แมนเชสเตอร์ ซิตี ทำแต้มหล่นหายในบ้านเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกัน ล่าสุด ทำได้เพียงแค่เสมอ วีแกน แอธเลติก ทีมหนีตกชั้นแบบไม่มีสกอร์ 0-0 ทำให้เรือใบสีฟ้ารั้งอันดับ 8 ของตารางคะแนนศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2551
แมนเชสเตอร์ ซิตี 0 – 0 วีแกน แอธเลติก
คู่ดึกของฟุตบอลลีกสูงสุดเมืองผู้ดีประจำคืนวันเสาร์ แมนเชสเตอร์ ซิตี เฝ้ารัง ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ พบกับ วีแกน แอธเลติก เกมนี้ สเวน โกรัน อีริคส์สัน ตัดสินใจพัก ดีทมาร์ ฮามันน์ เป็นตัวสำรอง แต่ก็ส่ง เอลาโน บลูแมร์ ลงปั้นเกมเป็นตัวจริงอีกครั้ง ขณะที่ เวดราน คอร์ลูกา ก็หายเจ็บกลับมาทำให้ เนดุม โอนัวฮา ถูกหุบไปยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟ แทน ไมกาห์ ริชาร์ดส ที่เจ็บเข่า
ด้านทีมเยือนของ สตีฟ บรูซ ปรับแนวรับโดยให้ เอ็มเมอร์สัน บอยซ์ ลงเป็นปราการตัวกลางคู่กับ พอล ชาร์เนอร์ พร้อมทั้งส่ง เจสัน คูมาส จอมทัพเลือดเวลล์ลงปั้นเกมในแดนกลางโดยมีคู่หัวหอกร่างยักษ์อย่าง เอมิล เฮสกีย์ กับ มาร์ลอน คิง คอยล่าตาข่าย
เริ่มเล่นมาได้ 6 นาที เรือใบสีฟ้าก็เกือบเป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำไปก่อน เมื่อ ไมเคิล บอลล์ เติมเกมขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตักมาที่เสาสองให้ ดาริอุส วาสเซลล์ เทกตัวขึ้นโขกเหนือ เอริก เอ็ดแมน ทว่า คริส เคิร์กแลนด์ โชว์ซูเปอร์เซฟล้มตัวป้องกันได้อย่างเหนียวแน่น
แมนฯ ซิตี ยังได้จังหวะสร้างความหวาดเสียวอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 24 เอลาโน บลูแมร์ ได้บอลจากการเล่นลูกเตะมุมสั้นทางด้านซ้ายก่อนไหลคืนมาหน้าเขตโทษให้ สตีเฟน ไอร์แลนด์ ลองส่องทแยงมุม แต่ลูกพุ่งเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกหลังไปเพียงนิดเดียว
เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกม ไมเคิล จอห์นสัน อาศัยความสามารถเฉพาะตัวพาบอลจากกลางสนามกระชากมาถึงหน้าเขตโทษก่อนลองซัดด้วยขวา แต่จังหวะลูกไหลห่างเท้าจึงซัดโด่งข้ามคานออกไปไกลพอสมควร จากนั้นในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก วีแกน ได้ลูกฟรีคิกทางกราบขวา เจสัน คูมาส เปิดโค้งไปหน้าประตูให้ เอมิล เอสกีย์ ขึ้นโขก แต่ลูกหลุดเสาไกลออกหลังไป จบ 45 นาทีแรกจึงยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง เรือใบสีฟ้า ต้องเสีย เอลาโน ไปเนื่องจากบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ เฟลิเป ไซเซโด ถูกส่งลงสนามแทนในนาทีที่ 49 ทว่าก็ยังคงเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า แต่ยังหาทางเจาะไม่เข้า นาทีที่ 54 ไมเคิล จอห์นสัน จ่ายให้ เบนจานี เอ็มวารูวารี พิงกองหลังเดอะ ลาติกส์ ก่อนพลิกหาช่องสับไกด้วยขวาแถวเส้นเขตโทษ แต่ก็ไปตรงตัว เคิร์กแลนด์ ที่ยืนตำแหน่งไม่พลาด
