คริสเตียโน โรนัลโด และ เวย์น รูนีย์ เหมาซัดคนละ 2 ประตูช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปไล่ถล่ม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ถึงถิ่น 5-1 ทำให้ไล่จี้ อาร์เซนอล ทีมจ่าฝูงเหลือเพียงแค่ 3 คะแนนแล้ว
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2551
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1 – 5 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เกมพรีเมียร์ชิป คู่สุดท้ายของคืนวันเสาร์ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เฝ้ารังเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นัดนี้ เควิน คีแกน ส่ง อับดูลาย ฟาย ลงมาเป็นคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ ร่วมกับ สตีเวน เทย์เลอร์ ขณะที่แดนหน้า มาร์ค วิดูกา กับ โอบาเฟมี มาร์ตินส์ เจ็บทั้งคู่ ทำให้ อลัน สมิธ จับคู่ล่าตาข่ายกับ ไมเคิล โอเวน ต่อไป ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ปรับหมากในแดนกลางด้วยการจับ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ลงปั้นเกมร่วมกับ ไมเคิล คาร์ริค โดยมี นานี ลงลากเลื้อยทางกราบซ้าย
เขี่ยลูกเริ่มเล่นมาได้เพียง 4 นาที เจ้าถิ่นก็ได้โอกาสเข้าทำครั้งแรกของเกม เมื่อ ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย พาบอลขึ้นไปถึงเส้นหลังด้านซ้ายก่อนหักเข้ากลางให้ โอเวน โฉบเข้าฮอสที่เสาแรก แต่ถูก เนมานยา วิดิช ขวางเอาไว้จึงยิงไม่เข้ากรอบ
แม้เกมจะเปิดเข้าหากันทั้งสองฝ่าย แต่ก็ยังไม่มีจังหวะลุ้นทำประตูกันเท่าที่ควร นาทีที่ 24 ไมเคิล โอเวน ถูก ริโอ เฟอร์ดินานด์ ล้มตัวขวางล้มลงหน้ากรอบ 6 หลา แต่ผู้ตัดสิน คริส ฟอย ปล่อยให้เกมดำเนินต่อไป จากนั้นนาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นฝ่ายออกนำก่อน 1-0 โดย คริสเตียโน โรนัลโด รับบอลยาวจากแดนหลังแถวริมเส้นด้านซ้ายก่อนโยกหลอก อาบิ๊บ เบย์ หนึ่งที่แล้วโยนลึกไปถึงเสาสองให้ รูนีย์ สอดเข้ามาแปแบบไม่จับผ่านมือ เชย์ กิฟเวน ตุงตาข่าย
หลังตกเป็นรอง นิวคาสเซิล ก็เดินหน้าบุกเข้าใส่มากขึ้น นาทีที่ 31 เบย์ ไหลขึ้นหน้าให้ มิลเนอร์ ล็อกหลบ ปาทริซ เอฟรา เข้าเท้าซ้ายก่อนตัดสินใจซัดแถวเส้นเขตโทษด้านขวา ลูกพุ่งแฉลบ เวส บราวน์ ที่ยืนขวางอยู่หน้าปากประตู ออกหลังไปแบบหวุดหวิด ก่อนที่ อลัน สมิธ จะโหม่งลูกเตะมุมในจังหวะต่อเนื่องโหนข้ามคานหลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 41 ปิศาจแดงเกือบได้ลูกที่ 2 จากจังหวะที่ นานี อาศัยความเร็วกระชากหนี เอ็นซ็อกเบีย แล้วโยนโด่งไปให้ คาร์ลอส เตเบซ พุ่งเข้ามาโหม่งทั้งตัว แต่ถูก อาบิ๊บ เบย์ เข้ามาเบียดจึงบังคับทิศทางไม่ถนัด ลูกเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว ก่อนที่ ไมเคิล คาร์ริค จะไหลให้ โรนัลโด้ หลุดเข้าไปแปสวนตัว กิฟเว่น ในนาทีที่ 45 เป็นประตูหนีห่าง 2-0 และเป็นสกอร์ในครึ่งแรก
