“คนเหล็ก” พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส บุกถล่ม “อินเดียนแดง” วอชิงตัน เรดสกินส์ 23-6 คะแนน ในศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เกมมันเดย์ไนท์ ส่งสัญญาณกลายๆ ว่า บารัค โอบามา จะได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 44
ที่วอชิงตัน : แม้ เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ จอมทัพ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ได้รับบาดเจ็บ แต่ “คนเหล็ก” ยังโชว์เกมรับสุดเขี้ยวเล่นงาน วอชิงตัน เรดสกินส์ ถึงถิ่น แต่ประเด็นน่าสนใจกว่านั้นคือ คู่นี้เสมือนการทำนายหาผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ที่จะมีการเลือกตั้งกันในวันอังคารนี้ตามวัน-เวลาท้องถิ่น
โดยเกมนี้ เรดสกินส์ ออกนำไปก่อน 6-0 จากสองฟิลด์โกลของ ชอว์น สวิแชม แต่ทีมบุกของเจ้าบ้านประสบปัญหาอย่างหนัก เมื่อเจอเกมรับระดับหัวแถวของ สตีลเลอร์ส ไล่แซ็ค เจสัน แคมป์เบลล์ ถึง 7 หน บีบจน ควอเตอร์แบ็ก “อินเดียนแดง” ซึ่งยังไม่โดนอินเทอร์เซปต์ในฤดูกาลนี้ ขว้างพลาดเข้ามือคู่แข่งถึงสองหน อีกทั้งยังหยุดยั้งให้ คลินตัน พอร์ติส ได้ระยะแค่ 51 หลา ทั้งที่ฟอร์มหรูมาตลอด 5 เกมหลังสุด
ในส่วนของ “คนเหล็ก” พลิกกลับมานำ 10-6 เมื่อจบครึ่งแรก จากการสนีคเข้าเอ็นด์โซนระยะ 1 หลา แต่ก็แลกมาซึ่งอาการบาดเจ็บหัวไหล่ซ้ำของ “บิ๊กเบน” โรธลิสเบอร์เกอร์ จอมทัพร่างใหญ่ อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลัง วิลลี พาร์เกอร์ ตัววิ่งคนสำคัญที่สลัดอาการเจ็บกลับมาทะลวง 1 หลาให้ทีมเยือนทิ้งห่าง 16-6 ก่อนที่ บายรอน เลฟท์วิช ควอเตอร์แบ็กสำรองที่เป็นชาวดี.ซี.แท้ๆ ลงมาขว้างทัชดาวน์ปิดกล่องให้ ซานอันโตนิโอ โฮล์มส ปีกนอกที่พ้นโทษแบนพกสารเสพติดประเภทกัญชาไว้ในรถ
จากชัยชนะเกมนี้ส่งให้ สตีลเลอร์ส เพิ่มสถิติเป็นชนะ 6 แพ้ 2 เกม ยังยืนหยัดเป็นจ่าฝูงกลุ่มเอเอฟซี (AFC) เหนือ ต่อไป โดยมี บัลติมอร์ เรฟเวนส์ (5-3 เกม) คอยหายใจรดต้นคอ ขณะที่ เรดสกินส์ สถิติตกเหลือ 6-3 เกม โดน “ยักษ์ใหญ่” นิวยอร์ก ไจแอนท์ส แชมป์เก่า (7-1 เกม) ทิ้งห่างไปในกลุ่มเอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันออก
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่คอกีฬาอเมริกันชนให้ความสนใจนอกจากศึกมันเดย์ไนท์ คือ การเสี่ยงทายหาประธานาธิบดีคนใหม่ที่จะเข้าไปทำหน้าที่ในทำเนียบขาวแทน จอร์จ ดับเบิลยู บุช โดย 17 ครั้งหลังสุดจากการลงสนามเกมสุดท้ายที่บ้านของ เรดสกินส์ ปรากฏว่าหากเจ้าถิ่นมีชัย พรรคเดิมจะรักษาเก้าอี้ตำแหน่งผู้นำประเทศไว้ได้ แต่ถ้า “อินเดียนแดง” ปราชัยนั่นหมายความว่าพรรคคู่แข่งจะขึ้นมากุมอำนาจบริหารแทน
นั่นก็หมายความกลายๆ ว่าครั้งนี้ โอบามา ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต วัย 47 ปี มีโอกาสชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีมาจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งส่งทาง จอห์น แม็คเคน วัย 72 ปี ขึ้นมาลุ้นสานงานต่อจาก บุช โดยในวันที่ 4 พฤศจิกายน ตามวัน-เวลาท้องถิ่น คงได้รู้กันว่าคำทำนายดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริงอีกครั้งหรือไม่