เกมผ่านมาถึงหนึ่งชั่วโมง ทีมเยือนมีโอกาสได้ซัดบ้าง โดย ริชาร์ด ดันน์ สกัดลูกสาดของ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ไม่ดีไปเข้าทาง มาร์ลอน คิง แต่ ดันน์ ยังตามมาแก้ตัวด้วยการบล็อกลูกยิงในเขตโทษของ คิง เอาไว้ได้ นาทีที่ 70 เจ้าถิ่นชวดได้ประตูอย่างน่าเจ็บใจ เมื่อ เกลซง แฟร์นองเดส แทงทะลุช่องให้ วาสเซลล์ หลุดเข้าไปเปิดให้ เบนจานี เข้าฮอสที่เสาแรก แต่กองหน้าซิมบับเวกลับแปหลุดกรอบออกไปเอง
เข้าสู่ช่วง 8 นาทีสุดท้าย เดอะ ลาติกส์ พลาดโอกาสได้ประตูอย่างน่าเสียดาย เมื่อ เอมิล เฮสกีย์ ตบเรียดในเขตโทษมาหน้าประตูให้ วิลสัน ปาลาซิออส ได้ซัดจ่อๆ ไปติดเซฟของ โจ ฮาร์ท ก่อนที่จะตามซ้ำอีกที แต่รีบร้อนเกินไปจึงวอลเลย์หลุดกรอบ ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีการทำประตูกันได้ หมดเวลา แมนฯ ซิตี จึงทำได้แค่เสมอกับ วีแกน 0-0 เก็บเพิ่มเป็น 45 คะแนน รั้งอันดับ 8 ของตาราง ส่วน วีแกน โดขึ้นมาอยู่ที่ 14 ของตาราง มี 27 คะแนนเท่ากับ ซันเดอร์แลนด์ แต่ผลต่างประตูได้-เสียดีกว่า
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี – โจ ฮาร์ท, เวดราน คอร์ลูก้า, ริชาร์ด ดันน์, เนดุม โอนัวฮา, ไมเคิล บอลล์, ดาริอุส วาสเซลล์, เกลซง แฟร์นองเดส, เอลาโน บลูแมร์, ไมเคิล จอห์นสัน, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, เบนจานี เอ็มวารูวารี
วีแกน แอธเลติก – คริส เคิร์กแลนด์, มาริโอ เมลช็อต, พอล ชาร์เนอร์, เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, เอริก เอ็ดแมน, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิล บราวน์, วิลสัน ปาลาซิออส, เจสัน คูมาส, เอมิล เฮสกีย์, มาร์ลอน คิง
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
อาร์เซนอล เสมอ แอสตัน วิลลา 1-1 (ฟิลิปป์ เซนเดอรอส 0-1 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 27), (นิคลาส เบนด์ทเนอร์ 1-1 นาที 90)
เบอร์มิงแฮม ซิตี ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 4-1 (มิคาเอล ฟอร์สเซลล์ 1-0 นาที 7), (เซบาสเตียน ลาร์สสัน 2-0 นาที 55), (มิคาเอล ฟอร์สเซลล์ 3-0 นาที 59), (มิคาเอล ฟอร์สเซลล์ 4-0 นาที 81), (เจอร์เมน จีนาส 4-1 นาที 90)
ดาร์บี เคาน์ตี้ เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 0-0
ฟูแลม แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-3 (โอเวน ฮาร์กรีฟส์ 0-1 นาที 15), (ปาร์ค จี-ซุง 0-2 นาที 44), (ไซมอน เดวีส์ 0-3 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 72)
มิดเดิลสโบรช์ แพ้ เรดดิง 0-1 (เจมส์ ฮาร์เปอร์ 0-1 นาที 90)
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 0-1 (แม็ตต์ ดาร์บีเชียร์ 0-1 นาที 90)