กลับมาลุยต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 51 สาลิกาดง มีลุ้นตีไข่แตกโดย เดเมียน ดัฟฟ์ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวพลิ้วหนี เวส บราวน์ เข้าไปซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ยังไม่ผาน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ดักเสาแรกเอาไว้ ก่อนที่ นิคกี บัตต์ จะได้ตะบันเต็มข้อจากแถวสองในนาทีต่อมา ทว่าลูกพุ่งออกข้างเสาแรก
สกอร์มาไหลเป็น 3-0 ในนาทีที่ 56 จากจังหวะที่ โรนัลโด ถูก ฟาย ดักล้มลงไปก่อนที่ผู้เล่นทีมเยือนจะชิงคืนมาได้แล้วไหลให้ปีกโปรตุกีสแตะหนี สตีเวน เทย์เลอร์ หลุดเข้าไปกระชากหลบ สตีฟ ฮาร์เปอร์ แล้วส่งลูกหนังเข้าไปสัมผัสตาข่ายอย่างใจเย็น
นิวคาสเซิล มาทวงคืนเป็น 1-3 ได้ในนาทีที่ 78 จากลูกเตะมุมของ เจมส์ มิลเนอร์ ที่เปิดเข้ามาให้ แอนดี คาร์โรลล์ หัวหอกตัวสำรองโขกโดนไม่เต็มศีรษะ แต่กลายเป็นดีไปเข้าทาง อับดูลาย ฟาย กระทุ้งเผาขนเข้าไปไม่เหลือ อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาทิ้งห่างออกไปเป็น 4-1 ใน 2 นาทีให้หลังจากการปั่นไซด์โป้งนอกเขตโทษหนีมือ ฮาร์เปอร์ ของ รูนีย์
เดอะ แม็กพายส์ น่าจะขยับสกอร์ได้อีกครั้งจากการยิงไกลของ อลัน สมิธ แต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังลอยตัวปัดออกหลังออกไปได้อย่างฉิวเฉียด จากนั้นในนาทีทสุดท้ายของเกม หลุยส์ ซาฮา ตัวสำรองของปิศาจแดงก็มายิงย้ำชัยอย่างเด็ดขาดเป็น 5-1 ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บเพิ่มเป็น 61 คะแนนลดช่องว่างที่ตามหลัง อาร์เซนอล ทีมนำของตารางเหลือ 3 คะแนนเท่านั้น ส่วน นิวคาสเซิล ยังรั้งอันดับ 13 ต่อไป มี 28 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด – เชย์ กิฟเวน, อาบิ๊บ เบย์, สตีเวน เทย์เลอร์, อับดูลาย ฟาย, ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย, เจมส์ มิลเนอร์, นิคกี บัตต์, โจอี บาร์ตัน, เดเมียน ดัฟฟ์, อลัน สมิธ, ไมเคิล โอเวน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, คริสเตียโน โรนัลโด, ไมเคิล คาร์ริค, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, นานี, เวย์น รูนีย์, คาร์ลอส เตเบซ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
เบอร์มิงแฮม ซิตี เสมอ อาร์เซนอล 2-2 (เจมส์ แม็คฟาดเดน 1-0 นาที 27), (ธีโอ วัลคอตต์ 1-1 นาที 49), (ธีโอ วัลคอตต์ 1-2 นาที 55), (เจมส์ แม็คฟาดเด้น 2-2 นาที 90)
ฟูแลม แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-1 (โนลเบอร์โต โซลาโน 0-1 นาที 87)
ลิเวอร์พูล ชนะ มิดเดิลสโบรช์ 3-2 (ตุนกาย ซานลี 0-1 นาที 9), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 1-1 นาที 28), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 2-1 นาที 29), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 3-1 นาที 61), (สจวร์ต ดาวนิง 3-2 นาที 83)
ปอร์ทสมัธ ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 (เจอร์เมน เดโฟ 1-0 จุดโทษ นาที 69)
วีแกน แอธเลติก ชนะ ดาร์บี เคาน์ตี 2-0 (พอล ชาร์เนอร์ 1-0 นาที 60), (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 2-0 นาที 84)
