xs
xsm
sm
md
lg

ลูกโลก 10 คนฮึดตี 2-2 ปืนช้ำเซ่น "ดูดู้" ขาหัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เบอร์มิงแฮม ซิตี้ โชว์สปิริตไล่ตามตีเสมอ อาร์เซนอล 2-2 ได้สำเร็จจากลูกจุดโทษของ เจมส์ แม็คฟาดเด้น ที่เหมาคนเดียว 2 ลูกในเกมนี้ ทั้งที่เหลือผู้เล่นแค่ 10 คนตั้งแต่ นาทีที่ 3 ขณะที่ปืนใหญ่สุดชอกช้ำ นอกจากจะชวดเก็บ 3 แต้มแล้วยังต้องสังเวย เอดูอาร์โด ดา ซิลวา ที่ขาหักอีกด้วย

ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2551
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 2 – 2 อาร์เซนอล


ที่สนามเซนต์ แอนดรูว์ส เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ลงเล่นในบ้านตัวเองปะทะกับ อาร์เซนอล ทีมจ่าฝูง นัดนี้ อเล็กซ์ แม็คลีช ใช้ เจมส์ แม็คฟาดเด้น ตัวรุกชาวสกอตแลนด์จับคู่กับ มิคาเอล ฟอร์สเซลล์ ในแดนหน้า ขณะที่ทีมเยือนได้ มานูเอล อัลมูเนีย กลับมาประจำการที่เส้นประตูอีกครั้ง เยนส์ เลห์มันน์ จึงกลับไปนั่งสำรองตามเดิม ส่วนคู่หัวหอกยังใช้บริการของ เอดูอาร์โด ดา ซิลวา กับ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที บรัมมี่ ต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนอย่างรวดเร็ว เมื่อ มาร์ติน เทย์เลอร์ เซนเตอร์ฮาล์ฟร่างยักษ์ไปเสียบใส่ เอดูอาร์โด อย่างรุนแรง ผู้ตัดสิน ไมค์ ดีน ตัดสินใจชูใบแดงไล่ออกจากสนามอย่างไม่ลังเล ขณะที่หัวหอกโครแอตอาการน่าเป็นห่วง เนื่องจากขาหัก ทำให้ อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องส่ง นิคลาส เบนด์ทเนอร์ ลงมาเล่นแทนทันที

หลังจากมีตัวมากกว่า ปืนใหญ่ก็เดินหน้าโหมบุกหนัก นาทีที่ 18 กาแอล กลิชี่ ตัดบอลได้จากตรงกลางสนามก่อนจ่ายต่อให้ เชส ฟาเบรกาส หาจังหวะส่องไกลแต่ก็เหินข้ามคานออกไป กระทั่งนาทีที่ 27 เบอร์มิงแฮม ที่เหลือ 10 คนกลับเป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ แม็คฟาดเด้น พาบอลเข้าไปถูก มาติเยอ ฟลามินี่ ดักล้มลงหน้าเขตโทษ ก่อนที่ แม็คฟาดเด้น จะฉวยโอกาสยิงฟรีคิกเร็วส่งบอลโค้งข้ามกำแพงหนีมือ อัลมูเนีย เสียบตาข่าย

เดอะ กันเนอร์ส เร่งจังหวะมากขึ้นหวังทวงประตูคืนให้ได้โดยเร็ว นาทีที่ 40 ฟาเบรกาส วางบอลยาวให้ อเดบายอร์ อาศัยความเร็วฉีกหนีกองหลังเข้าไปกระดกข้ามหัว ไมค์ เทย์เลอร์ แต่ให้น้ำหนักมากเกินไปจึงลอยโด่งออกหลัง 3 นาทีต่อมา อเดบายอร์ เจ้าเก่าก็ได้โขกลูกโยนของ กลิชี่ แต่ก็สะบัดออกข้างเสาไปเอง

เจ้าบ้านที่ตั้งรับอย่างอดทนหาโอกาสจากลูกฉาบฉวยจนเกือบได้ผลในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 6 เมื่อ เซบาสเตียน ลาร์สสัน วางยาวจากหลังขึ้นไปข้างหน้า บอลไปถึง แม็คฟาดเด้น ได้ควบเข้าไปดวลกับ อัลมูเนีย ตัวต่อตัว แต่ เซนเดอรอส ตามมาเบียดในจังหวะง้างเท้า ดาวเตะวิสกี้จึงยิงออกไปเอง หมดครึ่งแรก เบอร์มิงแฮม ยังนำ อาร์เซนอล อยู่ 1-0

