คาร์ลอส เตเบซ หัวหอกอาร์เจนไตน์ รับบทฮีโร่ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการซัดประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย ทำให้จบเกมด้วยการบุกไปเสมอกับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-1 ทว่าจบเกมนี้ปิศาจแดงเสียบัลลังก์จ่าฝูงให้ อาร์เซนอล ที่บุกไปปราบ แมนเชสเตอร์ ซิตี 3-1
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2551
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1 – 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ที่สนามไวท์ ฮาร์ท เลน ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ลงเล่นในบ้านของตัวเองพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยทั้งคู่เพิ่งพบกันมาในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อสัปดาห์ก่อน นัดนี้ ฮวนเด รามอส จัดการส่ง อลัน ฮัตตัน แบ็กขวาตัวใหม่ลงประเดิมสนามทันที พร้อมโยก ปาสกาล ชิมบงดา ไปเล่นแบ็กซ้าย ขณะที่ โจนาธาน วูดเกต ก็ได้ลงคุมแนวรับเช่นกัน
ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดทีมชุดใหญ่มาแบบเต็มอัตราศึกโดยที่ พอล สโคลส์ เรียกความฟิตกลับมาลงสนามเป็น 11 คนแรกได้อีกครั้งโดยปั้นเกมร่วมกับ โอเวน ฮาร์กรีฟส์ ขณะที่ คริสเตียโน โรนัลโด, เวย์น รูนีย์ และ คาร์ลอส เตเบซ ยังเป็นอาวุธหนักในแนวรุกเช่นเคย
เพียงแค่ 7 นาทีแรกหลังเขี่ยลูกเริ่มเล่น ปิศาจแดงก็มีโอกาสก่อนจากความสับสนในเกมรับของไก่เดือยทอง ซึ่ง ชิมบงดา กับ สตีด มัลบรองก์ เกี่ยงกันเข้าบอลหน้าเขตโทษตัวเองจนถูก เวส บราวน์ โฉบเข้ามาเก็บตก แต่ลูกยิงด้วยซ้ายของแบ็กขวาทีมเยือนโด่งข้ามคานออกไป
อย่างไรก็ตาม สเปอร์ส ที่อาศัยเกมสวนกลับในช่วงแรกเล่นงานทีมเยือนก็มาได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 20 จากจังหวะที่ อารอน เลนนอน ได้บอลกระชากไปถึงสุดเส้นหลังด้านขวาแล้วตบเข้ามาตรงกลาง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ทุบออกมาไปเข้าทาง เบอร์บาตอฟ ที่จัดการยิงซ้ำเข้าไปแบบง่ายๆ
หลังจากนั้น เกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูจะช็อตไปดื้อๆ ขณะที่ไก่เดือยทองยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ นาทีที่ 36 เลนนอน อาศัยความเร็วพาบอลขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนตักให้ เบอร์บาตอฟ วอลเลย์ด้วยขวาแถวจุดโทษ ทว่าซัดโดนใต้บอลจึงโด่งข้ามคานออกไปไกล
นาทีที่ 43 ปาทริซ เอฟรา เติมเกมขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนถูก เลนนอน เบียดล้มลงไป แต่ผู้ตัดสิน มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก ไม่ว่าอะไรปล่อยให้เป็นลูกเตะมุมของทีมเยือน ก่อนที่จะจบครึ่งแรกโดย สเปอร์ส เป็นฝ่ายตรึงสกอร์นำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 56 แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เปิดเกมแลกมากขึ้นก็มีโอกาสจากลูกเตะมุมทางด้านซ้ายที่ล้นไปถึงเสาสอง รูนีย์ เก็บบอลได้ก่อนหยอดมาให้ เนมานยา วิดิช เทกตัวเหนือ ไมเคิล ดอว์สัน แต่โหม่งหลุดกรอบออกหลัง ขณะที่ โรนัลโด้ เรียกร้องเอาจุดโทษหลังโดน วู้ดเกต เบียดล้มลง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปิศาจแดงก็เกือบเสียประตูเพิ่มในจังหวะถัดมาโดย เบอร์บาตอฟ ครองบอลดึงผู้เล่นทีมเยือนแล้วจ่ายแบบคมกริบให้ ร็อบบี คีน หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ ฟาน เดอร์ ซาร์ ทว่ากลับยิงไม่คมพอซัดไปเข้าซองนายทวารชาวดัตช์อย่างน่าเขกกะโหลก