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-5 (เวย์น รูนีย์ 0-1 นาที 25), (คริสเตียโน โรนัลโด 0-2 นาที 45), (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 0-3 นาที 56), (อับดูลาย ฟาย 1-3 นาที 78), (เวย์น รูนีย์ 1-4 นาที 80), (หลุยส์ ซาฮา 1-5 นาที 90)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2551
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1 – 5 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เกมพรีเมียร์ชิป คู่สุดท้ายของคืนวันเสาร์ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เฝ้ารังเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นัดนี้ เควิน คีแกน ส่ง อับดูลาย ฟาย ลงมาเป็นคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ ร่วมกับ สตีเวน เทย์เลอร์ ขณะที่แดนหน้า มาร์ค วิดูกา กับ โอบาเฟมี มาร์ตินส์ เจ็บทั้งคู่ ทำให้ อลัน สมิธ จับคู่ล่าตาข่ายกับ ไมเคิล โอเวน ต่อไป ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ปรับหมากในแดนกลางด้วยการจับ ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ลงปั้นเกมร่วมกับ ไมเคิล คาร์ริค โดยมี นานี ลงลากเลื้อยทางกราบซ้าย
เขี่ยลูกเริ่มเล่นมาได้เพียง 4 นาที เจ้าถิ่นก็ได้โอกาสเข้าทำครั้งแรกของเกม เมื่อ ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย พาบอลขึ้นไปถึงเส้นหลังด้านซ้ายก่อนหักเข้ากลางให้ โอเวน โฉบเข้าฮอสที่เสาแรก แต่ถูก เนมานยา วิดิช ขวางเอาไว้จึงยิงไม่เข้ากรอบ
แม้เกมจะเปิดเข้าหากันทั้งสองฝ่าย แต่ก็ยังไม่มีจังหวะลุ้นทำประตูกันเท่าที่ควร นาทีที่ 24 ไมเคิล โอเวน ถูก ริโอ เฟอร์ดินานด์ ล้มตัวขวางล้มลงหน้ากรอบ 6 หลา แต่ผู้ตัดสิน คริส ฟอย ปล่อยให้เกมดำเนินต่อไป จากนั้นนาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เป็นฝ่ายออกนำก่อน 1-0 โดย คริสเตียโน โรนัลโด รับบอลยาวจากแดนหลังแถวริมเส้นด้านซ้ายก่อนโยกหลอก อาบิ๊บ เบย์ หนึ่งที่แล้วโยนลึกไปถึงเสาสองให้ รูนีย์ สอดเข้ามาแปแบบไม่จับผ่านมือ เชย์ กิฟเวน ตุงตาข่าย
หลังตกเป็นรอง นิวคาสเซิล ก็เดินหน้าบุกเข้าใส่มากขึ้น นาทีที่ 31 เบย์ ไหลขึ้นหน้าให้ มิลเนอร์ ล็อกหลบ ปาทริซ เอฟรา เข้าเท้าซ้ายก่อนตัดสินใจซัดแถวเส้นเขตโทษด้านขวา ลูกพุ่งแฉลบ เวส บราวน์ ที่ยืนขวางอยู่หน้าปากประตู ออกหลังไปแบบหวุดหวิด ก่อนที่ อลัน สมิธ จะโหม่งลูกเตะมุมในจังหวะต่อเนื่องโหนข้ามคานหลุดกรอบออกไป
นาทีที่ 41 ปิศาจแดงเกือบได้ลูกที่ 2 จากจังหวะที่ นานี อาศัยความเร็วกระชากหนี เอ็นซ็อกเบีย แล้วโยนโด่งไปให้ คาร์ลอส เตเบซ พุ่งเข้ามาโหม่งทั้งตัว แต่ถูก อาบิ๊บ เบย์ เข้ามาเบียดจึงบังคับทิศทางไม่ถนัด ลูกเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว ก่อนที่ ไมเคิล คาร์ริค จะไหลให้ โรนัลโด้ หลุดเข้าไปแปสวนตัว กิฟเว่น ในนาทีที่ 45 เป็นประตูหนีห่าง 2-0 และเป็นสกอร์ในครึ่งแรก
กลับมาลุยต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 51 สาลิกาดง มีลุ้นตีไข่แตกโดย เดเมียน ดัฟฟ์ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวพลิ้วหนี เวส บราวน์ เข้าไปซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ยังไม่ผาน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ที่ดักเสาแรกเอาไว้ ก่อนที่ นิคกี บัตต์ จะได้ตะบันเต็มข้อจากแถวสองในนาทีต่อมา ทว่าลูกพุ่งออกข้างเสาแรก