ที่วอชิงตัน : แม้ เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ จอมทัพ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ได้รับบาดเจ็บ แต่ “คนเหล็ก” ยังโชว์เกมรับสุดเขี้ยวเล่นงาน วอชิงตัน เรดสกินส์ ถึงถิ่น แต่ประเด็นน่าสนใจกว่านั้นคือ คู่นี้เสมือนการทำนายหาผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ที่จะมีการเลือกตั้งกันในวันอังคารนี้ตามวัน-เวลาท้องถิ่น
โดยเกมนี้ เรดสกินส์ ออกนำไปก่อน 6-0 จากสองฟิลด์โกลของ ชอว์น สวิแชม แต่ทีมบุกของเจ้าบ้านประสบปัญหาอย่างหนัก เมื่อเจอเกมรับระดับหัวแถวของ สตีลเลอร์ส ไล่แซ็ค เจสัน แคมป์เบลล์ ถึง 7 หน บีบจน ควอเตอร์แบ็ก “อินเดียนแดง” ซึ่งยังไม่โดนอินเทอร์เซปต์ในฤดูกาลนี้ ขว้างพลาดเข้ามือคู่แข่งถึงสองหน อีกทั้งยังหยุดยั้งให้ คลินตัน พอร์ติส ได้ระยะแค่ 51 หลา ทั้งที่ฟอร์มหรูมาตลอด 5 เกมหลังสุด
ในส่วนของ “คนเหล็ก” พลิกกลับมานำ 10-6 เมื่อจบครึ่งแรก จากการสนีคเข้าเอ็นด์โซนระยะ 1 หลา แต่ก็แลกมาซึ่งอาการบาดเจ็บหัวไหล่ซ้ำของ “บิ๊กเบน” โรธลิสเบอร์เกอร์ จอมทัพร่างใหญ่ อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลัง วิลลี พาร์เกอร์ ตัววิ่งคนสำคัญที่สลัดอาการเจ็บกลับมาทะลวง 1 หลาให้ทีมเยือนทิ้งห่าง 16-6 ก่อนที่ บายรอน เลฟท์วิช ควอเตอร์แบ็กสำรองที่เป็นชาวดี.ซี.แท้ๆ ลงมาขว้างทัชดาวน์ปิดกล่องให้ ซานอันโตนิโอ โฮล์มส ปีกนอกที่พ้นโทษแบนพกสารเสพติดประเภทกัญชาไว้ในรถ
จากชัยชนะเกมนี้ส่งให้ สตีลเลอร์ส เพิ่มสถิติเป็นชนะ 6 แพ้ 2 เกม ยังยืนหยัดเป็นจ่าฝูงกลุ่มเอเอฟซี (AFC) เหนือ ต่อไป โดยมี บัลติมอร์ เรฟเวนส์ (5-3 เกม) คอยหายใจรดต้นคอ ขณะที่ เรดสกินส์ สถิติตกเหลือ 6-3 เกม โดน “ยักษ์ใหญ่” นิวยอร์ก ไจแอนท์ส แชมป์เก่า (7-1 เกม) ทิ้งห่างไปในกลุ่มเอ็นเอฟซี (NFC) ตะวันออก
อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่คอกีฬาอเมริกันชนให้ความสนใจนอกจากศึกมันเดย์ไนท์ คือ การเสี่ยงทายหาประธานาธิบดีคนใหม่ที่จะเข้าไปทำหน้าที่ในทำเนียบขาวแทน จอร์จ ดับเบิลยู บุช โดย 17 ครั้งหลังสุดจากการลงสนามเกมสุดท้ายที่บ้านของ เรดสกินส์ ปรากฏว่าหากเจ้าถิ่นมีชัย พรรคเดิมจะรักษาเก้าอี้ตำแหน่งผู้นำประเทศไว้ได้ แต่ถ้า “อินเดียนแดง” ปราชัยนั่นหมายความว่าพรรคคู่แข่งจะขึ้นมากุมอำนาจบริหารแทน
นั่นก็หมายความกลายๆ ว่าครั้งนี้ โอบามา ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต วัย 47 ปี มีโอกาสชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีมาจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งส่งทาง จอห์น แม็คเคน วัย 72 ปี ขึ้นมาลุ้นสานงานต่อจาก บุช โดยในวันที่ 4 พฤศจิกายน ตามวัน-เวลาท้องถิ่น คงได้รู้กันว่าคำทำนายดังกล่าวจะเกิดขึ้นจริงอีกครั้งหรือไม่