ผ่านมาถึงนาทีที่ 76 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โอกาสใกล้เคียงจากจังหวะที่ อันแดร์สัน มิดฟิลด์บราซิเลียนที่ลงมาเป็นตัวสำรองลากบอลเข้ากลางแล้วสับไกเต็มข้อจากนอกกรอบ เดือดร้อน ราเด็ค แชร์นี ที่ต้องล้มตัวปัดออกหลังไปแบบหวุดหวิด ก่อนที่ นานี่ ตัวสำรองอีกรายจะได้ยิงอีก 2 ครั้งในนาทีที่ 80 แต่ก็ไม่ผ่านมือ แชร์นี
นาทีที่ 84 รูนีย์ พาบอลตีคู่กับ ดอว์สัน เข้าเขตโทษก่อนจะล้มลงไป ผู้ตัดสิน มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก จึงควักใบเหลืองแจกดาวยิงร่างอวบ ซึ่งทำให้อดลงเล่นในเกมดาร์บีแมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี สัปดาห์หน้าด้วย เนื่องจากสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ ทว่านาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บ แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 อย่างเหลือเชื่อจากการเข้าชาร์ตลูกเตะมุมจากด้านขวาของ คาร์ลอส เตเบซ ก่อนจบเกมไปด้วยสกอร์นี้
อย่างไรก็ตาม ผลเสมอนัดนี้ทำให้ปิศาจแดงหล่นมาอยู่ที่ 2 มีอยู่ 58 คะแนน ส่วน อาร์เซนอล เก็บเพิ่มเป็น 60 คะแนน หลังบุกไปคว่ำ แมนเชสเตอร์ ซิตี 3-1 แซงขึ้นไปรั้งจ่าฝูงได้อีกครั้ง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ – ราเด็ค แชร์นี, อลัน ฮัตตัน, ไมเคิล ดอว์สัน, โจนาธาน วูดเกต, ปาสกาล ชิมบงดา, อารอน เลนนอน, เจอร์เมน จีนาส, ทอม ฮัดเดิลสตัน, สตีด มัลบรองก์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ร็อบบี คีน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, คริสเตียโน โรนัลโด, โอเวน ฮาร์กรีฟส์, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนีย์, คาร์ลอส เตเบซ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ซิตี แพ้ อาร์เซนอล 1-3 (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 0-1 นาที 9), (เอดูอาร์โด ดา ซิลวา 0-2 นาที 26), (แกลซง แฟร์นองเดส 1-2 นาที 28), (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 1-3 นาที 88)
เบอร์มิงแฮม ซิตี เสมอ ดาร์บี เคาน์ตี 1-1 (เซบาสเตียน ลาร์สสัน 1-0 นาที 68), (เอ็มมานูเอล บีญา 1-1 นาที 89)
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0
ปอร์ทสมัธ เสมอ เชลซี 1-1 (นิโกลาส์ อเนลกา 0-1 นาที 55), (เจอร์เมน เดโฟ 1-1 นาที 64)
เรดดิง แพ้ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-2 (เควิน โนแลน 0-1 นาที 33)
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 1-0 นาที 20), (คาร์ลอส เตเบซ 1-1 นาที 90)
วีแกน แอธเลติก ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-0 (เควิน คิลบาน 1-0 นาที 45)