สกอร์มาไหลเป็น 3-0 ในนาทีที่ 56 จากจังหวะที่ โรนัลโด ถูก ฟาย ดักล้มลงไปก่อนที่ผู้เล่นทีมเยือนจะชิงคืนมาได้แล้วไหลให้ปีกโปรตุกีสแตะหนี สตีเวน เทย์เลอร์ หลุดเข้าไปกระชากหลบ สตีฟ ฮาร์เปอร์ แล้วส่งลูกหนังเข้าไปสัมผัสตาข่ายอย่างใจเย็น
นิวคาสเซิล มาทวงคืนเป็น 1-3 ได้ในนาทีที่ 78 จากลูกเตะมุมของ เจมส์ มิลเนอร์ ที่เปิดเข้ามาให้ แอนดี คาร์โรลล์ หัวหอกตัวสำรองโขกโดนไม่เต็มศีรษะ แต่กลายเป็นดีไปเข้าทาง อับดูลาย ฟาย กระทุ้งเผาขนเข้าไปไม่เหลือ อย่างไรก็ตาม แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาทิ้งห่างออกไปเป็น 4-1 ใน 2 นาทีให้หลังจากการปั่นไซด์โป้งนอกเขตโทษหนีมือ ฮาร์เปอร์ ของ รูนีย์
เดอะ แม็กพายส์ น่าจะขยับสกอร์ได้อีกครั้งจากการยิงไกลของ อลัน สมิธ แต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังลอยตัวปัดออกหลังออกไปได้อย่างฉิวเฉียด จากนั้นในนาทีทสุดท้ายของเกม หลุยส์ ซาฮา ตัวสำรองของปิศาจแดงก็มายิงย้ำชัยอย่างเด็ดขาดเป็น 5-1 ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บเพิ่มเป็น 61 คะแนนลดช่องว่างที่ตามหลัง อาร์เซนอล ทีมนำของตารางเหลือ 3 คะแนนเท่านั้น ส่วน นิวคาสเซิล ยังรั้งอันดับ 13 ต่อไป มี 28 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด – เชย์ กิฟเวน, อาบิ๊บ เบย์, สตีเวน เทย์เลอร์, อับดูลาย ฟาย, ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย, เจมส์ มิลเนอร์, นิคกี บัตต์, โจอี บาร์ตัน, เดเมียน ดัฟฟ์, อลัน สมิธ, ไมเคิล โอเวน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, คริสเตียโน โรนัลโด, ไมเคิล คาร์ริค, ดาร์เรน เฟลทเชอร์, นานี, เวย์น รูนีย์, คาร์ลอส เตเบซ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
เบอร์มิงแฮม ซิตี เสมอ อาร์เซนอล 2-2 (เจมส์ แม็คฟาดเดน 1-0 นาที 27), (ธีโอ วัลคอตต์ 1-1 นาที 49), (ธีโอ วัลคอตต์ 1-2 นาที 55), (เจมส์ แม็คฟาดเด้น 2-2 นาที 90)
ฟูแลม แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-1 (โนลเบอร์โต โซลาโน 0-1 นาที 87)
ลิเวอร์พูล ชนะ มิดเดิลสโบรช์ 3-2 (ตุนกาย ซานลี 0-1 นาที 9), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 1-1 นาที 28), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 2-1 นาที 29), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 3-1 นาที 61), (สจวร์ต ดาวนิง 3-2 นาที 83)
ปอร์ทสมัธ ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 (เจอร์เมน เดโฟ 1-0 จุดโทษ นาที 69)
วีแกน แอธเลติก ชนะ ดาร์บี เคาน์ตี 2-0 (พอล ชาร์เนอร์ 1-0 นาที 60), (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 2-0 นาที 84)
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-5 (เวย์น รูนีย์ 0-1 นาที 25), (คริสเตียโน โรนัลโด 0-2 นาที 45), (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 0-3 นาที 56), (อับดูลาย ฟาย 1-3 นาที 78), (เวย์น รูนีย์ 1-4 นาที 80), (หลุยส์ ซาฮา 1-5 นาที 90)