คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
รูดม่านกันไปสำหรับฤดูกาลใหม่ของศึกยัดห่วงถล่มโลก เอ็นบีเอ (NBA) ผ่านมาได้สัก 4-5 เกม กระผมยังไม่มีโอกาสรับชมการถ่ายทอดสดแม้แต่เกมเดียว ทว่าหลายทีมก็ออกตัวได้ดีตามคาดทั้ง “เต็งแชมป์” แอลเอ เลเกอร์ส หรือม้ามืดอย่าง “แตนอาละวาด” นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์ รวมถึง ดีทรอยต์ พิสตันส์ ทีมเขี้ยวลากดินประจำฝั่งตะวันออกที่วันนี้มีเรื่องราวให้ได้พูดคุยกัน
พอดีช่วงนี้ในสหรัฐอเมริกา คงไม่มีประเด็นอะไรร้อนแรงไปกว่าการคัดสรรผู้นำประเทศคนใหม่ที่จะเข้ามาสานงานต่อจาก จอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่ถึงคราวหมดวาระไป ณ วันนี้ (พฤหัสบดี) ตรงกับต้นฉบับออกพอดี หลายคนคงได้ทราบกันแล้วว่า บารัค โอบามา ได้เป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์ตามโพลหลายสำนักที่ออกมาหรือไม่ หรือเป็น จอห์น แม็คเคน นำพรรครีพับลิกันเข้าไปชูธงในทำเนียบขาว 3 สมัยติดต่อกัน
พอดีผมไปอ่านเจอเกร็ดสะกิดใจจากเกมมันเดย์ไนท์ของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่ วอชิงตัน เรดสกินส์ โดนฤทธิ์ทีมรับแกร่งสมชื่อของ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เล่นงานจนบ้อท่าคาเฟดเอ็กซ์ ฟิลด์ 6-23 นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า โอบามา จะพาเดโมแครตกลับมาประกาศศักดาอีกครั้งหลังปล่อยให้ บุช ปู้ยี้ปู้ยำประเทศอยู่สองสมัยซ้อน หลายคนอาจสงสัย อเมริกัน ฟุตบอล ไปเกี่ยวอะไรกับการเลือกตั้ง ? เรื่องนี้มีคำตอบ
เป็นที่ทราบกันดีว่า “อเมริกันเกมส์” เป็นเกมกีฬาที่สะสมสถิติต่างๆ ไว้มากมาย แทบไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่า เรดสกินส์ ไปมีส่วนร่วมในการหาประธานาธิบดีได้ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเมื่อ 17 ครั้งหลังที่ “อินเดียนแดง” เล่นในบ้านก่อนช่วงเลือกตั้ง ถ้าพวกเขาชนะพรรคที่ครองอำนาจเดิมจะยึดทำเนียบขาวไว้ได้ต่อไป แต่ถ้าแพ้อำนาจก็จะเปลี่ยนมือ ล่าสุดผลออกมาเป็น เรดสกินส์ เสียท่าให้ สตีลเลอร์ส ท่าทางอาถรรพ์จะแรงจริง
วกกลับมาสู่เรื่องที่จะคุยกันวันนี้ดีกว่า ฤดูกาลใหม่ NBA เปิดฉาก “แชมป์เก่า” บอสตัน เซลติกส์ ไม่ถึงกับหวือหวาพลาดท่าไปแล้วหนึ่งเกม เป็นการพลิกเสียที อินเดียนา เพเซอร์ส “บิ๊กทรี” เควิน การ์เนตต์, พอล เพียร์ซ และ เรย์ อัลเลน ต้องจูนเครื่องให้เร็วหน่อย เนื่องจาก เจมส์ โพซีย์ พกพาทีเด็ดโยกไปอยู่กับ นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์ อีกทั้งคู่แข่งร่วมฝั่งตะวันออกเริ่มเสริมทัพสู้กันแล้ว