ลิเวอร์พูล ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0 (ปีเตอร์ เคราช์ 1-0 นาที 57), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 2-0 นาที 69), (สตีเวน เจอร์ราร์ด 3-0 จุดโทษ นาที 89)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2551
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1 – 1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ที่สนามไวท์ ฮาร์ท เลน ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ลงเล่นในบ้านของตัวเองพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยทั้งคู่เพิ่งพบกันมาในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อสัปดาห์ก่อน นัดนี้ ฮวนเด รามอส จัดการส่ง อลัน ฮัตตัน แบ็กขวาตัวใหม่ลงประเดิมสนามทันที พร้อมโยก ปาสกาล ชิมบงดา ไปเล่นแบ็กซ้าย ขณะที่ โจนาธาน วูดเกต ก็ได้ลงคุมแนวรับเช่นกัน
ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จัดทีมชุดใหญ่มาแบบเต็มอัตราศึกโดยที่ พอล สโคลส์ เรียกความฟิตกลับมาลงสนามเป็น 11 คนแรกได้อีกครั้งโดยปั้นเกมร่วมกับ โอเวน ฮาร์กรีฟส์ ขณะที่ คริสเตียโน โรนัลโด, เวย์น รูนีย์ และ คาร์ลอส เตเบซ ยังเป็นอาวุธหนักในแนวรุกเช่นเคย
เพียงแค่ 7 นาทีแรกหลังเขี่ยลูกเริ่มเล่น ปิศาจแดงก็มีโอกาสก่อนจากความสับสนในเกมรับของไก่เดือยทอง ซึ่ง ชิมบงดา กับ สตีด มัลบรองก์ เกี่ยงกันเข้าบอลหน้าเขตโทษตัวเองจนถูก เวส บราวน์ โฉบเข้ามาเก็บตก แต่ลูกยิงด้วยซ้ายของแบ็กขวาทีมเยือนโด่งข้ามคานออกไป
อย่างไรก็ตาม สเปอร์ส ที่อาศัยเกมสวนกลับในช่วงแรกเล่นงานทีมเยือนก็มาได้ประตูออกนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 20 จากจังหวะที่ อารอน เลนนอน ได้บอลกระชากไปถึงสุดเส้นหลังด้านขวาแล้วตบเข้ามาตรงกลาง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ทุบออกมาไปเข้าทาง เบอร์บาตอฟ ที่จัดการยิงซ้ำเข้าไปแบบง่ายๆ
หลังจากนั้น เกมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดูจะช็อตไปดื้อๆ ขณะที่ไก่เดือยทองยิ่งเล่นยิ่งได้ใจ นาทีที่ 36 เลนนอน อาศัยความเร็วพาบอลขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนตักให้ เบอร์บาตอฟ วอลเลย์ด้วยขวาแถวจุดโทษ ทว่าซัดโดนใต้บอลจึงโด่งข้ามคานออกไปไกล
นาทีที่ 43 ปาทริซ เอฟรา เติมเกมขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนถูก เลนนอน เบียดล้มลงไป แต่ผู้ตัดสิน มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก ไม่ว่าอะไรปล่อยให้เป็นลูกเตะมุมของทีมเยือน ก่อนที่จะจบครึ่งแรกโดย สเปอร์ส เป็นฝ่ายตรึงสกอร์นำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 56 แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เปิดเกมแลกมากขึ้นก็มีโอกาสจากลูกเตะมุมทางด้านซ้ายที่ล้นไปถึงเสาสอง รูนีย์ เก็บบอลได้ก่อนหยอดมาให้ เนมานยา วิดิช เทกตัวเหนือ ไมเคิล ดอว์สัน แต่โหม่งหลุดกรอบออกหลัง ขณะที่ โรนัลโด้ เรียกร้องเอาจุดโทษหลังโดน วู้ดเกต เบียดล้มลง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปิศาจแดงก็เกือบเสียประตูเพิ่มในจังหวะถัดมาโดย เบอร์บาตอฟ ครองบอลดึงผู้เล่นทีมเยือนแล้วจ่ายแบบคมกริบให้ ร็อบบี คีน หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ ฟาน เดอร์ ซาร์ ทว่ากลับยิงไม่คมพอซัดไปเข้าซองนายทวารชาวดัตช์อย่างน่าเขกกะโหลก
