 คะแนน ส่วนเรือใบสีฟ้าอยู่อันดับ 9 มี 49 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โบลตัน วันเดอเรอร์ส – อาลี อัล ฮับซี่, เกรตาร์ สไตน์สสัน, แกรี่ เคฮิลล์, แอนดี้ โอไบรอัน, ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์, อีบัน คัมโป้, เควิน โนแลน, แดนนี่ กัทธรี่, เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, แม็ทธิว เทย์เลอร์, เควิน เดวีส์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – โจ ฮาร์ท, เวดราน ชอร์ลูก้า, เนดุม โอนัวฮา, ริชาร์ด ดันน์, ฮาเบียร์ การ์ริโด้, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, เกลซง แฟร์นองเดส, ไมเคิล จอห์นสัน, มาร์ติน เปตรอฟ, ดาริอุส วาสเซลล์, เบนจานี่ เอ็มวารูวารี
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ชนะ ปอร์ทสมัธ 2-0 (ดาร์เรน เบนท์ 1-0 นาที 80), (เจมี่ โอฮาร่า 2-0 นาที 82)
แอสตัน วิลล่า แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 0-1 (ไมเคิล โชปรา 0-1 นาที 83)
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ วีแกน แอธเลติก 3-1 (โรเก้ ซานตา ครูซ 1-0 นาที 11), (มาร์ลอน คิง 1-1 จุดโทษ นาที 17), (เจสัน โรเบิร์ตส 2-1 นาที 45), (โรเก้ ซานตา ครูซ 3-1 นาที 63)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0
มิดเดิลสโบรช์ ชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 1-0 (ตุนกาย ซานลี่ 1-0 นาที 32)
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ชนะ ฟูแล่ม 2-0 (มาร์ค วิดูก้า 1-0 นาที 6), (ไมเคิล โอเว่น 2-0 นาที 83)
เรดดิ้ง ชนะ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 2-1 (อังเดร บิเคย์ 1-0 นาที 31), (เมาโร ซาราเต้ 1-1 นาที 64), (อังเดร บิเคย์ 2-1 นาที 79)
เอฟเวอร์ตัน เสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 (ยาคูบู อเย็กเบนี่ 1-0 นาที 8), (ดีน แอชตัน 1-1 นาที 68)