โดย ดีทรอยต์ พิสตันส์ เรียกเสียงฮือฮาในตลาดการเทรดตัวผู้เล่น เมื่อ โจ ดูมาร์ส ประธานฝ่ายจัดการด้านบาสเกตบอล ไม่อยากเห็นเฟรนไชส์ที่เข้าชิงคอนเฟอเรนซ์ 6 สมัยติดต่อกัน ได้มาแค่แชมป์เดียวในปี 2004 ดังนั้นจึงเลือกส่งแพ็คเกต ชอนซีย์ บิลล์อัพส์, อันโตนิโอ แม็คไดรสส์ รวมถึง ชีคห์ แซมบ์ ไปให้ เดนเวอร์ นักเกตส์ เพื่อแลกกับ อัลเลน ไอเวอร์สัน
แม้อายุอานามขึ้นหลัก 33 ปี แต่อดีตราชาการทำแต้มของ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส อย่าง ไอเวอร์สัน ถือว่ามีเขี้ยวเล็บอยู่ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม นักเกตส์ เลือกทิ้งซูเปอร์สตาร์ออกมา ผมเชื่อว่า มาร์ค วอร์เคนทีน ผู้จัดการทั่วไป รวมถึง จอร์จ คาร์ล หัวหน้าโค้ชคงคิดดีแล้ว เพราะว่าคอมโบเซต ไอเวอร์สัน กับ คาร์เมโล แอนโธนีย์ ออกมาไม่สวยดั่งที่คิดไว้ตอนแรก สู้ลองเสี่ยงดึง บิลล์อัพส์ การ์ดประสบการณ์สูงมาจ่ายบอลสวยๆ ให้ “เมโลแมน” หรือว่า เคนยอน มาร์ติน ทำคะแนนจะดีกว่า
ทาง พิสตันส์ การมาของ “The Answer” เฮคโค้ช ไมเคิล เคอร์รี คงต้องปรับจังหวะเกมให้เร็วขึ้น “เอ.ไอ.” น่าจะมีบทบาทในการเปิดช่องทะลุทะลวงคู่แข่งได้ดีตามที่ ดูมาร์ส คาดหวัง ส่วนการขาดหายไปของ บิลล์อัพส์ ไม่ใช่ปัญหา ไอเวอร์สัน คุมบอลได้อยู่แล้ว ทั้งยังปั้น ร็อดนีย์ สตัคกี ขึ้นมาทดแทนได้พักใหญ่แล้วด้วย
แต่เหตุผลสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในการเทรดครั้งนี้ สื่อมะกันเชื่อว่า พิสตันส์ ไม่ได้มองแค่ความสำเร็จในฤดูกาลนี้เฉกเช่นหลายๆ ทีมที่เริ่มเคลียร์ “เพดานเงินเดือน” กันแล้ว อาทิเช่น นิวเจอร์ซีย์ เนตส์ หรือว่า เพเซอร์ส การเหลือสัญญาแค่ปีเดียวของ ไอเวอร์สัน ค่าจ้างระดับ 20.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ช่วยให้ พิสตันส์ มีเพดานเงินเดือนเหลือเฟือสำหรับลุ้นซูเปอร์สตาร์ในปี 2009 อย่าง คาร์ลอส บูเซอร์, เจอร์เมน โอนีล หรือว่า แอล แฮร์ริงตัน
หรือถ้าเลือกเมินเฉยตลาดฟรีเอเย่นต์สักหนึ่งปี หลังจบฤดูกาล 2009/10 พิสตันส์ อาจติดปีกผงาดขึ้นมาทวงคืนความยิ่งใหญ่จากเหล่ามหาหินทางฝั่งตะวันตก เพราะถึงคราวนั้นมีโอกาสสูงทีเดียวที่ดาวเด่นอย่าง เลอบรอน เจมส์, ดีเวย์น เหว็ด หรือแม้แต่ คริส บอช จะหลุดมาอยู่ในมือ ซึ่งถ้าได้จิ๊กซอว์สำคัญเหล่านี้มาเติมแต่งจริงแฟนๆ ในมิชิแกนคงคึกคักไม่หยอก