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แพ้ เชลซี 0-4 (แฟรงค์ แลมพาร์ด 0-1 จุดโทษ นาที 17), (โจ โคล 0-2 นาที 20), (มิชาเอล บัลลัค 0-3 นาที 22), (แอชลีย์ โคล 0-4 นาที 64)
แมนเชสเตอร์ ซิตี เสมอ วีแกน แอธเลติก 0-0
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2551
แมนเชสเตอร์ ซิตี 0 – 0 วีแกน แอธเลติก
คู่ดึกของฟุตบอลลีกสูงสุดเมืองผู้ดีประจำคืนวันเสาร์ แมนเชสเตอร์ ซิตี เฝ้ารัง ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ พบกับ วีแกน แอธเลติก เกมนี้ สเวน โกรัน อีริคส์สัน ตัดสินใจพัก ดีทมาร์ ฮามันน์ เป็นตัวสำรอง แต่ก็ส่ง เอลาโน บลูแมร์ ลงปั้นเกมเป็นตัวจริงอีกครั้ง ขณะที่ เวดราน คอร์ลูกา ก็หายเจ็บกลับมาทำให้ เนดุม โอนัวฮา ถูกหุบไปยืนเซนเตอร์ฮาล์ฟ แทน ไมกาห์ ริชาร์ดส ที่เจ็บเข่า
ด้านทีมเยือนของ สตีฟ บรูซ ปรับแนวรับโดยให้ เอ็มเมอร์สัน บอยซ์ ลงเป็นปราการตัวกลางคู่กับ พอล ชาร์เนอร์ พร้อมทั้งส่ง เจสัน คูมาส จอมทัพเลือดเวลล์ลงปั้นเกมในแดนกลางโดยมีคู่หัวหอกร่างยักษ์อย่าง เอมิล เฮสกีย์ กับ มาร์ลอน คิง คอยล่าตาข่าย
เริ่มเล่นมาได้ 6 นาที เรือใบสีฟ้าก็เกือบเป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำไปก่อน เมื่อ ไมเคิล บอลล์ เติมเกมขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตักมาที่เสาสองให้ ดาริอุส วาสเซลล์ เทกตัวขึ้นโขกเหนือ เอริก เอ็ดแมน ทว่า คริส เคิร์กแลนด์ โชว์ซูเปอร์เซฟล้มตัวป้องกันได้อย่างเหนียวแน่น
แมนฯ ซิตี ยังได้จังหวะสร้างความหวาดเสียวอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 24 เอลาโน บลูแมร์ ได้บอลจากการเล่นลูกเตะมุมสั้นทางด้านซ้ายก่อนไหลคืนมาหน้าเขตโทษให้ สตีเฟน ไอร์แลนด์ ลองส่องทแยงมุม แต่ลูกพุ่งเฉี่ยวสามเหลี่ยมออกหลังไปเพียงนิดเดียว
เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกม ไมเคิล จอห์นสัน อาศัยความสามารถเฉพาะตัวพาบอลจากกลางสนามกระชากมาถึงหน้าเขตโทษก่อนลองซัดด้วยขวา แต่จังหวะลูกไหลห่างเท้าจึงซัดโด่งข้ามคานออกไปไกลพอสมควร จากนั้นในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก วีแกน ได้ลูกฟรีคิกทางกราบขวา เจสัน คูมาส เปิดโค้งไปหน้าประตูให้ เอมิล เอสกีย์ ขึ้นโขก แต่ลูกหลุดเสาไกลออกหลังไป จบ 45 นาทีแรกจึงยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง เรือใบสีฟ้า ต้องเสีย เอลาโน ไปเนื่องจากบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ เฟลิเป ไซเซโด ถูกส่งลงสนามแทนในนาทีที่ 49 ทว่าก็ยังคงเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า แต่ยังหาทางเจาะไม่เข้า นาทีที่ 54 ไมเคิล จอห์นสัน จ่ายให้ เบนจานี เอ็มวารูวารี พิงกองหลังเดอะ ลาติกส์ ก่อนพลิกหาช่องสับไกด้วยขวาแถวเส้นเขตโทษ แต่ก็ไปตรงตัว เคิร์กแลนด์ ที่ยืนตำแหน่งไม่พลาด