กลับเข้าสู่ครึ่งหลัง อาร์เซนอล ยังคงพับสนามบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 48 ฟาเบรกาส ลองซัดจากนอกกรอบเขตโทษถูก ไมค์ เทย์เลอร์ ปัดออกหลังไปได้ ก่อนที่ อเล็กซานเดอร์ คเล็บ จะได้ซัดบ้าง ทว่า เทย์เลอร์ ก็ยังปัดข้ามคานได้อีก อย่างไรก็ตาม ปืนใหญ่ก็มาตีเสมอเป็น 1-1 ได้ในจังหวะถัดมา เมื่อ ฟาเบรกาส เปิดลูกเตะมุมมาตรงกลาง เทย์เลอร์ ออกไปหวังจะตัดบอลกลางอากาศ แต่ไปกระแทกกับ อเดบายอร์ ที่ขึ้นโหม่งพอดี บอลจึงไปตกใส่ วัลค็อตต์ ดีดตามน้ำเผาขนไม่มีเหลือ

ถึงนาทีที่ 55 อาร์เซนอล ที่บุกเข้าใส่เป็นพายุก็มาแซงขึ้นนำ 2-1 จนได้ เมื่อ เลียม ริดจ์เวลล์ จับบอลพลาดเปิดโอกาสให้ วัลค็อตต์ ฉกบอลไปได้ก่อนที่กองหน้า วัย 18 ปีจะลากเข้าไปซัดแถวเส้นเขตโทษด้วยซ้าย บอลหนีมือ ไมค์ เทย์เลอร์ เสียบเสาแรกอย่างเฉียบขาด

หลังจากนั้น เดอะ กันเนอร์ส ก็เป็นฝ่ายคุมเกมเอาไว้ได้ทั้งหมด นาทีที่ 77 อเดบายอร์ ได้โอกาสหลุดเดี่ยวเข้าดวล ไมค์ เทย์เลอร์ ในเขตโทษด้านซ้ายโดยที่ เบนด์ทเนอร์ วิ่งทำทางมาตรงกลาง แต่ดาวยิงโตโกตัดสินใจซัดเองจึงถูก เทย์เลอร์ ล้มตัวปัดด้วยปลายมือออกหลัง จากนั้น ฟลามินี่ ก็ได้เข่นบ้างใน 3 นาทีต่อมา แต่ก็เข้าซองของ เทย์เลอร์

กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีสุดท้าย เบอร์มิงแฮม ที่ต้านทานไว้ได้ตลอดก็มาได้ลูกจุดโทษ เมื่อ สจ๊วร์ต พาร์นาบี้ ถูก กลิชี่ ดักล้มลงในเขตโทษ ก่อนที่ แม็คฟาดเด้น จะรับอาสาสังหารเข้าไปอย่างเฉียบขาด จบเกม เบอร์มิงแฮม เสมอ อาร์เซนอล อย่างพลิกความคาดหมาย 2-2

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เบอร์มิงแฮม ซิตี้
– ไมค์ เทย์เลอร์, สตีเฟ่น เคลลี่, มาร์ติน เทย์เลอร์, เลียม ริดจ์เวลล์, เดวิด เมอร์ฟี่, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, เดเมียน จอห์นสัน, ฟาบริซ มูอัมบ้า, โอลิวิเยร์ กาโป, เจมส์ แม็คฟาดเด้น, มิคาเอล ฟอร์สเซลล์

อาร์เซนอล – มานูเอล อัลมูเนีย, บาการี่ ซาญ่า, วิลเลียม กัลลาส, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, กาแอล กลิชี่, ธีโอ วัลค็อตต์, เชส ฟาเบรกาส, มาติเยอ ฟลามินี่, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ, เอดูอาร์โด ดา ซิลวา, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ เสมอ อาร์เซนอล 2-2
(เจมส์ แม็คฟาดเด้น 1-0 นาที 27), (ธีโอ วัลค็อตต์ 1-1 นาที 49), (ธีโอ วัลค็อตต์ 1-2 นาที 55), (เจมส์ แม็คฟาดเด้น 2-2 นาที 90)

ฟูแล่ม แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-1 (โนลเบอร์โต้ โซลาโน่ 0-1 นาที 87)

ลิเวอร์พูล ชนะ มิดเดิลสโบรช์ 3-2 (ตุนกาย ซานลี่ 0-1 นาที 9), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 1-1 นาที 28), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 2-1 นาที 29), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 3-1 นาที 61), (สจ๊วร์ต ดาวนิง 3-2 นาที 83)

ปอร์ทสมัธ ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 (เจอร์เมน เดโฟ 1-0 จุดโทษ นาที 69)

วีแกน แอธเลติก ชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 2-0 (พอล ชาร์เนอร์ 1-0 นาที 60), (อันโตนิโอ วาเลนเซีย 2-0 นาที 84)

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-5 (เวย์น รูนีย์ 0-1 นาที 25), (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 0-2 นาที 45), (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 0-3 นาที 56), (อับดูลาย ฟาย 1-3 นาที 78), (เวย์น รูนีย์ 1-4 นาที 80), (หลุยส์ ซาฮา 1-5 นาที 90)
กำลังโหลดความคิดเห็น