รูดม่านกันไปสำหรับฤดูกาลใหม่ของศึกยัดห่วงถล่มโลก เอ็นบีเอ (NBA) ผ่านมาได้สัก 4-5 เกม กระผมยังไม่มีโอกาสรับชมการถ่ายทอดสดแม้แต่เกมเดียว ทว่าหลายทีมก็ออกตัวได้ดีตามคาดทั้ง “เต็งแชมป์” แอลเอ เลเกอร์ส หรือม้ามืดอย่าง “แตนอาละวาด” นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์ รวมถึง ดีทรอยต์ พิสตันส์ ทีมเขี้ยวลากดินประจำฝั่งตะวันออกที่วันนี้มีเรื่องราวให้ได้พูดคุยกัน
พอดีช่วงนี้ในสหรัฐอเมริกา คงไม่มีประเด็นอะไรร้อนแรงไปกว่าการคัดสรรผู้นำประเทศคนใหม่ที่จะเข้ามาสานงานต่อจาก จอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่ถึงคราวหมดวาระไป ณ วันนี้ (พฤหัสบดี) ตรงกับต้นฉบับออกพอดี หลายคนคงได้ทราบกันแล้วว่า บารัค โอบามา ได้เป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์ตามโพลหลายสำนักที่ออกมาหรือไม่ หรือเป็น จอห์น แม็คเคน นำพรรครีพับลิกันเข้าไปชูธงในทำเนียบขาว 3 สมัยติดต่อกัน
พอดีผมไปอ่านเจอเกร็ดสะกิดใจจากเกมมันเดย์ไนท์ของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่ วอชิงตัน เรดสกินส์ โดนฤทธิ์ทีมรับแกร่งสมชื่อของ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เล่นงานจนบ้อท่าคาเฟดเอ็กซ์ ฟิลด์ 6-23 นั่นเป็นสัญญาณบ่งบอกว่า โอบามา จะพาเดโมแครตกลับมาประกาศศักดาอีกครั้งหลังปล่อยให้ บุช ปู้ยี้ปู้ยำประเทศอยู่สองสมัยซ้อน หลายคนอาจสงสัย อเมริกัน ฟุตบอล ไปเกี่ยวอะไรกับการเลือกตั้ง ? เรื่องนี้มีคำตอบ
เป็นที่ทราบกันดีว่า “อเมริกันเกมส์” เป็นเกมกีฬาที่สะสมสถิติต่างๆ ไว้มากมาย แทบไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่า เรดสกินส์ ไปมีส่วนร่วมในการหาประธานาธิบดีได้ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเมื่อ 17 ครั้งหลังที่ “อินเดียนแดง” เล่นในบ้านก่อนช่วงเลือกตั้ง ถ้าพวกเขาชนะพรรคที่ครองอำนาจเดิมจะยึดทำเนียบขาวไว้ได้ต่อไป แต่ถ้าแพ้อำนาจก็จะเปลี่ยนมือ ล่าสุดผลออกมาเป็น เรดสกินส์ เสียท่าให้ สตีลเลอร์ส ท่าทางอาถรรพ์จะแรงจริง
วกกลับมาสู่เรื่องที่จะคุยกันวันนี้ดีกว่า ฤดูกาลใหม่ NBA เปิดฉาก “แชมป์เก่า” บอสตัน เซลติกส์ ไม่ถึงกับหวือหวาพลาดท่าไปแล้วหนึ่งเกม เป็นการพลิกเสียที อินเดียนา เพเซอร์ส “บิ๊กทรี” เควิน การ์เนตต์, พอล เพียร์ซ และ เรย์ อัลเลน ต้องจูนเครื่องให้เร็วหน่อย เนื่องจาก เจมส์ โพซีย์ พกพาทีเด็ดโยกไปอยู่กับ นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์ อีกทั้งคู่แข่งร่วมฝั่งตะวันออกเริ่มเสริมทัพสู้กันแล้ว