เกมผ่านมาถึงหนึ่งชั่วโมง ทีมเยือนมีโอกาสได้ซัดบ้าง โดย ริชาร์ด ดันน์ สกัดลูกสาดของ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ไม่ดีไปเข้าทาง มาร์ลอน คิง แต่ ดันน์ ยังตามมาแก้ตัวด้วยการบล็อกลูกยิงในเขตโทษของ คิง เอาไว้ได้ นาทีที่ 70 เจ้าถิ่นชวดได้ประตูอย่างน่าเจ็บใจ เมื่อ เกลซง แฟร์นองเดส แทงทะลุช่องให้ วาสเซลล์ หลุดเข้าไปเปิดให้ เบนจานี เข้าฮอสที่เสาแรก แต่กองหน้าซิมบับเวกลับแปหลุดกรอบออกไปเอง
เข้าสู่ช่วง 8 นาทีสุดท้าย เดอะ ลาติกส์ พลาดโอกาสได้ประตูอย่างน่าเสียดาย เมื่อ เอมิล เฮสกีย์ ตบเรียดในเขตโทษมาหน้าประตูให้ วิลสัน ปาลาซิออส ได้ซัดจ่อๆ ไปติดเซฟของ โจ ฮาร์ท ก่อนที่จะตามซ้ำอีกที แต่รีบร้อนเกินไปจึงวอลเลย์หลุดกรอบ ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีการทำประตูกันได้ หมดเวลา แมนฯ ซิตี จึงทำได้แค่เสมอกับ วีแกน 0-0 เก็บเพิ่มเป็น 45 คะแนน รั้งอันดับ 8 ของตาราง ส่วน วีแกน โดขึ้นมาอยู่ที่ 14 ของตาราง มี 27 คะแนนเท่ากับ ซันเดอร์แลนด์ แต่ผลต่างประตูได้-เสียดีกว่า
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี – โจ ฮาร์ท, เวดราน คอร์ลูก้า, ริชาร์ด ดันน์, เนดุม โอนัวฮา, ไมเคิล บอลล์, ดาริอุส วาสเซลล์, เกลซง แฟร์นองเดส, เอลาโน บลูแมร์, ไมเคิล จอห์นสัน, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, เบนจานี เอ็มวารูวารี
วีแกน แอธเลติก – คริส เคิร์กแลนด์, มาริโอ เมลช็อต, พอล ชาร์เนอร์, เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, เอริก เอ็ดแมน, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ไมเคิล บราวน์, วิลสัน ปาลาซิออส, เจสัน คูมาส, เอมิล เฮสกีย์, มาร์ลอน คิง
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
อาร์เซนอล เสมอ แอสตัน วิลลา 1-1 (ฟิลิปป์ เซนเดอรอส 0-1 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 27), (นิคลาส เบนด์ทเนอร์ 1-1 นาที 90)
เบอร์มิงแฮม ซิตี ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 4-1 (มิคาเอล ฟอร์สเซลล์ 1-0 นาที 7), (เซบาสเตียน ลาร์สสัน 2-0 นาที 55), (มิคาเอล ฟอร์สเซลล์ 3-0 นาที 59), (มิคาเอล ฟอร์สเซลล์ 4-0 นาที 81), (เจอร์เมน จีนาส 4-1 นาที 90)
ดาร์บี เคาน์ตี้ เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 0-0
ฟูแลม แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-3 (โอเวน ฮาร์กรีฟส์ 0-1 นาที 15), (ปาร์ค จี-ซุง 0-2 นาที 44), (ไซมอน เดวีส์ 0-3 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 72)
มิดเดิลสโบรช์ แพ้ เรดดิง 0-1 (เจมส์ ฮาร์เปอร์ 0-1 นาที 90)
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 0-1 (แม็ตต์ ดาร์บีเชียร์ 0-1 นาที 90)
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แพ้ เชลซี 0-4 (แฟรงค์ แลมพาร์ด 0-1 จุดโทษ นาที 17), (โจ โคล 0-2 นาที 20), (มิชาเอล บัลลัค 0-3 นาที 22), (แอชลีย์ โคล 0-4 นาที 64)
แมนเชสเตอร์ ซิตี เสมอ วีแกน แอธเลติก 0-0