ผ่านมาถึงนาทีที่ 76 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โอกาสใกล้เคียงจากจังหวะที่ อันแดร์สัน มิดฟิลด์บราซิเลียนที่ลงมาเป็นตัวสำรองลากบอลเข้ากลางแล้วสับไกเต็มข้อจากนอกกรอบ เดือดร้อน ราเด็ค แชร์นี ที่ต้องล้มตัวปัดออกหลังไปแบบหวุดหวิด ก่อนที่ นานี่ ตัวสำรองอีกรายจะได้ยิงอีก 2 ครั้งในนาทีที่ 80 แต่ก็ไม่ผ่านมือ แชร์นี
นาทีที่ 84 รูนีย์ พาบอลตีคู่กับ ดอว์สัน เข้าเขตโทษก่อนจะล้มลงไป ผู้ตัดสิน มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก จึงควักใบเหลืองแจกดาวยิงร่างอวบ ซึ่งทำให้อดลงเล่นในเกมดาร์บีแมตช์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี สัปดาห์หน้าด้วย เนื่องจากสะสมใบเหลืองครบ 5 ใบ ทว่านาทีสุดท้ายของการทดเวลาบาดเจ็บ แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 อย่างเหลือเชื่อจากการเข้าชาร์ตลูกเตะมุมจากด้านขวาของ คาร์ลอส เตเบซ ก่อนจบเกมไปด้วยสกอร์นี้
อย่างไรก็ตาม ผลเสมอนัดนี้ทำให้ปิศาจแดงหล่นมาอยู่ที่ 2 มีอยู่ 58 คะแนน ส่วน อาร์เซนอล เก็บเพิ่มเป็น 60 คะแนน หลังบุกไปคว่ำ แมนเชสเตอร์ ซิตี 3-1 แซงขึ้นไปรั้งจ่าฝูงได้อีกครั้ง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ – ราเด็ค แชร์นี, อลัน ฮัตตัน, ไมเคิล ดอว์สัน, โจนาธาน วูดเกต, ปาสกาล ชิมบงดา, อารอน เลนนอน, เจอร์เมน จีนาส, ทอม ฮัดเดิลสตัน, สตีด มัลบรองก์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ, ร็อบบี คีน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานยา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, คริสเตียโน โรนัลโด, โอเวน ฮาร์กรีฟส์, พอล สโคลส์, ไรอัน กิ๊กส์, เวย์น รูนีย์, คาร์ลอส เตเบซ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แมนเชสเตอร์ ซิตี แพ้ อาร์เซนอล 1-3 (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 0-1 นาที 9), (เอดูอาร์โด ดา ซิลวา 0-2 นาที 26), (แกลซง แฟร์นองเดส 1-2 นาที 28), (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 1-3 นาที 88)
เบอร์มิงแฮม ซิตี เสมอ ดาร์บี เคาน์ตี 1-1 (เซบาสเตียน ลาร์สสัน 1-0 นาที 68), (เอ็มมานูเอล บีญา 1-1 นาที 89)
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0
ปอร์ทสมัธ เสมอ เชลซี 1-1 (นิโกลาส์ อเนลกา 0-1 นาที 55), (เจอร์เมน เดโฟ 1-1 นาที 64)
เรดดิง แพ้ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 0-2 (เควิน โนแลน 0-1 นาที 33)
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เสมอ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 (ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ 1-0 นาที 20), (คาร์ลอส เตเบซ 1-1 นาที 90)
วีแกน แอธเลติก ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-0 (เควิน คิลบาน 1-0 นาที 45)
ลิเวอร์พูล ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-0 (ปีเตอร์ เคราช์ 1-0 นาที 57), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 2-0 นาที 69), (สตีเวน เจอร์ราร์ด 3-0 จุดโทษ นาที 89)