โดย ดีทรอยต์ พิสตันส์ เรียกเสียงฮือฮาในตลาดการเทรดตัวผู้เล่น เมื่อ โจ ดูมาร์ส ประธานฝ่ายจัดการด้านบาสเกตบอล ไม่อยากเห็นเฟรนไชส์ที่เข้าชิงคอนเฟอเรนซ์ 6 สมัยติดต่อกัน ได้มาแค่แชมป์เดียวในปี 2004 ดังนั้นจึงเลือกส่งแพ็คเกต ชอนซีย์ บิลล์อัพส์, อันโตนิโอ แม็คไดรสส์ รวมถึง ชีคห์ แซมบ์ ไปให้ เดนเวอร์ นักเกตส์ เพื่อแลกกับ อัลเลน ไอเวอร์สัน
แม้อายุอานามขึ้นหลัก 33 ปี แต่อดีตราชาการทำแต้มของ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส อย่าง ไอเวอร์สัน ถือว่ามีเขี้ยวเล็บอยู่ หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม นักเกตส์ เลือกทิ้งซูเปอร์สตาร์ออกมา ผมเชื่อว่า มาร์ค วอร์เคนทีน ผู้จัดการทั่วไป รวมถึง จอร์จ คาร์ล หัวหน้าโค้ชคงคิดดีแล้ว เพราะว่าคอมโบเซต ไอเวอร์สัน กับ คาร์เมโล แอนโธนีย์ ออกมาไม่สวยดั่งที่คิดไว้ตอนแรก สู้ลองเสี่ยงดึง บิลล์อัพส์ การ์ดประสบการณ์สูงมาจ่ายบอลสวยๆ ให้ “เมโลแมน” หรือว่า เคนยอน มาร์ติน ทำคะแนนจะดีกว่า
ทาง พิสตันส์ การมาของ “The Answer” เฮคโค้ช ไมเคิล เคอร์รี คงต้องปรับจังหวะเกมให้เร็วขึ้น “เอ.ไอ.” น่าจะมีบทบาทในการเปิดช่องทะลุทะลวงคู่แข่งได้ดีตามที่ ดูมาร์ส คาดหวัง ส่วนการขาดหายไปของ บิลล์อัพส์ ไม่ใช่ปัญหา ไอเวอร์สัน คุมบอลได้อยู่แล้ว ทั้งยังปั้น ร็อดนีย์ สตัคกี ขึ้นมาทดแทนได้พักใหญ่แล้วด้วย
แต่เหตุผลสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในการเทรดครั้งนี้ สื่อมะกันเชื่อว่า พิสตันส์ ไม่ได้มองแค่ความสำเร็จในฤดูกาลนี้เฉกเช่นหลายๆ ทีมที่เริ่มเคลียร์ “เพดานเงินเดือน” กันแล้ว อาทิเช่น นิวเจอร์ซีย์ เนตส์ หรือว่า เพเซอร์ส การเหลือสัญญาแค่ปีเดียวของ ไอเวอร์สัน ค่าจ้างระดับ 20.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ช่วยให้ พิสตันส์ มีเพดานเงินเดือนเหลือเฟือสำหรับลุ้นซูเปอร์สตาร์ในปี 2009 อย่าง คาร์ลอส บูเซอร์, เจอร์เมน โอนีล หรือว่า แอล แฮร์ริงตัน
หรือถ้าเลือกเมินเฉยตลาดฟรีเอเย่นต์สักหนึ่งปี หลังจบฤดูกาล 2009/10 พิสตันส์ อาจติดปีกผงาดขึ้นมาทวงคืนความยิ่งใหญ่จากเหล่ามหาหินทางฝั่งตะวันตก เพราะถึงคราวนั้นมีโอกาสสูงทีเดียวที่ดาวเด่นอย่าง เลอบรอน เจมส์, ดีเวย์น เหว็ด หรือแม้แต่ คริส บอช จะหลุดมาอยู่ในมือ ซึ่งถ้าได้จิ๊กซอว์สำคัญเหล่านี้มาเติมแต่งจริงแฟนๆ ในมิชิแกนคงคึกคักไม่หยอก
